บล.เอเซีย พลัส: 

กําไร 2Q65 ตามคาด และปันผล 1H65 ที่ 3.2%

กำไรสุทธิ 2Q65 ตามคาด 338 ล้านบาท (+3.2%qoq, -3.9% yoy) ตามรายได้จากการขายอสังหาฯ 1.6 พันล้านบาท (+3% goq, 2.5% yoy) ส่วนใหญ่มาจากการส่งมอบของ Backlog สิ้น 1Q65 ที่มีอยู่ 1.46 พันล้านบาท ด้าน Gross Margin ยังยืนสูง 39% และ SG&A/Sales ทรงตัว 13% ทำให้กำไร 1H65 เท่ากับ 666 ล้านบาท คิดเป็น 45% ของประมาณการกำไรทั้งปี

คงประมาณการกำไรปี 2565 คาดเติบโต 6% yoy ขึ้นทำ New High ใหม่ที่ 1.47 พันล้านบาท ภาพกำไรช่วง 2H65 จะฟื้นตัวดีขึ้นกว่า 1H65 จากแผนเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 4.28 พันล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจ PER เพียง 6 เท่า โดย LALIN ประกาศจ่ายปันผล 1H65 ดีกว่าคาดที่หุ้นละ 0.305 บาท คิดเป็น Div yield 3.2% (ขึ้น XD 29 ส.ค. 2565) คงคำแนะนำซื้อ

กําไร 2Q65 ตามคาด

กำไรสุทธิ 2Q65 ตามคาด 338 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2%qoq (แต่ลดลง 3.9% yoy) โดยมาจากรายได้จากการขายอสังหาฯ แนวราบอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท เพิ่ม 3.0%qoq (ลดลง 2.5% yoy) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรับรู้รายได้ของ Backlog สิ้น 1Q65 ที่รอส่งมอบราว 1.5 พันล้านบาท และบางส่วนจากการเปิดขาย 2 โครงการแนวราบใหม่ในงวด 2Q65 มูลค่า 1.15 พันล้านบาท ในขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ทรงตัวที่ระดับ 13.1% และ Gross Margin ยืนระดับสูงต่อเนื่องที่ 39% ส่งผลให้ Norm Profit Margin เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาที่ 20.8% จาก 20.7% ในงวด 1Q65 (ลดลงจาก 21.1% งวดปีก่อน)

แม้ยอดโอนฯ 1H65 สามารถเติบโต 0.5% yoy มาอยู่ที่ 3.21 พันล้านบาท และ Gross Margin ทรงตัวสูงที่ระดับ 39% อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่ๆ ในอนาคต ทําให้ SG&A/Sales เพิ่มขึ้นเป็น 13.1% เทียบกับ 12.8% เดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไร 1H65 อยู่ที่ 666 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2% yoy (คิดเป็นสัดส่วน 45% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565) ด้านโครงสร้างการเงินยังแข็งแรง มี Net Gearing ระดับต่ำเพียง 0.23 เท่า (งวดก่อน 0.21 เท่า)

แนวโน้มกำไร 2H65 ดีขึ้นจากการเปิดอีก 6 โครงการใหม่

ภาพกำไร 2H65 จะฟื้นตัวกว่า 1H65 จากรายได้ที่คาดว่าจะไต่ระดับขึ้นจากแผนเปิดโครงการใหม่มากขึ้นใน 2H65 ด้วยจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 4.28 พันล้านบาท แบ่งเป็นช่วง 3Q65 เปิด 4 โครงการมูลค่า 3.12 พันล้านบาท และ 4Q65 จะเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่า 1.16 พันล้านบาท (เทียบกับ 1H65 เปิด 5 โครงการ รวม 3 พันล้านบาท) คาดยอดโอนฯ ปีนี้สูงขึ้น 5.3% yoy เท่ากับ 6.9 พันล้านบาท ด้าน Gross Margin ขายฯ จะสามารถยืนสูงที่ระดับ 39% ตามความสามารถในการบริหารต้นทุนที่ดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ คงประมาณการกำไรปี 2565 เติบโต 6% yoy ทำ New High ใหม่ที่ 1.47 พันล้านบาท

ปันผล 1H65 สูง 3.2%..แนะนำซื้อ

กำหนด FV ปี 2565 เท่ากับ 12.70 บาท อิง PER 8 เท่า และ Norm EPS ปี 2565 อยู่ที่ 1.59 บาท ให้น้ำหนักกำไร 2H65 จะดีกว่า 1H65 จากการเปิดโครงการใหม่ หนุนยอด Presale และการส่งมอบที่จะทยอยดีขึ้น ขณะที่ Valuation น่าสนใจ PER เพียง 6 เท่า LALIN ประกาศจ่ายปันผล 1H65 ดีกว่า คาดหุ้นละ 0.305 บาท (คาด 0.295 บาท) คิดเป็น Div yield 3.2% (ขึ้น XD 29 ส.ค. 2565) คงคำแนะนำซื้อ

ESG

Environment : คำนึงถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การออกแบบบ้าน โดยเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Social : ดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างสม่ำเสมอ เช่น การบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และการให้ทุนการศึกษา 

Governance : ให้ความสำคัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ทั้งภายในและภายนอกบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างบริษัท กับผู้มีส่วนได้เสีย

ประเด็นความเสี่ยง

1.เนื่องจากสินค้าแนวราบของบริษัทเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ทำให้กลุ่มนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง (Rejection Rate) ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย และความสามารถในการโอนกรรมสิทธิ์ ไม่เป็นไปตามคาดได้

2.ระดับการแข่งขันในอุตสาหกรรมตลาดอสังหาฯ รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้การควบคุมเรื่องประสิทธิภาพการทำกำไรทำได้ยากขึ้น

LALIN แนะนํา ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 9.30

ราคาเป้าหมาย (บาท) 12.70

Upside (%) 36.5

Dividend yield (%) 7.0

- Advertisement -