บล.เอเซีย พลัส:
ออก START…เตรียม SPRINT
งวด 2Q65 กำไรสุทธิ 31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86%QoQ มีตัวช่วยสำคัญจาก FX gain 57 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจก่อสร้างมีการรับรู้รายได้ล่าช้าจากโครงการ Crisp และค่าใช้จ่ายที่วิ่งนำรายได้ในช่วงแรกของการเริ่มงาน กดดัน Gross margin ให้ต่ำลง แต่ยังเชื่อมั่นว่าจะเห็นภาพการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง ตามรายได้ที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังโครงการ Crisp เข้าสู่ช่วง peak การรับรู้รายได้
ผลประกอบการเตรียมทะยานขึ้นตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป ยืนยันภาพการเข้าสู่ปีแห่งการฟื้นตัว พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างจากกระแสการลงทุนในธุรกิจ พลังงานสะอาดทั่วโลก โดยมีงานประมูล 3 โครงการ ที่รอลุ้นผลช่วง 4Q65 ขณะที่ราคาหุ้นไม่ได้ตอบรับปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น ประเมิน FV อิงค่าเฉลี่ย PBV 5 ปี+0.5SD ที่ 1.13 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 2.42 บาท แนะนำ ซื้อ มี Upside 36.8% และคาดหวังปันผลได้อีก 2.82%
งวด 2Q65 กำไรสุทธิ 31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86%QoQ
งวด 2Q65 กำไรสุทธิ 31 ล้านบาท (+86%QoQ,-45%YoY) ปัจจัยหนุนกำไรไตรมาสนี้มาจาก FX Gain จำนวน 57 ล้านบาท รับอานิสงค์เงินบาทที่อ่อนค่าในงวด 2Q65 ทำให้สินทรัพย์สกุลดอลลาร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อแปลงค่าเป็นเงินบาท หากไม่นับรายการดังกล่าว จะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน 26 ล้านบาท เกิดจากการรับรู้รายได้ก่อสร้างที่ไม่ได้เร่งตัวขึ้นเร็วอย่างที่คาดไว้ เนื่องจากโครงการ Crisp ใช้เวลาในการ Set Up Facility เพื่อกลับมาทำงานใหม่ล่าช้ากว่าแผน ส่งผลให้ไตรมาสนี้ BJCHI มีรายได้ก่อสร้างเพียง 367 ล้านบาท ลดลง 20%YoY หลักๆ มาจากโครงการ Santos และโครงการ Crisp โดยการรับรู้ค่าใช้จ่ายในการ Set up โครงการ Crisp เป็นค่าใช้จ่ายในงบ 2Q65 ทันที ขณะที่การรับรู้ รายได้ยังเกิดขึ้นไม่มาก ส่งผลให้ Gross margin เฉลี่ยลดลงเหลือเพียง 4.1% เทียบกับ 18.8% ใน 2Q64 และ 17.5% ใน 1Q65 ส่วน SG&A ปรับเพิ่มขึ้น 50%QoQ อยู่ที่ 47 ล้านบาท มาจากค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการทำงานโครงการ Crisp
โครงการ CRISP เป็นปัจจัยขับเคลื่อนกำไรที่สำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง
การรับรู้รายได้ก่อสร้างโครงการ Crisp ซึ่งเป็นโครงการหลักคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 85% ของ Backlog ทั้งหมดที่มีอยู่ 3 พันล้านบาท จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เดือน ส.ค 65 เป็นต้นไป โดย BJCHI ได้มีการเพิ่มจำนวนคนงานจาก 2Q65 ที่มี 2,500 คน เป็น 2,900 คน ในเดือน ส.ค เพราะแผนงานปีนี้ โครงการ Crisp จะมีการรับรู้รายได้กว่า 1,600-1,800 ล้านบาท ขณะที่ช่วง 1H65 BJCHI รับรู้รายได้จากโครงการ Crisp ไปเพียง 250 ล้านบาท ซึ่งการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นที่น่าจะวิ่งเข้าสู่เป้าหมายของบริษัทที่ 15% จากความประหยัดต่อขนาดที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากรายได้ธุรกิจหลักแล้ว ยังมีรายการพิเศษที่ BJCHI อยู่ระหว่างเจรจา ได้แก่ ค่าก่อสร้างค้างชำระโครงการ TUPI และค่าเร่งงานโครงการ Koodaidary มูลค่ารวม 100 ล้านบาท ที่จะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้แบบไม่มีต้นทุน หากเจรจากับลูกค้าสำเร็จ
ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนไปในทางบวก แนะนำ ซื้อ
ผลประกอบการเตรียมทะยานขึ้นตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป ยืนยันภาพการเข้าสู่ปีแห่งการฟื้นตัว พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างจากกระแสการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดทั่วโลก โดยมีงานประมูล 3 โครงการ ที่รอลุ้นผลช่วง 4Q65 ได้แก่โครงการ Green Energy 2 โครงการ ในภูมิภาคตะวันออกกลางและอเมริกาเหนือ และโครงการ Santos เฟส 5 มูลค่า รวม 4.2 พันล้านบาท ช่วยต่อยอดการเติบโตที่ต่อเนื่องในปี 2566 ขณะที่ราคาหุ้นไม่ได้ ตอบรับปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น ประเมิน FV อิงค่าเฉลี่ย PBV 5 ปี +0.5SD ที่ 1.13 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 2.42 บาท แนะนำ ซื้อ มี Upside 36.8% และคาดหวังปันผลได้อีก 2.82%
ประเด็นความเสี่ยง
1. อัตรากำไรขึ้นต้นมีความสัมพันธ์กับภาวะการแข่งขันในตลาด ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา รวมไปถึงความประหยัดต่อขนาดที่จะมีผลต่อต้นทุนคงที่ต่อหน่วย โดย Gross margin ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสมมุติฐานทุก 1% จะกระทบต่อกำไรสุทธิ 15%
2. ความไม่แน่นอนของรายได้ในอนาคต เนื่องจากการจัดทำประมาณการของฝ่ายวิจัย ตั้งบนสมมุติฐานว่าปี 2565 BJCHI จะได้รับงานใหม่เข้ามา 3,000 ล้านบาท หากการรับงานใหม่ไม่เป็นไปตามที่คาด ก็อาจทำให้ประมาณการรายได้ปี 2565-2566 ลดลงต่ำกว่าคาดได้
BJCHI แนะนํา ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 1.77
ราคาเป้าหมาย (บาท) 2.42
Upside (%) 36.80
Dividend yield (%) 2.82