น้ำมันลดลงต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดสงครามถือเป็นตัวสะท้อนเศรษฐกิจ

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนที่ปิดบวก 0.7% รับแรงหนุนเชิงบวกจากกลุ่มค้าปลีก หลังประกาศผลประกอบการที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ (Wallmart, Homedepot) ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลดลง 2.9% ตลาดกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังจากสหรัฐฯ และจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ด้านสหรัฐฯเปิดเผยการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ที่ 1.45 ล้านยูนิตต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.53 ล้านยูนิต ส่วนจีนเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ต่ำกว่าตลาดคาดอย่างมีนัยยะสำคัญพร้อมประกาศลดดอกเบี้ยสวนทางกับหลายๆ ประเทศทั่วโลกที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยสะท้อนถึงการอ่อนแรงทางเศรษฐกิจ

Market Outlook

SET INDEX วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นเล็กน้อยในกรอบ 1630 – 1637 รับแรงส่งเชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นราว 0.58% อย่างไรก็ตาม ยังประเมินเช่นเดิมว่า Upside ตลาดหุ้นยังจำกัด เนื่องจากปรับขึ้นมารับเงินเฟ้อที่ผ่านจุดสูงสุดไปพอสมควรแล้ว ทั้งนี้หากประเมินจากจุดต่ำสุด SET ปรับขึ้นมาแล้ว 6.3% ด้าน Dow Jones ปรับขึ้นมา 14% โดยช่วงถัดไปยังมีความเสี่ยงไม่ว่าจะจากเงินเฟ้อ ที่อาจลดลงไม่มากหรือยืนค้างระดับ 8% +/- เมื่อเป็นเช่นนั้นตลาดจะกลับมากังวลกับภาวะดอกเบี้ยที่มีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันอีกกรณีคือหากเงินเฟ้อลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ อาจเกิดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลง แต่การปรับลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ คือตัวสะท้อนจากตลาดต่อความกังวลเศรษฐกิจถดถอย สุดท้ายเงินเฟ้อจะเปลี่ยนเป็นเงินฝืด กดดันการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน ซึ่งล่าสุดเริ่มมีสัญญาณออกมาผ่านราคาน้ำมันที่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 6 เดือน และเป็นที่น่าแปลกใจว่าต่ำกว่าระดับก่อนเกิดสงครามระหว่างยูเครน-รัสเซีย

ด้านปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ รายงานผลประชุม FED ของรอบการประชุมเดือน ก.ค. ปัจจุบันตลาดประเมินว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. จะปรับขึ้น 0.50% ด้วยโอกาส 59% หากถ้อยแถลงคืนนี้ยังคงแสดงทิศทางว่าจะไม่เร่งขึ้นมากกว่า 0.50% ก็มองไม่มีผลต่อการลงทุนมากนัก รวมไปถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่ Bloomberg คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.1%MoM ลดลงอย่างมีนัยยะจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 1%MoM

เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังคงเน้นหาจังหวะทยอยลดพอร์ตการลงทุนจากหลายๆ ความเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นยังเน้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลดลง (SCC SCGP TOA) รวมไปถึงกลุ่มอิงในประเทศ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME HMPRO GLOBAL) ร้านอาหาร (M) ธนาคาร (BBL KBANK SCB TTB TISCO) สื่อนอกบ้าน (PLANB) ท่องเที่ยว (CENTEL ERW MINT SPA) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

Pi Stock Picks

HMPRO (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 17.00 บาท)

คาดกำไรของบริษัทจะโตแข็งแกร่ง YoY ใน 3Q22 หนุนจากการฟื้นตัวของ SSSG จากฐานต่ำ (ผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 ใน 3Q21) แต่คาดว่าในเชิง QoQ จะอ่อนตัวลงจากปัจจัยตามฤดูกาล (ฤดูฝน)

MAJOR (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 23.70 บาท)

ตารางภาพยนตร์ปี 2023 ยิ่งน่าสนใจกว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เพราะส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ภาคต่อที่มักดึงดูดผู้ชมได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย Transformers: Rise of the Beasts, Mission Impossible 7: Dead Reckoning, Fast & Furious X, Aquaman

- Advertisement -