บล.เอเซีย พลัส:
ปรับกลยุทธ์ ยกระดับ GROSS MARGIN
การประชุมนักวิเคราะห์ RS ปรับเป้าหมายรายได้ปี 2565 ลง 21% จาก 5.1 พันล้านบาท เหลือ 4.2 พันล้านบาท หลักๆ เกิดจากธุรกิจ Commerce ที่รายได้ต่ำ คาดในช่วงครึ่งปีแรกจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัว ขณะที่ธุรกิจ Entertainment ปรับรายได้ในส่วน Content Licensing และรายได้จากการ Redeem เหรียญ Popcoin ลง ใกล้เคียงกับประมาณการกำไรปีนี้ที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ที่ 250 ล้านบาท
แนวโน้มกำไรสุทธิที่คาดจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป จากกลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าประเภท In-House ที่มี Margin สูงกว่าสินค้าจาก Partner และรายได้จากธุรกิจ Entertainment ที่จะมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ๆ 2 งานกลับมาจัดได้อีกครั้ง ราคาหุ้นปรับฐานมากว่า 48% นับตั้งแต่ต้นปี คาดสะท้อนความผิดหวังต่อผลการดำเนินงานงวด 2Q65 ไปมากแล้ว คงคำแนะนำซื้อ…มูลค่าเหมาะสม 18.00 บาท
ปรับกลยุทธ์ยกระดับ GROSS MARGIN
การประชุมนักวิเคราะห์ RS พร้อมผลักดันยอดขายสินค้าภายใต้ธุรกิจ Commerce ชู กลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า In-House เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นงวด 2Q65 สัดส่วน In-house : สินค้า Partner อยู่ที่ 64:36 ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 80:20 ภายในสิ้นปีนี้ โดยสินค้าประเภท In-House จะมี Gross Margin ที่สูงกว่าสินค้าจาก Partner คาดการณ์ Gross Margin เฉพาะธุรกิจ Commerce ปรับตัวสู่ระดับ 70% จากปัจจุบันที่มี Gross Margin อยู่ที่ราว 60-65% หลังการปรับกลยุทธ์เพื่อยกระดับ Gross Margin โดยมีแผน ออกสินค้าเพิ่มกว่า 61 SKUs ใน 2H22 RS พร้อมพัฒนาระบบ CRM (Customer Relationship Management) Technology ในการนำเสนอสิทธิพิเศษสำหรับ Top Spender 5 พันคนแรก
RS ปรับเป้าหมายรายได้ปี 2565 ลง
RS ปรับเป้าหมายรายได้รวมลง 21% จากเดิม 5.1 พันล้านบาท เหลือ 4.2 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็น
1.) ธุรกิจ Commerce ปรับเป้ารายได้ลง 25% จาก 2,750 ล้านบาท เหลือ 2,200 ล้านบาท สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวจากภาวะเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง และการลดยอดขายสินค้าจาก Partner โดยเน้นสินค้า In-House มากขึ้นซึ่งจะกระทบต่อยอดขายในช่วงการเปลี่ยนผ่าน
2.) ธุรกิจสื่อ ปรับเป้ารายได้ลง 8% จาก 1.4 พันล้านบาท เหลือ 1.3 พันล้านบาท สะท้อนแนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาชะลอตัวใน 2H65
3.) ธุรกิจเพลง ปรับเป้ารายได้ลง 30% จาก 325 ล้านบาท เหลือ 250 ล้านบาท
4.) Popcoin & Online Media ปรับรายได้ลง 67% จาก 300 ล้านบาท เหลือ 100 ล้านบาท หลักๆ คือการปรับลดรายได้จากการ Redeem เหรียญ Popcoin ลงเนื่องจากความล่าช้าในการนํา Popcoin เข้า Trade ในตลาด Exchange
5.) Concert & Event ปรับเพิ่มรายได้ 8% จาก 325 ล้านบาท เป็น 350 ล้านบาท โดยธุรกิจนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างกำไรให้ RS ในช่วงครึ่งปีหลังจากกิจกรรมต่างๆ ที่กลับมาจัดได้ตามปกติ โดยมี Highlight สำคัญคือการจัด International Concert ที่คาดหวังจะสร้างรายได้สูงถึง 130 ล้านบาท
โดยรวม RS ตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท บน Net Margin 6-8% คาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ในช่วง 252-336 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 65 ไว้ ที่ 250 ล้านบาท โดยประเมินแบบอนุรักษ์นิยม แม้ผลประกอบการ 1H65 จะคิดเป็นเพียง 27% ของประมาณการทั้งปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 3Q65 เป็นต้นไป จากกลยุทธ์การเพิ่มสัดส่วนสินค้า In-House ประกอบกับรายได้ส่วนเพิ่มจากธุรกิจ Entertainment ที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ กลับมาจัด 2 งาน ได้แก่ คอนเสิร์ต Kamikaze (รอบ ต.ค. 65) และ RS Meeting (รอบ ธ.ค. 65) และธุรกิจ Event ที่คาดเริ่มกลับมาจัดได้ และเป็นธุรกิจที่มี Margin สูง
แนะนําชื้อ FAIR VALUE 18.00 บาท
แม้บริษัทมีการปรับเป้ารายได้ปี 2565 ลง อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิยังอยู่ในกรอบที่ฝ่ายวิจัยประเมินไว้ คาดผลประกอบการผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นตอบสนองจากกำไรงวด 2Q65 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดไปมากแล้ว จึงคงคำแนะนำซื้อ… Fair Value อยู่ที่ 18.00 บาท
ประเด็นความเสี่ยง
1.เงินเฟ้อที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงและกินระยะเวลานานกว่าคาด จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคหดตัวต่อเนื่อง
2.สินค้าประเภทเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ CAMU-C อาจมียอดขายต่ำคาดจากกระแสการต่อต้านกัญชา
RS แนะนำ ซื้อ
ราคาปัจจุบัน (บาท) 15.30
ราคาเป้าหมาย (บาท) 18.00
Upside (%) 17.65
Dividend yield (%) 1.15