ตลาดเริ่มจับตาดูทิศทางเงินเฟ้ออีกครั้ง ยังคงคำแนะนำลดพอร์ต
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนอ่อนตัวลง 0.5% รับแรงกดดันจากรายงานผลประชุม FED ประจำเดือน ก.ค. ที่คณะกรรมการระบุว่า FED ยังมุ่งมั่นจะจัดการแก้ปัญหากับเงินเพื่อประกอบกับผิดหวังกำไรของหุ้น Target (ค้าปลีกในสหรัฐ) หลังรายงานกำไรต่อหุ้นที่ 0.39 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 0.72 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.4% หลังสหรัฐฯเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลง 7.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เปิดเผยยอดค้าปลีกทรงตัวเทียบกับ เดือนก่อนตากว่าตลาดคาดจะขยายตัว 0.1%
Market Outlook
SET INDEX วันนี้คาดอ่อนตัวลงในกรอบ 1627 – 1637 รับแรงกดดันจาก
(1) ตลาดหุ้น Dow Jones ที่ปรับฐานลง 0.5% และเช้านี้ Nikkei ที่แกว่งลบ 1.09%
(2) คาดว่าจะเผชิญแรงทำกำไรบ้าง หลังปรับขึ้นมาร้อนแรงจากจุดต่ำสุดแล้วราว 7%
(3) ทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เริ่มกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หรือเป็นการสะท้อนของตลาดต่อความกังวลเงินเฟ้ออีกครั้ง สอดคล้องกับความคาดหวังเงินเฟ้อของตลาด 5 ปีจากนี้เริ่มกลับมาปรับขึ้น
ทั้งนี้ แนะติดตามใกล้ชิดเกี่ยวกับคาดการณ์ดอกเบี้ยของนักลงทุน ซึ่งปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักราว 64.5% ที่การประชุมเดือน ก.ย. จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หากมีสัญญาณของความร้อนแรงทางเศรษฐกิจจนตลาดปรับมุมมอง ดอกเบี้ยจะเป็นแรงกดดันให้กับตลาดหุ้น สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามคืนนี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ Bloomberg คาดการณ์ที่ 4.87 ล้านยูนิต และผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg คาดที่ 2.65 แสนราย ปัจจุบันคล้ายกับว่าตลาดกลับมากังวลกับเงินเฟ้ออีกครั้ง ดังนั้นตัวเลขที่จะออกมาหากต่ำกว่าคาดการณ์ไว้เชื่อว่าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้นมากกว่าตัวเลขที่ดีกว่าคาดการณ์
เชิงกลยุทธ์การลงทุนคงคำแนะนำทยอยลดพอร์ตการลงทุน เนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับเชิงบวกไปค่อนข้างมากกับประเด็นเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด อย่างไรก็ตาม ยังห่างไกลกับเป้าหมายของ FED ที่ระบุชัดเจนว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวยังอยู่ที่ 2% ดังนั้นภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นจึงจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาช่วงดอกเบี้ยปรับขึ้นมักตามมาด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้น ได้แก่ กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับขึ้น กลุ่ม Defensive ในช่วงตลาดผันผวน อาทิ โรงพยาบาล (BCH CHG) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) Domestic Play (BJC CPALL CRC HMPRO M MAJOR)
Pi Stock Picks
ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 246.00 บาท)
กลยุทธ์ครึ่งปีหลังจะเน้นที่การเพิ่มรายได้ต่อหมายเลขมากกว่าจะแข่งขันด้านราคา เบื้องต้นคาดการณ์กำไรครึ่งปีหลังจะขยายตัว 13% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประกอบกับธุรกิจ Broadband เติบโตต่อเนื่อง
CRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43.00 บาท)
SSSG ในเดือน ก.ค. 2022 ของบริษัทยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ด้วยการเติบโตระดับหลักสิบ คาดผลประกอบการเชิง YoY พลิกเป็นกำไรใน 3Q22 จากขาดทุน แต่ในเชิง QoQ คาดว่าจะลดลงตามปัจจัยฤดูกาล
