Our View? “ระมัดระวังแรงขายทำกำไร”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,620 และแนวต้านที่บริเวณ 1,640 คาดตลาดจะเริ่มเผชิญแรงขายทำกำไรตามทิศทางราคาตลาดต่างประเทศ หลังเมื่อคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยรายงานการประชุม FOMC รอบเดือน ก.ค. ที่ ผ่านมาค่อนข้างเป็นไปตามที่ตลาดรับรู้ไปแล้วในช่วงก่อนหน้า โดย FED ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ แต่อาจจะเริ่มชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้บ้างตามแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสเข้าสู่ภาวะขาลง สอดคล้องกับคาดการณ์ก่อนหน้าที่ตลาดรับรู้ไปแล้วว่า FED มีแนวโน้มการผ่อนคลายการคุมเข้มทางนโยบายทางการเงินในระยะถัดไป โดยล่าสุด CME FED Watch Tools ยังคงคาด FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ที่ระดับ 0.50% ที่ความน่าจะเป็น 60.0% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนหน้า
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นได้บ้าง หลังสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐรายสัปดาห์ออกมาลดลง 7.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดที่เพียงลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐยังมีความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นการรีบาวด์ระยะสั้นเท่านั้น เรายังคงให้น้ำหนักจากแนวโน้มการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจ ซึ่งคาดจะสามารถบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์หน้า คาดจะส่งผลให้อิหร่านมีโอกาสส่งน้ำมันกลับเข้าสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งในระยะถัดไป คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงถ่วงตลาดได้ต่อ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC และ GULF) ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มราคาต้นทุนพลังงาน-ก๊าซธรรมชาติปรับลดลง และการปรับขึ้นค่า Ft ต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยในประเทศ เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยใน 2H′65 จะสามารถขยายตัวได้ดีกว่า 1H’65 โดยจะได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น สอดคล้องกับ Bloomberg รายงานค่าเงินบาทในช่วง 2H′65 มีโอกาสกลับมาแข็งค่าที่สุดในเอเชียจากประเด็นดังกล่าว คาดจะหนุนทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ยังคงแนะนำติดตามการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยขึ้นมากกว่าคาดการณ์ปัจจุบันที่ระดับ 3.3% ในการประชุม กนง. ครั้งถัดไป
อย่างไรก็ตาม คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงจากระดับ 1,520 – 1,630 ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มองรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างพอสมควรแล้ว Valuation ของตลาดในปัจจุบันที่เริ่มกลับมาตึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า เริ่มอยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะจำกัด Upside ระยะสั้นของหุ้นไทยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังชอบหุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI, PLANB และ MACO) และกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CRC และ MAKRO) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมือง และแนวโน้มนักท่องเที่ยวกลับมาดีมากขึ้นในช่วง 2H65 หนุนการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “MAKRO”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 34.75 / 33.75 Target 37.50 / 43.50 Stop <33.50