บล.ฟิลลิป:
ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ – LEO
Key Point
ครึ่งปีหลังดีตาม high season ของธุรกิจยังมีการเปิด Self Storage และ Container Depot แห่งใหม่ ในขณะที่ได้มีการจับมือพันธมิตร และยังอยู่ระหว่างเจรจาอีก 2-3 ราย ในการตั้ง JV เพื่อขยายธุรกิจทั้ง Self Storage, Warehouse, Cold Chain Logistics และ Logistic Services รวมไปถึง แผนการทำ M&A ซึ่งช่วยหนุนการเติบโตได้ต่อเนื่อง ยังแนะนำ “ซื้อ”
ครึ่งปีหลังแนวโน้มดีตามฤดูกาล
ปกติในครึ่งปีหลังจะเป็น High Season ของธุรกิจที่จะมีการนำเข้า/ส่งออก ทั้งของไทยและต่างประเทศ ก่อนเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ อีกทั้งยังได้รับประโยชน์จากเทศกาล Global Shopping Sales ของ e-Commerce Platform ทั่วโลก เช่น เดือน ก.ค. มีเทศกาล Prime Day ของ Amazon ซึ่งยอดขายยังมีการเติบโตจากปีก่อน และจีนที่จะมีเทศกาล 9/9, 10/10 และวันคนโสด 11/11 ที่เป็นเทศกาล Shopping Sale ใหญ่ หนุนการขนส่งสินค้า e-Commerce อีกทั้งลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในครึ่งปีแรกอีก 385 ราย หรือ 40% จากสิ้น 2Q64 เป็น 1,125 ราย ก็มีส่วนในการเติบโตที่เพิ่มขึ้น, เปิด Self Storage แห่งที่ 2 ที่เยาวราชเรียบร้อยแล้ว, เดือน ก.ย. จะเปิด Container Depot (ลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์) แห่งที่ 2 ใหญ่กว่าแห่งแรกเท่าตัว และบริษัทร่วมทุน คาร์ดินัล มาริไทม์ (ประเทศไทย) ผลประกอบการดีกว่าเป้าที่วางไว้
จับมือกับพันธมิตรทั้งที่ประกาศแล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาในการขยายธุรกิจ
ในช่วงที่ผ่านมาทาง LEO ได้มีการประกาศพันธมิตรในการทำธุรกิจร่วมกัน เช่น SENA ในการทำ Self Storage แห่งที่ 3 ที่เสนาเฟสท์ เจริญนคร และศึกษาการทำแห่งที่ 4 รวมถึงศึกษาการทำ Warehouse และ Logistic Services, เข้าถือหุ้น 9.9% ในแซดทีเอสฯ (เครือ SCC) ซึ่งให้บริการขนส่งระหว่างประเทศในแฟลตฟอร์ม “Zupports” ทำให้การทำงานของ LEO สะดวกและรวดเร็วขึ้น และต่อยอดในการหาลูกค้าซึ่งกันและกัน, ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับ Yunnan Tengjun Multimodal Transport Holding รัฐวิสาหกิจของจีน เพื่อพัฒนาระบบบริการรถไฟสำหรับการขนส่งผลไม้ และสินค้าอีคอมเมิร์ซระหว่างไทยและจีน, ร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนสุขฤทัย เกษตรปลอดภัย ในการสนับสนุนการเพาะพันธุ์ปลูก-ขายต้นกล้ากัญชา ซึ่งเป็นการเข้าสู่ธุรกิจ Non-logistics นอกจากนี้ยังมี การเจรจากับพันธมิตรอีก 2-3 ราย ทั้งบริษัทจดทะเบียนฯ และบริษัทข้ามชาติระดับ Regional Player เพื่อตั้ง JV ในการพัฒนาธุรกิจ Warehouse ซึ่งในปีแรกคาดพื้นที่ให้บริการ 10,000 ตรม., Cold Chain Logistics ซึ่งได้มีการเซ็น MOU แล้ว รอเซ็นสัญญาขนาดพื้นที่ 4,000 ตรม. และ Self Storage ซึ่งร่วมกับพันธมิตรและดำเนินการด้วยบริษัทเอง รวมถึงหาโอกาสในการ M&A ซึ่งน่าจะเปิดตัวได้ในปีนี้ ส่วนพันธมิตรเดิม China Post ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจอีกแห่งของจีนก็จะขยายงานระบบรางระหว่างจีน ลาว-ไทยให้มากขึ้น
ปรับประมาณการณ์ปี 2565 ขึ้น และคาดยังโตต่อเนื่องในปี 2566 ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 21 บาท
จากครึ่งปีแรกรายได้และกำไรเติบโตมาก 139% และ 134% y-y ที่ 2,985 ล้านบาท และ 190 ล้านบาท ซึ่งกำไรเกือบเท่าปี 2564 ที่มีกำไร 199 ล้านบาท ประกอบกับในครึ่งปีหลังเป็น high season และการขยายงานตามข้างต้น จึงปรับรายได้ขึ้นเป็น 6,187 ล้านบาท และปรับกำไรขึ้นจากเดิม 43% เป็น 386 ล้านบาท ครึ่งปีแรกคิดเป็นราว 50% หลังประกาศงบได้ประกาศจ่ายปันผล 0.20 บาท XD 20 ส.ค. และโครงการซื้อหุ้นคืน 5 ล้านหุ้น วงเงิน 65 ล้านบาท ในช่วง 30 ส.ค. 65 – 28 ก.พ. 66 ซึ่งจากการขยายงานในปี 2565 รวมถึงแผนงานในอนาคตและฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ดี คาดในปี 2566 รายได้เติบโต 15% เป็น 7,124 ล้านบาท และกำไรโต 16% เป็น 447 ล้านบาท จากการเติบโตที่ชะลอลง ปรับลดระดับ P/E ลงเป็น 15 เท่า จาก 25 เท่า ราคาพื้นฐานปี 2566 ที่ 21 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยง
- ความเสี่ยงในการแข่งขันของธุรกิจสินเชื่อรายย่อย
- ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า