บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Srisawad Corporation (SAWAD.BK/SAWAD TB)* หันมารุกขยายสินเชื่อเช่าซื้ออย่างหนัก
Event
ปรับประมาณการกำไร และปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงกำไรปี 2565
Impact
ผลประกอบการ 2Q65
กำไรสุทธิของ SAWAD ใน 2Q65 อยู่ที่ 1 พันล้านบาท (-6% YoY แต่ +1% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่า consensus 6% ทำให้กำไรสุทธิในงวด 1H65 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท ( 16% YoY) คิดเป็น 45% ของประมาณการเต็มปีของเรา
สินเชื่อเร่งตัวขึ้น และ yield สินเชื่อดีขึ้น
บริษัทหันมารุกขยายสินเชื่ออย่างหนัก ทำให้สินเชื่อโตถึง 25% YoY และ 14% QoQ นำโดยสินเชื่อ H/P รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ซึ่งโตแรงถึง 60% QoQ และ 130% YTD สูงกว่าเป้าที่บริษัทตั้งเอาไว้ และทำให้ยีลด์สินเชื่อเพิ่มขึ้น 50bps QoQ และ 230bps YoY ซึ่งบริษัทอธิบายว่า yield ของสินเชื่อ HP รถมอเตอร์ไซค์ ใหม่อยู่ที่ 25% สูงกว่าของสินเชื่อจำนำทะเบียนซึ่งอยู่ที่ 17-18% ทั้งนี้ การที่สินเชื่อ HP เติบโตอย่างแข็งแกร่งทำให้สัดส่วนสินเชื่อกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นเป็น 23% ของสินเชื่อรวมจาก 12% เมื่อสิ้นปี 2564
กลายมาเป็นผู้เล่นหลักในกลุ่มสินเชื่อ HP รถมอเตอร์ไซค์ใหม่
ผู้บริหารเผยว่าบริษัทขยายสินเชื่อ HP โดยใช้ฐานจากสายสัมพันธ์ และจ่ายค่านายหน้าแก่ดีลเลอร์ที่ได้รับอนุญาตในอัตราที่จูงใจเพื่อให้ได้ยอดสินเชื่อเพิ่ม ส่งผลให้ SG&A เพิ่มขึ้นถึง 40% YoY และ 12% QoQ ใน 2Q65 และทำให้สัดส่วนต้นทุน/รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 41% ใน 2Q65 (จาก 39% ใน 1Q65 และ 34% ในปี 2564) ซึ่งค่าใช้จ่ายรายการนี้มักจะมีการจ่ายออกตั้งแต่แรก และมีแนวโน้มลดลงใน 2H65
คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
Gross NPL ลดลง 24% YoY และ 5% QoQ ในขณะที่สัดส่วน NPL ลดลงเหลือ 2.6% ใน 2Q65 (จาก 3% ใน 1Q65) โดย NPL ที่ลดลงเป็นเพราะบริษัทใช้นโยบายเร่ง write-off สินเชื่อ และสินทรัพย์ค้ำประกันที่ยึดกลับมา ส่วนยอดกันสำรองก็อยู่ในระดับต่ำเช่นกัน โดยอยู่ที่ 28bps ใน 2Q65 (จาก 20bps ใน 1Q65) ถึงแม้ว่าสินเชื่อ H/P รถมอเตอร์ไซค์จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่บริษัทมั่นใจว่าจะรักษาระดับ NPL ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4% ได้ และจะคงรักษาระดับค่าใช้จ่ายสำรองฯ/สินเชื่อ ต่ำเพียง 50bps
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565 ลง 7% แต่ปรับของปี 2566 ขึ้น +3% และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 72.5 บาท (จากเดิมที่ 66 บาท)
เนื่องจากสินเชื่อที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาด เราจึงปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ 1) ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในปี 2565/2566 เป็น 28%/25% (จากเดิมที่ 20%/20%) 2) ปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานขึ้นจากเดิมทำให้สัดส่วนต้นทุน/รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 37.6%/37.6% (จากเดิมที่ 344%) นอกจากนี้ เรายังขยับไปใช้ราคาเป้าหมายใหม่โดยอิงจาก PE ปี 2566 ที่ 17.5x ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 72.5 บาท (จากเดิมที่ 66 บาท) และคงคำแนะนำซื้อ
Risks
Yield ลดลง, ไม่สามารถขยายสินเชื่อโดย JV ที่ตั้งร่วมกับ GSB ได้, การลดขนาดธุรกิจ