บล.กรุงศรีฯ:
UBON BIO ETHANOL (UBE TB/ UBE.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | พลังงานและสาธารณูปโภค |
หุ้น | UBE |
มูลค่าพื้นฐาน | 2.50 |
คำแนะนำ | BUY |
กำไรใน 2Q ถูกฉุดจากการปิดโรงงาน คาดธุรกิจเอธานอลจะดีขึ้นใน 3Q แต่จะถูกหักล้างจากธุรกิจแป้ง starch และแป้ง flour ซึ่งเราคาดว่าปริมาณยอดขายแป้ง Flour จะต่ำกว่าที่คาดไว้ และได้ปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายแป้ง flour รวมถึงปรับลด GPM ของแป้ง starch ทั้ง native และ organic และแป้ง flour ลงในปี FY22-24 ทำให้ประมาณการกำไรปี FY22-24F ลดลงจากเดิม 1%/13%/17% ตามลำดับและส่งผลให้ราคาเป้าหมาย DCF ของเราเหลือ 2.50 บาท คิดเป็น PE ปี FY23 ที่ 21.3x
กำไรสุทธิใน 2Q อยู่ที่ 84 ลบ.(EPS 0.02 บาท) -28% qoq ,+22% yoy
กำไรใน 2Q ดีกว่าประมาณการของเรา 15% จากปริมาณยอดขายสูงเกินคาด ทั้งเอธานอล และ native starch ปริมาณยอดขายเอธานอลลดลง qoq จากการปิดโรงงานนาน 14 วัน โดย 27ml เป็นเอธานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง และอีก 3.5ml เป็นเอธานอลสำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ราคาขายเอธานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็น 26.90 บาท/ลิตร ราคาขายส่งเอธานอลที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมยังทรงตัวอยู่ที่ 31 บาท/ลิตร (70% ของปริมาณยอดขาย) ปริมาณยอดขายแป้ง Starch เพิ่มขึ้นเป็น 47k ตัน (จาก 31k ตันใน 1Q) โดย 31kt เป็นแป้ง native starch ส่วนอีก 14k เป็นแป้ง organic starch ในขณะที่ยอดขายแป้ง flour อยู่ที่ 408 ตัน โดยที่ GPM ยังทรงตัว qoq อยู่ที่ 14% ทั้งนี้ การที่เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราลแลกเปลี่ยน 42 ลบ
ผลการดำเนินงานของเอธานอลจะแข็งแกร่ง แต่ของแป้ง starch จะอ่อนแอ
คาดราคาเอธานอลเพิ่มขึ้นเป็น 27.90 บาท/ลิตร ใน 3Q ตามราคามันสำปะหลังที่ใช้เป็นวัตถุดิบ และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของแก๊ซโซฮอล์ UBE ซื้อมันสำปะหลังล่วงหน้าไปถึง 4Q22 ที่ 7.50 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาในปัจจุบัน 8.5-9.0 บาท/ลิตร ผลการดำเนินงานของธุรกิจเอธานอลน่าจะแข็งแกร่ง แต่ผู้บริหารคาดธุรกิจแป้ง starch น่าจะอ่อนแอ จากปริมาณยอดขาย organic starch ซึ่งมี margin สูง จะลดลงเหลือ 10-12k ตันใน 3Q ปริมาณยอดขาย native starch น่าจะทรงตัว qoq คาด margin แป้ง starch จะลดลง qoq จาก starch content อ่อนแอช่วงปลายฤดูกาล แต่คาดธุรกิจแป้ง starch จะฟื้นตัวได้ใน 4Q เมื่อเข้าฤดูเพาะปลูก (ธันวาคม-มีนาคม) ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังมี starch content ดีขึ้น และทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
คงคำแนะนำถือ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 2.50 บาท (จาก 3.00 บาท)
ปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายแป้ง flour ปี FY22-24 ลง 10% สะท้อนความล่าช้าในการเร่งปริมาณขาย และปรับลดสมมติฐาน GPM ลง 1ppt ทั้ง แป้ง starch แบบ native (เป็น 11%) และ organic (เป็น27%) และแป้ง flour (เป็น 37%) ทำให้ประมาณการกำไรปี FY22-24F ของเราลดลง 1%/13%/17% ตามลำดับ และส่งผลให้ราคาเป้าหมาย DCF ของเราลดลงเหลือ 2.50 บาท