บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Sappe (SAPPE.BK/SAPPE TB) โมเมนตัมกำไรยังโต ได้แข็งแกร่ง
Event
ประชุมนักวิเคราะห์, ปรับเพิ่มประมาณการกำไร และราคาเป้าหมาย
Impact
การส่งออกเร่งตัวขึ้นใน 2Q65
กำไรสุทธิของ SAPPE ใน 2Q22 อยู่ที่ 167 ล้านบาท (+9% QoQ และ +32% YoY) ในขณะที่กำไรสุทธิในงวด 1H65 อยู่ที่ 320 ล้านบาท (+50%) คิดเป็น 60% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา โดยอัตราการเติบโตของธุรกิจส่งออก (77% ของรายได้) เร่งตัวขึ้นเป็น 32% QoQ และ 71% YoY ใน 2Q65 และ 69% ในงวด 1H65 อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในประเทศลดลง 9% QoQ และ 22% YoY ใน 2Q65 และลดลง 15% ในงวด 1H65 เนื่องจากบริษัทตั้งใจโยกการผลิตสำหรับธุรกิจในประเทศไปยังธุรกิจส่งออกแทน ในขณะเดียวกัน อัตรากำไรลดลงประมาณ 80bps QoQ แต่เพิ่มขึ้น 60bps YoY ใน 2Q65 เนื่องจากต้นทุนบรรจุภัณฑ์ (pet resin) สูงขึ้น
โมเมนตัมการส่งออกยังคงแข็งแกร่งใน 3Q65F
ธุรกิจส่งออกของ SAPPE โตถึง 32% QoQ และ 71% YoY ใน 2Q65 โดยทุกตลาด (ยกเว้น US) เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตลาดฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย (25% ของรายได้) โตถึงกว่า 100% ในขณะที่เกาหลี (11% ของรายได้) โต 36% ส่วนยุโรป (15% ของรายได้) โต +92% มีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่ยอดส่งออก ลดลง 8% ทั้งนี้ยอดส่งออกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 84% ใน 2Q65 (จาก 67% ใน 1Q65) และมีแนวโน้มจะขยับขึ้นต่อไปอีกใน 3Q65F ดังนั้นทำให้เห็นการโตในรายได้ยังมีต่อเนื่องใน 3Q65 บริษัทจึงปรับเพิ่มเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้เป็น 30-35% (จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 20-25%) โดยรายได้ของ SAPPE ในงวด 1H65 โต 39% (การส่งออกโต 69% แต่รายได้ในประเทศหดตัว 13%)
เตรียมขยายกำลังการผลิต และคาดว่า margin จะเพิ่มขึ้น
บริษัทบอกว่าราคาเม็ดพลาสติกสำหรับขวดที่สูงขึ้นจะยังคงกดดันต้นทุนการผลิต และกดดัน GPM ไม่เกิน 1% ใน 3Q65 เพราะหลังจากนั้นจะมีการปรับขึ้นราคาขายใน 4Q65 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปริมาณยอดขายเติบโตสูงมาก ทั้งนี้เพื่อคว้าโอกาสในการเติบโต บริษัทจึงมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกประมาณ 20% ในปี 2566 ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้โตได้ประมาณ 35% และลดแรงกดดันในปี 2566 ลง
ปรับเพิ่มประมาณประมาณการกำไรปี 2565/2566/2567 ขึ้นอีก 6%/2%/2% และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 47.50 บาท
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นเพื่อสะท้อนการปรับสมมติฐานดังนี้ 1) อัตราการเติบโตของรายได้ปี 2565/2566/2567 เป็น 30%/20%/23% (จากเดิมที่ 20%/17%/17% ตามลำดับ) 2) สัดส่วน SG&A/รายได้ เป็นปีละ 34.5% (จากเดิมที่ 34.5%/33.8%/33.4% ตามลำดับ) เราขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 47.50 บาท โดยอิงจาก PE ปี 2566 ที่ 22x (de-rate จากเดิมที่ 24.5x) เพื่อสะท้อนแนวโน้มอัตราการ เติบโตของกําไรที่ลดลงในอีกสองปีข้างหน้า
Risks
ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน, ยอดส่งออกโต ไม่ต่อเนื่อง, เสียตำแหน่งในตลาด, และ margin ถูกกดดัน