บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Eastern Polymer Group (EPG) 1Q65/66 น่าผิดหวัง แนวโน้มจะดีขึ้น
TP Revision
ปรับประมาณการและเป้าหมายลง กำไรปีนี้จะประคองตัว คงแนะนำซื้อ
หลังผลประกอบการ 1Q65/66 น่าผิดหวัง แนวโน้มปี 2565/66 (เม.ย.2565-มี.ค.2566) ผู้บริหารยังมั่นใจในเป้าหมายยอดขายจะเติบโตต่อ 12-15% แรงหนุนจากการเข้าซื้อกิจการ กำลังการผลิตใหม่ และคำสั่งซื้อใหม่ เราปรับประมาณการลดลง คาดยอดขาย โต 8%YoY ส่วนกำไรจะประคองตัวใกล้เคียงปีก่อน แนวโน้มปี 2566/67 เราคาดจะกลับมาเติบโตใหม่ 7.4% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E 18.0 เท่า ต่ำกว่าเฉลี่ย 19.4 เท่า เราประเมินราคาเป้าหมายด้วยวิธี DCF (WACC 8%, LTG 3%) ได้เท่ากับ 120 บาท (ลดจาก 15 บาท จากประมาณการที่ลดลง) ราคาหุ้นมีอัพไซด์ 22% คงแนะนำ ซื้อ
1Q65/66 กำไรน่าผิดหวัง ลดลงและต่ำกว่าคาด
กำไรปกติ 1Q65/66 (เม.ย.-มิ.ย. 65) ทรุดลงเหลือ 252 ล้านบาท (-41%YoY) ต่ำกว่า Bloomberg Consensus 21% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงถึง 675 ล้านบาท (+19%YoY) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลง เหลือเพียง 23 ล้านบาท (-49%YoY) และ 3.) ขาดทุนในรายการพิเศษสุทธิ 21 ล้านบาท
ผู้บริหารยังมั่นใจเป้าหมายปีนี้จะเติบโต 12-15%
จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (18 ส.ค.) ผู้บริหารยังมีความมั่นใจ และคงเป้าหมายยอดขายในปี 2565/66 (เม.ย.65-มี.ค.66) จะเติบโต 12-15% สู่ระดับประมาณ 13,500 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 29-32% เทียบกับปีก่อนที่มีอัตรา กำไรขั้นต้น 31.8% แบ่งเป็นธุรกิจฉนวนยาง (AeroFlex) ยอดขายจะเติบโต 10-12% ได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตใหม่ในสหรัฐ มีอัตรากำไรขั้นต้น 41-43% ธุรกิจอุปกรณ์ชิ้นส่วนและตกแต่งรถยนต์ (Aeroklas) ยอดขายจะเติบโตสูง 20-23% มีอัตรากำไรขั้นต้น 30-33% แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่เข้ามาเต็มที่ใน 2Q65/66 และการเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension ในออสเตรเลีย ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก (EPP) จะเติบโต 5-8% มีอัตรากำไรขั้นต้น 18-21% โดยแนวโน้ม 2QTD ผู้บริหารระบุว่าเห็นทิศทางที่ดีขึ้นของยอดขาย และกำไร รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน
ปรับประมาณการลง ปี 2565/66 ยอดขายจะยังโต กำไรจะประคองตัว
จากผลประกอบการ 1Q65/66 ที่น่าผิดหวัง และค่าใช้จ่ายสำหรับการขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ปี 2565/66 เราได้ปรับประมาณการยอดขายและกำไรลดลง -4% / -15% ตามลำดับ คาดยอดขาย 12,707 ล้านบาท เติบโต 8%YoY ต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหาร และคาดจะมีกำไรปกติ 1,525 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน เราคาดกำไร ในช่วงที่เหลือของปีจะฟื้นตัวดีขึ้นมีกำไรประมาณ 350-430 ล้านบาทต่อไตรมาส จาก 1Q65/66 ที่มีกำไรเพียง 231 ล้านบาท