บล.ฟิลลิป:
อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป – EPG 1Q66 คาดต่ำสุดแล้ว นับจากนี้ค่อยๆ ดีขึ้น
Key Point
แม้กำไรสุทธิ 1Q66 หดตัวแรง หากแต่ทางฝ่ายยังคงมุมมองบวกต่อผลดำเนินงาน EPG คาดช่วงที่เหลือจะดีขึ้นด้วยแรงหนุนจากการขยายตลาด และรับรู้ผลดำเนินงานหลังเข้าซื้อ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd นอกจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่หนุนยอดขายกลับมาเป็นปกติ และผลักดันกำไรสุทธิปี 66 ทำสถิติใหม่ที่ 1,645 ลบ. (+3.0% y-y) ทั้งนี้ ทางฝ่ายประเมินราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 12.20 บาท ซึ่งปัจจุบันยังมี Upside จึงคงแนะนำ “ซื้อ”
กำไรสุทธิ 1Q66 หดตัวแรงทั้ง y-y และ q-q
EPG รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 (สิ้นสุด มิ.ย. 55) ที่ 231 ลบ. ลดลงแรง 48.5% y-y และ 31.3% q-q ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากประสิทธิภาพการคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ซึ่งเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก 18.9% y-y และ 16.3% q-q สวนทางกับรายได้จากการขายสินค้าที่ลดลง 3.1% y-y และ 1.3% q-q นอกจากนี้ยังมีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมูลค่า 28.8 ลบ. หลังมีการชะลอโครงการของบริษัทร่วมทุน และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าลดลง 49.4% y-y และ 33.8%
แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดดีขึ้น หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดในช่วง 1Q66 แล้ว
จากการประชุมนักวิเคราะห์ ทางฝ่ายคงมุมมองบวกต่อผลดำเนินธุรกิจของ EPG คาดช่วงที่เหลือของปีจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังปัจจัยลบที่เคยกระทบช่วง 1Q66 ดูผ่อนคลายลง ขณะที่ยอดขายช่วง 2Q66 QTD เบื้องต้นยังโตในทุกธุรกิจ อีกทั้ง EPG จะยังเริ่มรับรู้ผลดำเนินงานเข้าไปในงบการเงินรวมของบริษัท หลังเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ออสเตรเลียแล้วเสร็จผ่าน Aeroklas Australia Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทตั้งแต่ช่วง 2Q66 เป็นต้นไป โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าจากที่มีอยู่เดิม โอกาสในการขยายตลาดทั้งในประเทศออสเตรเลียและประเทศอื่นๆ และโอกาสในการต่อรองกับคู่ค้า ทั้งนี้ผู้บริหารยังคงเป้าหมายรายได้ปี 66 คาดโตได้ 12-15% y-y และ GPM รวมคาดอยู่ที่ 29-32% แบ่งเป็น
1. Aeroflex คาดยอดขายเติบโต 10-12% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 41-43%
2. Aeroklas คาดยอดขายเติบโต 20-23% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 30-33%
3. EPP คาดยอดขายเติบโต 5-8% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 18-21%
คาดผลดำเนินงานทำสถิติใหม่ต่อ ประเมินราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 12.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”
ทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิปี 66 (สิ้นสุด มี.ค. 66) คาดยังทำสถิติใหม่ต่อที่ 1,645 ลบ. โต 3.0% y-y ภายใต้สมมติฐานรายได้การขายสินค้าเติบโต 13.1% y-y และอัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 31.6% พร้อมประเมินราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 12.20 บาท อิง P/E 20.7x (ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี -0.5SD.)
กำไรสุทธิ 1Q66 หดตัวแรงทั้ง y-y และ q-q
EPG รายงานกำไรสุทธิ 1Q66 (สิ้นสุด มิ.ย. 65) ที่ 231 ลบ. ลดลงแรง 48.5% y-y และ 31.3% q-q ทั้งนี้มีสาเหตุหลักๆ มาจากประสิทธิภาพการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง ซึ่งเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก 18.9% y-y และ 16.3% q-q และเมื่อนำไปเทียบกับรายได้จากการขายสินค้าที่ลดลง 3.1% y-y และ 1.3% q-q ส่งผลทำให้ SG&A/Sales ปรับตัวพุ่งขึ้นแตะ 23.8% จาก 1Q65 ที่ 19.4% และ 4Q65 ที่ 20.2% ตามลำดับ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมูลค่า 28.8 ลบ. หลังชะลอโครงการของบริษัทร่วมทุน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจอยู่ในแวดวงอุตฯยานยนต์ เช่นเดียวกับธุรกิจหลักของบริษัท (Aeroklas) รับรู้ลดลงมาอยู่ที่ 23 ลบ. จาก 1Q65 ที่รับรู้ 46 ลบ. และ 4Q65 ที่รับรู้ 35 ลบ. ตามลำดับ
ธุรกิจ Aeroflex ช่วยประคองรายได้การขายและกำไรขั้นต้นโดยรวมให้ลดลงไม่มาก
ด้วยผลกระทบจากปัญหาชิปขาดแคลนและภาวะเศรษฐกิจในยุโรปที่ชะลอตัวจะกระทบต่อยอดขาย Aeroklas ช่วง 1Q66 ลดลง 11.0% y-y และ 5.9% q-q แต่หากพิจาราณายอดขายรวม กลับพบว่าปรับตัวลดลงเพียง 3.1% y-y และ 1.3% q-q เช่นเดียวกับกำไรขั้นต้นที่ลดลง 2.6% y-y และเพิ่มขึ้น 0.6% q-q ทั้งนี้หลักๆ เป็นผลมาจากธุรกิจ Aeroflex ซึ่งเป็น Product Champion มียอดขายเพิ่มขึ้นเด่น 7.7% y-y และ 9.9% q-q อีกทั้งยังมีอัตราทำกำไรขั้นต้นที่สูงถึง 45.6% มากกว่าอัตราทำกำไรขั้นต้นของ Aeroklas ที่ทำได้เพียง 32.0%
แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดดีขึ้น หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุดในช่วง 1Q66 แล้ว
จากการประชุมนักวิเคราะห์ ทางฝ่ายยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินธุรกิจของ EPG ที่คาดช่วงที่เหลือของปีจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังปัจจัยลบที่เคยกระทบช่วง 1Q66 ดูผ่อนคลายลง ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนวัตถุดิบ, ค่าขนส่งสินค้า ฯลฯ ขณะที่ยอดขายช่วง 2Q66 QTD เบื้องต้นยังเติบโตในทุกธุรกิจ นอกจากนี้ EPG จะยังเริ่มรับรู้ผลดำเนินงานเข้าไปในงบการเงินรวมของบริษัทหลังเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ออสเตรเลียที่บริษัทถือหุ้น 100% แล้วเสร็จผ่าน Aeroklas Australia Pty. Ltd. ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ตั้งแต่ช่วง 2Q66 เป็นต้นไป โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ในกลุ่ม suspension products อาทิเช่น โช้คอัพ และชุดตกแต่งสำหรับรถกระบะ ดังนั้นการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสในการเพิ่มความหลากหลายสินค้าจากที่มีอยู่เดิม, โอกาสในการขยายตลาดทั้งในประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการต่อรองกับคู่ค้า ทั้งนี้ผู้บริหารยังคงประมาณการเป้าหมายรายได้ปี 66 คาดเติบโตได้ 12-15% y-y และอัตรากำไรขั้นรวมคาดอยู่ที่ 29-32% แบ่งเป็น
1. Aeroflex คาดยอดขายเติบโต 10-12% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 41-43%
2. Aeroklas คาดยอดขายเติบโต 20-23% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 30-33%
3. EPP คาดยอดขายเติบโต 5-8% y-y และมีอัตรากำไรขั้นต้น 18-21%
คาดผลดำเนินงานทำสถิติใหม่ต่อ ประเมินราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 12.20 บาท แนะนำ “ซื้อ”
ด้วยมุมมองผลดำเนินงานของ EPG ที่คาดฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q66 เป็นต้นไปใน 3 ธุรกิจหลัก อันได้แก่ Aeroflex, Aeroklas และ EPP โดยมีปัจจัยหนุนจากการขยายตลาดทั้งในส่วนของฐานลูกค้าและตลาดใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มยอดคำสั่งซื้อ นอกจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่หนุนยอดขายกลับมาเป็นปกติ และการเริ่มรับรู้ผลดำเนินงานหลังเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd เบื้องต้น ทางฝ่ายประเมินกำไรสุทธิปี 66 (สิ้นสุด มี.ค. 66) คาดยังทำสถิติใหม่ต่อที่ 1,645 ลบ. โต 3.0% y-y ภายใต้สมมติฐานรายได้การขายสินค้าเติบโต 13.1% y-y และอัตรากำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 31.6% พร้อมประเมินราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 12.20 บาท อิง P/E 20.7x (ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปี -0.5SD.) ทั้งนี้เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบันพบว่ายังมี Upside จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”