บล.ทรีนีตี้:
บี กริม เพาเวอร์ จํากัด – BGRIM
มั่นใจ 2H65 ดีกว่า 1H65 ปรับ Ft หนุนกำไรโต
- เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาพื้นฐานที่ 44 บาท (อิงวิธี DCF) BGRIM รายงานขาดทุนใน 2Q65 ที่ -193 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ถ้าไม่นับรวมผลของขาดทุนดังกล่าว บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 147 ล้านบาท (-85.5% YoY, +332.4% QoQ)
- เรามองว่าค่า Ft ที่จะปรับขึ้นใน 2H65 (กกพ. ได้มีการประกาศปรับค่า Ft เป็น 93.43 สตางค์ในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565) จะทำให้ BGRIM มีการฟื้นตัวด้านกำไรจากติดลบมาเป็นบวกได้
- จากการประชุมนักวิเคราะห์ มอง 2465 ถึง 1H66 กำไรฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับปกติ จากฐานลูกค้า IU ที่เพิ่มขึ้น และราคา Ft ที่สูงขึ้น รวมถึงการ optimize heat rate หลังจากมีการดำเนินงานโรงไฟฟ้าใหม่ 7 โรง ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายโดยรวมลง 6% – 8%
อัพเดทจาการประชุมนักวิเคราะห์
เรามีมุมมองค่อนข้างบวกหลังจากมีการประชุมนักวิเคราะห์เนื่องจาก
1) การปรับค่า Ft ที่ดูชัดเจนมากขึ้นจากการประกาศของ กกพ. ในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ค่า FT มาอยู่ที่ 93.43 บาท (+68.66 สตางค์)
2) จะมีการ SCOD 5 SPP replacement ในครึ่งปีหลังประมาณ 50 MW และมีลูกค้า IU เข้ามาเพิ่ม 20 – 30 MW
3) ภายในปี 1H66 ต้นทุนการผลิตโดยรวมคาดว่าจะลดลงประมาณ 6% – 8% หลังจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 7 โรง เนื่องจากการ optimize heat rate และการนำเข้า LNG
4) ปี 2556 มีแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใน Malaysia และ EU (กำลังศึกษา)
5) ปีหน้าคาด volume การขายไฟฟ้าให้ IU อยู่ที่ 4,100 – 4,700 GWh จาก 3,300 GWh และคาด volume การขายไฟฟ้าให้ EGAT อยู่ที่ 8,700 GWh จาก 9,700 GWh
2H65 Outlook
- เรามองว่าค่า Ft ที่จะปรับขึ้น 68.66 สตางค์ใน 2H65 (กกพ. ได้มีการประกาศปรับค่า Ft เป็น 93.43 สตางค์ในช่วงเดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565) รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจะทำให้ BGRIM มีการฟื้นตัวด้านกำไร แต่ยังมีปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่อาจจะปรับตัวในสัดส่วนที่สูงกว่าค่า Ft ทำให้กำไรยังไม่กลับมาเป็นปกติ โดยเราคาดว่า BGRIM ได้ผ่านจุดต่ำสุดของกำไรไปแล้วใน 2Q22
- ทั้งนี้ BGRIM จะมีจ่ายปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ 0.03 บาทต่อหุ้น (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 สิงหาคม 2565)
ความเสี่ยง: ราคาเชื้อเพลิงและความเสี่ยงของการที่ค่า Ft ค่าไม่ได้ปรับขึ้น