บล.ฟิลลิป:

พีทีจี เอ็นเนอยี – PTG

ดีไปพร้อมๆ กันทั้ง oil และ non-oil

Key Point

แม้แนวโน้มการดำเนินงาน 3Q65 จะอ่อนลง q-q แต่คาดเป็นปกติ แต่ภาพรวมการดำเนินงานที่กลับมาดีขึ้น และยังได้อานิสงส์จากกิจกรรมต่างๆ ที่กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หนุนทั้ง oil และ non-oil ให้โตไปพร้อมๆ กัน ทำให้เป็น 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มปั๊ม

3Q65 การดำเนินงานอ่อนลง q-q จากปัจจัยฤดูกาล

แนวโน้ม 3Q65 คาดว่าจะอ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาลจากเข้าสู่หน้าฝน แต่คาดว่าปีนี้ปริมาณขายน้ำมันอาจไม่ลดลงมากอย่างในอดีตจากการคลายล็อกดาวน์และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับมา ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการขายในกลุ่ม non-oil จะได้รับผลกระทบจากจำนวนคนเข้าปั๊มน้อยลง เนื่องจากสาขาของ non-oil โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยมากกว่า 60% จะอยู่ในสถานีบริการน้ำมัน แต่คาดว่าการดำเนินงานจากปาล์มคอมเพล็กซ์จะดีขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่ลดลง และการเพิ่มสัดส่วนการขายน้ำมันบริโภคในสถานีบริการมากขึ้นเพื่อชดเชยปริมาณขายน้ำมันรถยนต์

ปรับประมาณการปี 2565 ขึ้นจากเดิมจากงบที่ดีกว่าคาด

จากการปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และทำให้ค่าการตลาดของผู้ประกอบการดีขึ้น ซึ่งสะท้อนจากงบ 2Q65 ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด แม้ว่า 3Q65 การดำเนินงานจะอ่อนลงจากปัจจัยฤดูกาลก็ตาม แต่คาดจะยังดีกว่า y-y ทำให้ทางฝ่ายปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 2565 ขึ้นจากเดิม ภายใต้สมมติฐานปริมาณขายน้ำมัน 5,355 ล้านลิตร +6% y-y และปรับค่าการตลาดเพิ่มเป็น 1.97 บาท/ลิตร สะท้อนการทำกำไรที่ดีขึ้น ขณะที่กลุ่ม non-oil คาดว่าจะได้อานิสงส์จากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตาม อีกทั้งได้ปรับลดส่วนแบ่งกำไรจากบ. ร่วมลดเหลือเพียง 19 ล้านบาท จากการดำเนินงานบ. ปาล์มคอมเพล็กซ์ที่ได้รับผลกระทบจากทั้งปริมาณขายลดลง และต้นทุนวัตถุดิบที่ เพิ่มขึ้น และปรับกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 1,468 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 46% y-y

เป้าการเปิดสาขายังเป็นไปตามเดิม

ผู้บริหารยังคงเป้าปี 2565 ว่าจะใช้เงินลงทุนราว 3,000-4,000 ล้านบาท โดยจะใช้สำหรับการขยายธุรกิจหลักอย่างสถานีบริการ 1,500-2,000 ล้านบาท, non-oil 1,000-1,500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่ 500 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันให้อยู่ที่ 2,010 สถานี, ส่วน non oil จะมีจำนวนสถานี LPG 252 สถานี และกลุ่มเครื่องดื่มและอื่นๆ 1,320 ร้าน ซึ่งในครึ่งปีแรกกลุ่ม non-oil มีทั้งสิ้น 1,092 ร้านแล้ว ขณะที่สถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,969 สถานี และในส่วนปริมาณขายน้ำมันคาดจะเติบโต 6-10% y-y ขณะที่ปริมาณขาย LPG คาดยังเติบโต 50-60%, ส่วนกลุ่ม non-oil คาดยอดขายจะเพิ่มขึ้น 80-90% y-y และ margin อยู่ที่ 15-20% ซึ่งทางฝ่ายคาดว่าการเติบโตในส่วน non-oil คงจะเป็นไปได้จากการเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง และฐานรายได้ในปีก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ขณะที่ในปีนี้สถานการณ์คลี่คลาย และคาดทั้งจำนวนคนเดินทางที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แผนการนำบ. ลูกอย่างปาล์มคอมเพล็กซ์และบ. แอดลาส ออยล์ (LPG) เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ นั้นยังอยู่ในแผน โดยบ. ปาล์มนั้นได้ยื่นข้อมูลให้กลต. แล้ว และอยู่ระหว่างรออนุมัติ ขณะที่บ. LPG จะยื่นช่วงปลายเดือนก.ย.

ความเสี่ยง

  1. ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ
  2. การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐ กฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับ
  3. การแข่งขันที่มีมากขึ้นในอุตสาหกรรม
- Advertisement -