ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ฟื้นตัวต่อ ฟันด์โฟลว์แรงกว่าคาด
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธฟื้นตัวต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์กลับ (ผิดคาด) ตามแรงซื้อจากต่างชาติที่เร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ผนวกกับตัวเลขภาคการท่องเที่ยวเดือน ก.ค. ซึ่งชี้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวแรงถึง 46% YoY สู่ 1.1 ล้านคน หนุนการฟื้นตัวของหุ้นเชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยว… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นโลกดีขึ้นเล็กน้อย กล่าวคือ i) ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ กลับมาอ่อนลงและสกุลเงินยูโรฟื้นตัว หลังจากสหรัฐฯ รายงานตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือน ก.ค. ร่วงถึง 12.6% MoM (ต่ำกว่าคาด) และดัชนี composite PMI เบื้องต้นของเดือน ส.ค. ก็ออกมาต่ำกว่าคาด สวนทางกับดัชนี PMI ของยุโรปที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ii) บอนด์ยีลด์ของสหรัฐฯ ชะลอการปรับตัวขึ้น หลังจากสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ให้น้ำหนัก 50:50 ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเฟดครั้งถัดไปในเดือน ก.ย. ภาพรวมดังกล่าวข้างต้น น่าจะส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ยังคงไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อไป ทั้งนี้นับจากต้นเดือน ส.ค. ต่างชาติซื้อสุทธิสะสมหุ้นไทยแล้ว 4.92 หมื่นล้านบาท… ด้านปัจจัยภายในประเทศ ในวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะแถลงว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องที่ประธานสภาฯ ยื่นเรื่องขอให้ตัดสินกรณีการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร CPALL*, TFG, ERW*
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 61 บาท / แนวต้าน 62 – 63 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 66 บาท (Stop loss 59 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard ตลาดฯ สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 2Q65 ไปพอควรแล้ว ขณะที่คาดผลการดำเนินงาน 2H65 จะทยอยฟื้นตัว จาก i) การเปิดประเทศ / การท่องเที่ยว ii) คาดอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปจนกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว iii) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (คาดภายใน 4Q65 หรืออย่างช้า ม.ค. 2566) 3) Forward PE ปีหน้า +/- 29 เท่า โดยคาด EPS กลับมาโต +30% YoY
- TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท / แนวต้าน 6.6 – 6.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังดีต่อเนื่องจาก 2Q65 จาก i) ราคาเนื้อสุกร (หน้าฟาร์ม) ที่ยืนสูง >100 บาท/กก. จากอุปทานที่ขาดแคลน ขณะที่อุปสงค์ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ii) คาดการส่งเนื้อไก่โตแรงใน 3Q65 ที่เป็น High season และคาดราคาเนื้อไก่ในประเทศยืนสูงต่อเนื่อง (ผลจากสินค้าทดแทนกันอย่างเนื้อสุกรแพงขึ้น) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำ เพียง +/- 8 เท่า ขณะที่คาดกำไรปีนี้โต +700% YoY เป็น +4.7 พันล้านบาท
- ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.76 บาท / แนวต้าน 3.96 – 4.04 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 4.2 บาท (Stop loss 3.74 บาท) 2) คาดการท่องเที่ยวของไทยจะฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q – 1Q และลุ้นประเทศจีนผ่อนคลายการเดินทางมาไทย โดยเฉพาะในช่วงวันชาติจีนเดือน ต.ค. 3) Forward PE ปีหน้าแม้จะสูง >40 เท่า แต่เนื่องจากเป็นหุ้น Turnaround และมีโอกาสปรับประมาณการฯ ขึ้น หลังจากที่ผลการดำเนินงาน 2Q65 ดีกว่าคาด (ขาดทุนน้อยกว่าคาด)
หุ้นมีข่าว
(+) ค่าไฟเยอรมันพุ่ง 25 บ. ยุโรปหันพึ่งถ่านหิน BANPU*-AGE-LANNA-TCC เด้งยกแผง PTTEP ก็ด้วย (ข่าวหุ้น) ค่าไฟฟ้าเยอรมนี่พุ่ง 25 บาทต่อหน่วย หนุนราคาเชื้อเพลิงถ่านหินโอกาสทะลุ 500 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ก๊าซฯ-น้ำมันดีดตัวเพิ่ม โบรกฯ ชี้เป็นปัจจัยบวกกลุ่มถ่านหิน-โรงกลั่นฯ กลับมานิวไฮอีกรอบ ชู BANPU*-AGE-LANNA-TCC เด้งยกแผง PTTEP* บวกด้วย ฟากซีอีโอ BANPU* ลั่น ทิศทางราคาถ่านหินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังพุ่ง บวกธุรกิจก๊าซธรรมชาติราคายังทรงตัวระดับสูง
(+) JMART ซื้อบิ๊กล็อต BRR รุกให้บุคคล-จำนำรถ (ข่าวหุ้น) “เจ มาร์ท” (JMART”) ทำบิ๊กล็อต “น้ำตาลบุรีรัมย์” (BRR) จำนวน 51,150,000 หุ้น สัดส่วน 6.30% ราคา 4.85 บาท พร้อมบันทึกกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นทันที ด้าน “อดิศักดิ์ ขุนวิทยา” CEO เจ มาร์ท เผย การเข้าซื้หุ้น BRR เพื่อต้องการพันธมิตรด้วยการให้ SINGER* เข้าไปปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนกับรถบรรทุกของกลุ่มเกษตรกร และให้ KBJ ปล่อยสินเชื่อบุคคล
(+) ALPHAX ลุยทุกสายธุรกิจตามแผน เผยครึ่งหลังปีนี้นักลงทุนเห็น Big Change (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ เปิดกลยุทธ์ Big Change ในครึ่งหลังปีนี้ ผู้บริหารมั่นใจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมเดินหน้าลุยโครงการอสังหาฯ แนวราบ โปรเจกต์ใหม่ ลุยปั้น New S-Curve ธุรกิจเช่าซื้อและปล่อยสินเชื่อในลาว ผ่าน มะหะทุน เช่าสินเชื่อ” ผู้นำตลาดปล่อยกู้ซื้อมอเตอร์ไซค์ในเวียงจันทน์ ขณะธุรกิจสกัดกัญชง รอ อย.ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ส่วนธุรกิจขายช่อดอกกัญชาเริ่มสร้างรายได้แล้ว
(+) ครม.อัดฉีด 2.9 พันล้านหนุน ซื้อรถ-มอไซค์ไฟฟ้า (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ได้ส่วนลด 1.8 หมื่น – 1.5 แสน ครม.อนุมัติ 2,923 ล้านบาท อัดฉีดมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ รถจักรยานยนต์ อุดหนุนส่วนลด 18,000-150,000 บาท/คัน หวังผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์อีวี และชิ้นส่วนรถยนต์อีวีในภูมิภาค ระบุปี 65 มีผู้ขอรับสิทธิแล้วกว่า 26,900 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 1.8 หมื่นคัน รถจักรยานยนต์ 8.8 พันคัน
(+) ILM เป๋าตุง ออเดอร์ Q3 พุ่ง ใส่เกียร์เจาะงานโครงการ (พันหุ้น) ILM ดีมานต์ทะลัก-ไร้ล็อกดาวน์หนุน Q3/2565 ฟอร์มเด่น พร้อมคอนเฟิร์มปีนี้รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน แถมเดินเกมรับงานโครงการเพิ่ม อัพ Backlog จากเดิม 900 ล้านบาท
หุ้นที่เคยแนะน่าก่อนหน้า
- หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร KBANK (Trailing stop 152 บาท)
- COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 32 บาท)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.8 บาท / แนวด้าน 13.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 12.6 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
- SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 16.1 บาท / แนวต้าน 16.5-16.9 บาท (Trailing stop 15.8 บาท)
- ILM (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนวรับ 18.1 บาท / แนวต้าน 19.1-19.5 บาท (Stop loss 18.1 บาท)
- MAJOR (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 19.2 บาท / แนวต้าน 20.0 – 20.3 บาท (Stop loss 19.0 บาท)
- UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 1.89 บาท / แนวต้าน 1.94-2.04 บาท (Stop loss 1.86 บาท)
- ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.42 บาท / แนวต้าน 2.5-2.6 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
- CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 39 บาท / แนวต้าน 40-41.5 บาท (Stop loss 38.5 บาท)
- CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.5 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
- IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 18.1 บาท / แนวต้าน 18.5-19.0 บาท (Stop loss 17.7 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- TOP* ไม่มีคำแนะนำ และราคาเหมาะสม ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปี 2565 จะโต +202% YoY เป็น 3.8 หมื่นล้านบาท จาก i) กำไรพิเศษจากการขายหุ้น GPSC ราว 1.29 หมื่นล้านบาท ใน 2Q65 ii) ค่าการกลั่น GRM ดีขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี 2565 และคาดอุปสงค์น้ำมันดีเซลจะดีขึ้นต่อเนื่องในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของหุ้น TOP สำหรับปี 2565 ไว้ราว 1.7-2.01 แสนล้านบาท อิง Adjusted EV/EBITDA ที่ 7.5 เท่า และ Normalized EBITDA ของปี 2566 เป็นหลัก ขณะเดียวกันเรามองบวกกับโครงการ CFP ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของโรงกลั่นจาก 275KBD เป็น 400KBD ในปี 2568 และยังช่วยเพิ่ม GRM ของ TOP อีกประมาณ US$4-6/bbl จากระดับปกติ เมื่อโครงการ CFP แล้วเสร็จ … บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) อาจเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจัดจําหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนหุ้น TOP