ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดไซด์เวย์ รอปัจจัยต่างประเทศเพิ่มเติม

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดไซด์เวย์ต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยเทรดผันผวนตลอดทั้งวัน ตามประเด็นข่าวศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องกรณีนายกฯ ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่ง 8 ปี ทั้งนี้ตลาดเผชิญจิตวิทยาเชิงลบบ้าง หลังจากมีแนวโน้มว่าต้องรอถึงปลาย ก.ย. จึงจะมีคำตัดสินออกมา…. ด้านปัจจัยต่างประเทศเป็นกลาง i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เทรดในกรอบแคบๆ หลังจากนักลงทุนรอดูการสัมมนาประจำปีของ ธ.กลางสหรัฐฯ ที่เมือง Jackson Hole ซึ่งจะมีการแถลงของประธานเฟดในวันที่ 26 ส.ค. ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่ consensus คาด ในส่วนของคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือน ก.ค. ส่งผลให้สัญญา เฟดฟันด์ฟิวเจอร์ปรับไปให้น้ำหนักเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.25% ในการประชุมเฟดครั้งถัดไปในวันที่ 21 ก.ย. ด้านปัจจัยภายในประเทศค่อนข้างเงียบในวันนี้ ติดตามความเคลื่อนไหวของฝ่าย การเมืองหลังจาก พล.อ. ประวิตร รองนายกฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกฯ รักษาการ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองว่า ฟันด์โฟลว์จะยังอยู่ในขาเข้าต่อไป และช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของ SET Index

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร EPG*, CPALL*, TFG

  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.7 บาท / แนวต้าน 10.0 – 10.2 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 10.5 บาท (Stop loss 9.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วโดย i) คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะเริ่มทยอยลดลงจากต้นทุนขนส่งที่ลดลง และไม่มีรายจ่ายเปิดร้านอุปกรณ์ยานยนต์ที่ออสเตรเลีย ii) คาดราคาเม็ดพลาสติกเริ่มปรับลดลงแรง คาดส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65/66 (ต.ค.-ธ.ค.) 3) คาดธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ รายได้ทรงตัวแม้จะเกิดเหตุขาดแคลนชิปทั่วโลก เพราะจะได้รายได้จากธุรกิจร้านค้าปลีกที่ออสเตรเลียเข้ามาหนุน 4) Valuation ไม่แพง Forward PE 17.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ราว +/- 20 เท่า)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 61 บาท / แนวต้าน 62 – 63 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 66 บาท (Stop loss 59 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard ตลาดฯ สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 2Q65 ไปพอควรแล้ว ขณะที่คาดผลการดำเนินงาน 2H65 จะทยอยฟื้นตัวจาก i) การเปิดประเทศ / การท่องเที่ยว ii) คาดอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปจนกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภค ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว iii) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (คาดภายใน 4Q65 หรืออย่างช้า ม.ค. 2566) 3) Forward PE ปีหน้า +/- 29 เท่า โดยคาด EPS กลับมาโต +30% YoY
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท / แนวต้าน 6.6 – 6.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังดีต่อเนื่องจาก 2Q65 จาก i) ราคาเนื้อสุกร (หน้าฟาร์ม) ที่ยืนสูง 100 บาท/กก. จากอุปทานที่ขาดแคลน ขณะที่อุปสงค์ฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ii) คาดการส่งเนื้อไก่โตแรงใน 3Q65 ที่เป็น High season และคาดราคาเนื้อไก่ในประเทศอื่นสูงต่อเนื่อง (ผลจากสินค้าทดแทนกันอย่างเนื้อสุกรแพงขึ้น) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำ เพียง +/-8 เท่า ขณะที่คาดกำไรปีนี้โต +700% YoY เป็น +4.7 พันล้านบาท

หุ้นมีข่าว

(+) JMART ซื้อหุ้น “น้ำตาลบุรีรัมย์” 6.30% ร่วมพัฒนา Ecosystem ดันผลงานโตต่อเนื่อง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “เจ มาร์ท” ซื้อหุ้นบิ๊กล็อต “น้ำตาลบุรีรัมย์” จำนวน 51.15 ล้านหุ้น หรือ 6.30% จากผู้ถือหุ้นเดิมของ BRR เพื่อพัฒนา Ecosystem ร่วมกันรุกธุรกิจค้าปลีกและการเงิน นำทีมโดย SINGER* และ KB J เสิร์ฟบริการสินเชื่อเจาะกลุ่มเกษตรกรไทยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ ดันผลงานโตไม่หยุด

(+) BEM*-ITD ฉลุยซอง 1 สายสีส้ม วานนี้รฟม.เปิดซอง 2 ต่อแล้ว (ข่าวหุ้น) BEM* -กลุ่ม ITD ผ่านฉลุย ซอง 1 ประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท วานนี้ รฟม.เปิดซองที่ 2 ข้อเสนอด้านเทคนิคแล้ว รอลุ้นผลเข้ารอบเปิดซอง 3 ข้อเสนอด้านการลงทุนและผลตอบแทนต่อไป

(+) LEO รับเป้ารายได้ปี 65 โตเป็น 45-50% อานิสงส์ยอดขายพุ่งรับเทศกาลปลายปี (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์” สัญญาณไตรมาส 3 และ 4 ธุรกิจโลจิสติกส์เข้าสู่ช่วง High season จากเทศกาล Global Shopping Sales ของ eCommerce Platform ทั่วโลก รวมถึงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่แถมฤดูกาลส่งออก หนุนธุรกิจขนส่งบูม ดันรายได้เพิ่ม เดินหน้าจับมือพันธมิตร พัฒนาธุรกิจ Warehouse, Cold Chain Logistics และ Self Storage จ่อปิดดีล JV และ M&A เพิ่มอีก 2-3 ดีล ปีนี้ จึงปรับเป้ารายได้ปี 65 โตแตะ 45-50% ยอดขายกว่า 5,000 ล้านบาท

(+) UBE คาร์บอนแสนไร่ จับตารัฐดัน E20 หนุน (ทันหุ้น) UBE เดินหน้าดีลเกษตรกรทำฟาร์มคอนแทรกต์ออแกนิคเป้า 3 ปีแสนไร่ พร้อมศึกษาต่อยอดคาร์บอนเครดิต เดินหน้าผลักดันน้ำมัน E20 เป็นเกรดมาตรฐานช่วยดันดีมานด์ และเป็นประโยชน์ประเทศช่วงน้ำมันราคาสูง ชูเศรษฐกิจเปิดดันการใช้น้ำมัน แอลกอฮอล์ขายดีทะลุเป้า ขณะที่แป้งออแกนิค-ฟลาว มาร์จิ้นสูงเติบโต

(+) BEC* โค้งสามเด่นรับเงินโฆษณาพุ่งลิขสิทธิ์ละครดัน (ทันหุ้น) BEC* รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น-เปิดประเทศ หนุนเม็ดเงินโฆษณาพุ่ง ดันผลงาน Q3/2565 ฟอร์มแจ่ม จ่อขายลิขสิทธิ์ละคร-ซีรีส์ ใหม่ 6 เรื่อง เข้า VIU-Netflix (ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) สร้างรายได้และกำไรเพิ่ม มั่นใจรายได้รวมปี 2565 โตแบบตัวเลขหลักเดียว

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร KBANK (Trailing stop 152 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.25 บาท / แนวต้าน 35 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 32 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.9 บาท / แนวต้าน 13.1 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 12.7 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.7 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 16.2 บาท / แนวต้าน 16.6-16.9 บาท (Trailing stop 15.8 บาท)
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) แนวรับ 3.8 บาท / แนวต้าน 3.94-4.04 บาท กรณี (Stop loss 3.74 บาท)
  • ILM (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนวรับ 18.4 บาท / แนวต้าน 19.1-19.5 บาท (Stop loss 18.1 บาท)
  • MAJOR (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 19.3 บาท / แนวต้าน 19.9-20.3 บาท (Stop loss 19.0 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 1.87 บาท / แนวต้าน 1.94-2.04 บาท (Stop loss 1.86 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.44 บาท / แนวต้าน 2.52-2.6 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 39.5 บาท / แนวต้าน 41.5-43.0 บาท (Stop loss 38.5 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.5 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 18.3 บาท / แนวต้าน 18.6-19.0 บาท (Stop loss 17.9 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

GPSC* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 79 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวก ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3065 จะโตเด่นจาก i) High season ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ii) ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น iii) รายได้จากโครงการ Avaada ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินโครงการนี้จะเป็น Catalyst หลักหนุนอัตราการเติบโตในอนาคต

- Advertisement -