ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับขึ้นต่อ แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ยังต่อเนื่อง

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ ปรับขึ้นต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งขึ้นปิดบวก 0.73% (ดีกว่าที่เราคาด) ตามปัจจัยบวกที่เข้ามาระหว่างวัน ได้แก่ จีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก 1.1 ล้านล้านหยวน เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3 แสนล้านหยวน และการใช้จ่ายของรัฐบาลท้องถิ่น 5.0 แสนล้านหยวน รวมทั้งข่าว SCB ล้มดีลการซื้อ Bitkub ซึ่งปลดล็อกความกังวลในตลาดคริปโตฯ รวมทั้งมีโอกาสที่จะมีการจ่ายปันผลพิเศษ… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นบวก i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรง สะท้อนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ต่ำกว่าที่คาด ขณะที่ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2565 (รายงานรอบที่สอง) ติดลบ 0.6% QoQ SAAR ซึ่งดีกว่าตอนที่รายงานรอบแรกซึ่งลบ 0.9% QoQ SAAR ii) นักลงทุนส่วนหนึ่งยังติดตามประเด็นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในคืนวันนี้ ได้แก่ การแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงาน สัมมนาประจำปีที่เมือง Jackson Hole รวมทั้งการรายงานตัวเลข core PCE inflation ก.ค. ซึ่ง consensus คาดไว้ที่ 4.7% YoY ชะลอเล็กน้อยจาก 4.8% YoY ในเดือน มิ.ย. ส่วนสัปดาห์หน้าเป็นช่วงที่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทั้งฝั่งสหรัฐฯ (ตัวเลข ISM ภาคการผลิต ส.ค. และตัวเลขจ้างงาน ส.ค.) และไทย (ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน ก.ค. ที่จะรายงานโดย ธปท.)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร PTG*, EPG*, CPALL*

  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.5 – 15.8 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 16.5 บาท (Stop loss 14.8 บาท) 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 โต HoH จากค่าการตลาดที่ฟื้นตัว + ปริมาณขายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 3) Catalyst บวกจากการ IPO บ.ลูก 2 ตัว i) ธุรกิจ LPG คาดเตรียมยื่นไฟลิ่งภายใน 3Q65 นี้ และตั้งเป้าเข้าเทรดภายใน 1H66 ii) บ.ลูก ธุรกิจไบโอดีเซลทำการยื่นไฟลิ่งไปแล้ว คาดเตรียมเข้าเทรดต่อจากธุรกิจ LPG (รอภาพรวมอุตสาหกรรมไบโอดีเซลดีกว่านี้) 4) Forward PE 15.6 เท่า คิดเป็นเพียงราว -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.7 บาท / แนวต้าน 10.0 – 10.2 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 10.5 บาท (Stop loss 9.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดแล้วโดย i) คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะเริ่มทยอยลดลงจากต้นทุนขนส่งที่ลดลง และไม่มีรายจ่ายเปิดร้านอุปกรณ์ยานยนต์ที่ออสเตรเลีย ii) คาดราคาเม็ดพลาสติกเริ่มปรับลดลงแรง คาดส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้นใน 3Q65/66 (ต.ค.-ธ.ค.) 3) คาดธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ รายได้ทรงตัวแม้จะเกิดเหตุขาดแคลนชิปทั่วโลก เพราะจะได้รายได้จากธุรกิจร้านค้าปลีกที่ออสเตรเลียเข้ามาหนุน 4) Valuation ไม่แพง Forward PE 17.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ราว +/- 20 เท่า)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 61.25 บาท / แนวต้าน 62 – 63 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 66 บาท (Stop loss 59 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard ตลาดฯ สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอใน 2Q65 ไปพอควรแล้ว ขณะที่คาดผลการดำเนินงาน 2H65 จะทยอยฟื้นตัว จาก i) การเปิดประเทศ / การท่องเที่ยว ii) คาดอัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปจนกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว iii) การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (คาดภายใน 4Q65 หรืออย่างช้า ม.ค. 2566) 3) Forward PE ปีหน้า +/- 29 เท่า โดยคาด EPS กลับมาโต +30% YoY

หุ้นมีข่าว

(0) SCB ชิ่ง Bitkub เหตุมีเรื่องค้าง ก.ล.ต. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) เหรียญ KUB ร่วงหนัก SCB ดับฝัน “บิทคับ” ขึ้นยานแม่ ประกาศล้มบิ๊กดีล 1.78 หมื่นล้าน เหตุเคลียร์ปัญหากับ ก.ล.ต.ไม่จบ “บิทคับ” โวยังเป็นผู้นำศูนย์ซื้อขายคริปโตฯ ด้านเหรียญ KUB ดิ่งเหวทันทีกว่า 30% แตะราคาต่ำสุด 48.59 บาท สวนทางหุ้น SCB บวกรับข่าวดีไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่

(+) PTT* อัดงบลุยธุรกิจใหม่ (ไทยโพสต์) ชูนวัตกรรม-เทคโนดิจิทัล ผุดรง.ผลิตโปรตีนจากพืช ปตท.ลุยธุรกิจใหม่ ตั้งเป้า 5 ปีเพิ่มการลงทุนนวัตกรรมดิจิทัล 30% หรือ 50,000 ล้านของเงินลงทุนทั้งหมด หวังโกยรายได้โต 30% จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวภายใน 10 ปีข้างหน้า ประเดิมตั้งโรงงานผลิต “แพลนต์เบส” ที่อยุธยา

(+) GULF* ตั้งเป้ารายได้เฉียด 2 แสนล. วางงบ 5 ปี 1.2 แสนล้าน รุกพลังงานหมุนเวียน (กรุงเทพธุรกิจ) คาดปลายปีนี้มีโอกาสรายได้ โตทะลุเป้า – ลุ้นปิดดีลซื้อกิจการเพิ่ม “กัลฟ์” กางแผนธุรกิจ 8 ปี (63-70) ตั้งเป้ารายได้เฉียด 2 แสนล้าน จากปี 63 อยู่ที่ 3.52 หมื่นล้าน โตเฉลี่ย 27.5% พร้อมมุ่งลงทุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เผยในปี 73 กำลังผลิตมากกว่า 7 พันเมกะวัตต์ สัดส่วนรายได้มากกว่า 30% แย้มปีนี้คาดมีโอกาสทำรายได้ทะลุเป้าที่วางไว้โต 80% หากปิดดีลซื้อกิจการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม

(+) SABUY คว้า 3 ดีล ‘นินจาแวน’ โบรกเกอร์ประกัน-นายหน้าหาแรงงาน-ตั้งตู้เวนดิ้งพลัส (ข่าวหุ้น) SABUY ต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจกับ “นินจาแวน” ประเดิมตั้ง “SABUY Maxi” เป็นโบรกเกอร์ดูแลประกันภัยพนักงานของนินจาแวนในไทย-มาเลเซีย พร้อมตั้ง “SABUY Alliance” เป็นนายหน้าจัดหาแรงงานช่วงพีคซีซัน และติดตั้งตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ “เวนดิ้งพลัส” ในคลังสินค้าทุกแห่ง นอกจากนี้ SABUY ชุ่มเจรจาพันธมิตร 3-4 ดีล เพื่อขยาย Ecosystem ไปในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดมีความชัดเจนในปีนี้

(+) IIG ทุ่ม 331 ล.ซื้อ LANSING 51% (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป ทุ่ม 331 ล้าน ซื้อ หุ้น “แลนซิ่ง บิสสิเนส ซิสเต็มส์” 51% ใน Health Tech แห่งชาติรองรับการให้บริการเครือโรงพยาบาล ทั้งภาครัฐและเอกชน สอดคล้องแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หรือ Medical Tourism อีกทั้งตอกย้ำผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันแบบครบวงจร

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร KBANK (Trailing stop 154 บาท) COM7* (Trailing stop 33 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.9 บาท / แนวต้าน 13.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.7 บาท)
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.7 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 16.2 บาท / แนวต้าน 16.9-17.3 บาท (Trailing stop 15.8 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 6.2 บาท / แนวต้าน 6.6-6.75 บาท (Stop loss 6.0 บาท)
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 4.7 บาท) แนวรับ 3.78 บาท / แนวต้าน 3.94-4.04 บาท กรณี (Stop loss 3.74 บาท)
  • ILM (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนวรับ 18.5 บาท / แนวต้าน 19.1-19.5 บาท (Stop loss 18.1 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 19.4 บาท / แนวต้าน 19.8-20.3 บาท (Stop loss 19.0 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 1.87 บาท / แนวต้าน 1.94-2.04 บาท (Stop loss 1.86 บาท)
  • ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.42 บาท / แนวต้าน 2.52-2.6 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 41.5-43.0 บาท (Stop loss 39 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.5 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 18.0 บาท / แนวต้าน 18.6-19.0 บาท (Stop loss 17.9 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • M* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 67.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวก ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแม้อัตรากำไรขั้นต้นอาจถูกกดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับแพงขึ้น แต่ยอดขายที่โตเด่นมาก ช่วยชดเชยทําให้ยังคงประมาณการไว้ โดยคาดกำไรปี 2565 – 66 โตเด่น +1,200% YoY (ผลจาก ฐานต่ำ) และ +34% YoY ตามลำดับ และคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • JMART แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 72 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินผลการดำเนินงานหุ้นในกลุ่มฯ ส่วนใหญ่อ่อนแอกว่าคาด มีเพียง SINGER” ยังโตเด่น ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯ ปี 2565 – 66 ลง -6% และ -8% ตามลำดับ แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -