Our View? “พาวเวล ไม่แผ่วเลย..”

คาดตลาดวันนี้ “ลงก่อนเด้งทีหลัง” มองแนวรับที่บริเวณ 1,620 / 1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,650 / 1,655 มองตลาดจะได้รับแรงกดดันจาก Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ ถึงแม้ว่าเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.ค. ออกมาอยู่ที่ระดับ +6.3% YoY และ -0.1% MoM น้อยกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงเดือน มิ.ย. อย่างไรก็ตาม เรามองการกล่าวถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่งานประชุม Jackson Hole คาดว่าจะสร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย และคุมเข้มนโยบายทางการเงินของ FED ต่อไปมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยคุณเจอโรม พาวเวล แสดงความคิดเห็นว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ FED จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของสหรัฐ ขณะที่เงินเฟ้อแม้อาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูงไปอีกยาวนาน ทำให้ FED ยังมีแนวโน้มต้องคุมเข้มนโยบายทางการเงินต่อไป เรามองเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงโลกปรับตัวลงได้ อย่างไรก็ตาม CME FED Watch Tools ยังคงบ่งชี้ตลาดยังให้น้ำหนักกับการที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% โดยยังไม่มีการคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ 1.00% ขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในช่วงปี หน้ายังทรงตัวอยู่ระดับ 3.75–4.00% ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนว่า Room ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED เริ่มแคบลงต่อเนื่อง และมีโอกาสที่ตลาดจะผ่อนคลายประเด็นดังกล่าวได้ในระยะถัดไป อีกหนึ่งประเด็นที่น่าติดตามคือการจัดประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานของสหภาพยุโรป (EU) จากความกังวลปัญหาดังกล่าวรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายปีตามความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นในช่วงหน้าหนาว เรามองปัจจัยดังกล่าวจะกระตุ้นแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ถ่านหินปรับตัวขึ้นได้ต่อ อีกทั้งราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาพยายามฟื้นตัวกลับขึ้นอีกครั้ง ปิดที่ระดับ 93.06 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.54 ดอลลาร์ หรือ +0.58% โดยได้รับแรงหนุนความกังวล OPEC+ จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง หากอิหร่านสามารถส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกได้อีกครั้ง คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นประคองตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

สำหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมีมุมมองให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นกับตลาดหุ้นไทย หลังปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,640 จุด ซึ่งถือเป็นโซนที่ Valuation ของตลาดในปัจจุบันจะเริ่มตึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า อยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะจำกัด Upside ระยะสั้นของหุ้นไทยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ ททท. คาดการณ์นักท่องเที่ยวในปีนี้ที่ระดับ 10 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้น 20 ล้านคนในปี’66 มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า และคาดจะหนุนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง เรามองเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง เรายังชอบหุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI, PLANB และ MACO) และกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CRC และ MAKRO) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและแนวโน้มนักท่องเที่ยวกลับมาดีมากขึ้นในช่วง 2H65 หนุนการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “GULF”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 50.00 / 49.00 Target 53.00 / 55.00 Stop <48.50

- Advertisement -