KS Daily View 29.08.2022 > Jackson Hole คงนโยบายการเงินเข้มงวด คาดกดหุ้นไทยพักฐานวันนี้ มองเป็นจังหวะสะสม SET วันนี้คาด 1616 -1640 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ BEM

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์

ต่างประเทศ : งานประชุม Jackson Hole ประธาน Fed Powell ส่งสัญญาณว่า Fed จะคงจุดยืนเรื่องนโยบายการเงินที่เข้มงวด(Hawkish) หรือขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯจนเงินเฟ้อลดลงตามเป้าหมายที่ 2% โดย Fed funds futures ให้น้ำหนัก 61% ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps. และ 29% ว่า Fed จะขึ้น 50bps. ในการประชุมเดือน ก.ย. ทำให้เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาหุ้นสหรัฐ โดยกลุ่มที่ปรับลงแรงได้แก่ IT -4.3%, Communication service -3.9%, Consumer discretionary -3.9%, Material -3.1% และ Financial -3% และกลุ่มที่ลงน้อยกว่าตลาดได้แก่ Energy -1%, Utilities -1.5% และ Consumer staple -2.5% ดังนี้ KS คาดว่าวันนี้หุ้นไทยกลุ่ม Growth (Tech consult) กลุ่ม Electronics จะเป็นกลุ่มที่ปรับลงแรงกว่าตลาดขณะที่คาดว่ากลุ่ม Value ได้แก่ Energy, Bank, Utilities, และ Healthcare จะลงน้อยกว่าตลาด

ในประเทศ : 

1.) ส่งออกไทยเดือน ก.ค. 65 ขยายตัวต่ำคาดหลักๆ มาจากการส่งออกไปจีนชะลอ 20.6% YoY, แต่สหรัฐฯ +4.7% YoY, ยุโรป +8.1% YoY ส่วนรายสินค้า อาหารสัตว์เลี้ยง (+25.4%) บวกต่อ ASIAN  แต่ส่งออกคอมพิวเตอร์/ชิ้นส่วน (-19.8%) และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (-39.9%) ลบกับ HANA และส่งออกถุงมือยาง (-49.8%) ลบกับ STGT

2.) กระทรวงแรงงานมีมติปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 5-6% (Inline กับที่ KS คาด)  จากระดับฐานปัจจุบันที่ 331 บาท มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.65 สำหรับอุตสาหกรรมที่  KS คาดว่าจะได้รับผลกระทบคือกลุ่มที่เน้นใช้แรงงานสูง เช่น รับเหมา, ร้านอาหาร, สิ่งทอ, F&B, อิเล็กทรอนิกส์, เกษตร, และค้าปลีก เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่คาดได้รับผลบวกคือ Finance

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามต่

ต่างประเทศ : 

1.) ตัวเลขสำคัญสหรัฐ คือ ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 285K ชะลอจาก 528K ในเดือน ก.ค. และ รอรายงานเงินเฟ้อของสหรัฐอีกครั้งในวันที่  13 ก.ย. คาดตลาดหุ้นโลกจะแกว่งผันผวน

2.)ติดตาม Bond yields สหรัฐ อายุ 2 ปี  และ 10 ปีปรับขึ้นต่อตามคาดการณ์ดอกเบี้ยขึ้น โดยแนวต้านรอบนี้อยู่ที่ 3.5% และ 3.2% ตามลำดับ ประเมินเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและประกัน  แต่จะลบต่อกลุ่มการเงิน

ในประเทศ :

1.) Financial sector: ติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย จับมือ สศค. ยกร่างพระราชกฤษฎีกาคุมธุรกิจ “เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง”รถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเพิ่มอำนาจ ธปท.เข้ากำกับ “น็อนแบงก์-บริษัทลีสซิ่งค่ายรถ-ดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ที่ให้บริการเช่าซื้อ” นักวิเคราะห์ของ KS มองว่า ในเฟสแรก ธปท. จะเน้นคุม market conduct ให้เป็นธรรม กระทบไฟแนนซ์ห้องแถว (รายเล็ก + ดีลเลอร์ปล่อยเอง) เพราะต้องทำระบบใหม่ ส่วนกลุ่ม SET listed ไม่มีประเด็นเพราะมีระบบอยู่แล้ว ขณะที่เฟสสองอาจเริ่มคุมดอกเบี้ยเพดานตามมา แต่ต้องพิจารณาใหม่บนภาวะดอกเบี้ยที่ขึ้น และดูต้นทุนผู้ประกอบการอีกที

2.) ICT sector:  ติดตามพัฒนาการของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมหลัง T-Mobile ได้จับมือกับ Space X หรืออีลอน มัสก์ เพื่อร่วมมือกันสร้างเครือข่ายมือถือดาวเทียม ซึ่งทำให้พื้นที่ห่างไกลหรืออับสัญญาน ก็ยังสามารถติดต่อสื่อสารได้ โดย นวค. กลุ่มสื่อสารของ KS ให้ติดตามดูว่า Operator รายใดของไทยจะเป็นรายแรกที่ไปจับมือกับ Space X ในดีลนี้ และมีมุมมองเป็นลบกับ THCOM เพราะมองว่าโอกาสที่ Space X จะไปจับมือกับคนที่ทำธุรกิจดาวเทียมมีน้อยลงหลังดีลนี้

3.) ติดตาม 1 ก.ย. จะมีการเพิ่มเที่ยวบินโดยสารระหว่างไทย–จีนเป็น 15 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิม 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ KS  มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว และในวันเดียวกัน มาตรการคนละครึ่งเฟส 5 จะเริ่มใช้จ่ายบวกกับค้าปลีก TNP    4.) การเมืองในประเทศ ติดตามเรื่องคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี     5.)ติดตามค่าเงินบาทเช้านี้ อ่อนค่าแรงขึ้นมาอยู่ที่ 36.34 บาทอ่อนค่าทำจุดสูงสุดในรอบราว 1 เดือน ตามค่าเงิน Dollar ที่แข็งค่าหลัง ประธาน Fed  Hawkish (จากการศึกษาของ KS เงินบาทที่อ่อนค่าทุก 1 บาทจะส่งผลบวกต่อ Bottom line โดย SVI +25%, KCE และ ASIAN +15%, TU +8%, GFPT +1%)

มุมมองตลาดหุ้น :  KS ประเมินสัปดาห์นี้  SET Index จะปรับฐานตามตลาดหุ้นต่างประเทศในกรอบ 1,600 – 1,665 จุด  มองเป็นโอกาสซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว 

ธีมการลงทุนสัปดาห์นี้

1.) หุ้น Defensive ช่วงที่ตลาดผันผวน อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ GULF, ECGO RATCH  กลุ่มขนส่ง  BEM, AOT

2.) หุ้นปันผล  อาทิ KKP

3.) หุ้นส่งออกอาหาร  อาทิ ASIAN  ได้ sentiment บวกจากเงินบาทอ่อนค่าเหนือ 36 บาทและยอดส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง ก.ค. 2565 (+25.4%) 4.) หุ้นกลุ่มเปิดเมือง อาทิ กลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม อาทิ  ERW, AWC, CENTEL  คาดมีโมเมนตัมบวกจากภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง  ส่วนกลุ่มที่ที่แนะนำชะลอลงทุน คือ กลุ่ม Tech consult และกลุ่ม Finance

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1616-1640 จุด หุ้นแนะนำ BEM

Top pick :

BEM (ราคาพื้นฐาน 10.2 บาท) เราประเมินเป็นหุ้น Defensive  โดยมีปัจจัยหนุนจาก

1.) ศูนย์ฯสิริกิติ์” เคาะฤกษ์เปิดทางการ 12 ก.ย. คาดจะมีคนเข้ามาใช้บริการ 13 ล้านคนต่อปี บวกกับ BEM ที่มีสถานีตรงศูนย์ฯสิริกิติ์

2.) การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดย BEM มีโอกาสมากกว่าที่จะเป็นผู้ชนะประมูล

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามถ้อยแถลงของ Fed Brainard
  • วันอังคาร ติดตามดัชนี Economic sentiment ของยุโรป เดือน ส.ค.คาด 97.7 จุด (-1.3% MoM) ตัวเลขเงินเฟ้อของเยอรมันเดือน ส.ค. คาด 7.8% YoY (เทียบ 7.5% YoY ในเดือน ก.ค.) ตัวเลข JOLTs Job Openings ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาด 10.5 ล้านตำแหน่ง (-1.9% MoM) ดัชนี CB Consumer Confidence ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 97.5 จุด (+1.9% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Williams
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยเดือน ก.ค. คาด +8.7% YoY ตัวเลข Private Consumption index ของไทยเดือน ก.ค. คาด  -0.1% MoM ตัวเลข Private Investment index ของไทยเดือน ก.ค. คาด +1.1% MoM ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเดือน ก.ค. คาด -US$3.4bn (เทียบเดือน มิ.ย. ที่ -US$1.9bn) ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีนเดือน ส.ค. คาด 49.2 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข NBS Non-manufacturing PMI ของจีนเดือน ส.ค. คาด 52 จุด (-3.3% MoM) ตัวเลข Consumer Confidence ของญี่ปุ่น เดือน ส.ค. คาด 31 จุด (+2.6% MoM) ตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนเดือน ส.ค. คาด +9% YoY (เพิ่มขึ้นจาก +8.9% YoY ในเดือน ก.ค.) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +200K (+56% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ และถ้อยแถลงของ Fed Bostic
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลข Caixin Manufacturing PMI ของจีน เดือน ส.ค. คาด 50.2 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 52 จุด (-1.5% MoM) และตัวเลข Initial Jobless Claim เดือน ส.ค. คาด 249K (+2.5% MoM)
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกของเยอรมันเดือน ก.ค. คาด -2.5% YoY ตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 285K (ลดลงจาก 528K ในเดือน ก.ค.) อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 3.5% (ทรงตัว MoM) ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +5.3% YoY (เทียบเดือนก่อนที่ +5.2% YoY) และตัวเลข Factory order ของสหรัฐฯ เดือน ก.ค. คาด +0.2% MoM
- Advertisement -