บล.พาย: 

AH: บมจ.อาปิโก ไฮเทค “ครึ่งปีกำไรดี ปรับทั้งปีขึ้น 14%”

คงคำแนะนำซื้อ AH โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ใหม่เป็น 32 บาท จากเดิม 28 บาท (10XPER’22E) หลังจากผลประกอบการช่วง 1H22 ออกมาดี (+33%YoY) ทำให้เราปรับกำไรทั้งปีขึ้นจากเดิม 14% มาอยู่ที่ 1,142 ลบ. (+12%YoY) ขณะที่ในแง่การดำเนินงานมีความพร้อมในการผลิตสินค้ากลุ่มรถยนต์ EV ที่จะเข้ามาในอนาคต  เนื่องจากมีประสบการณ์จากโรงงานที่โปรตุเกสและจีนอยู่แล้ว สำหรับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำไม่มากนัก ซึ่ง AH มีแนวคิดใช้หุ่นยนต์มาช่วยทำงานมากขึ้น

2Q22 กำไรโต 64%YoY, 2%QoQ

  • 2Q22 กำไรสุทธิ 410 ลบ. (+64%YoY, +2%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 129 ลบ. กำไรปกติจะอยู่ที่ 281 ลบ. +35%YoY ได้รับผลดีจากธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นทั้งที่ไทยและ มาเลเซีย ขณะที่ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเพิ่มขึ้นเช่นกันจากที่ไทยและจีน แต่ลดลง 31%QoQ ซึ่งเป็นผลตามฤดูกาล รายได้อยู่ที่ 6,145 ลบ. (+ 27%YoY, -9%QoQ) กำไรขั้นต้นที่ 10% ลดลงเล็กน้อยจาก 11.6% ใน 2Q21 และ 11% ใน 1Q22 ส่วนหนึ่งเกิดจากการโปรตุเกสยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอยู่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 412 ลบ. (+5%YoY,+5%QoQ)
  • ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 122 ลบ. (+112%YoY, 48%QoQ) เติบโตดี จากฮุนไดที่มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นถึง 564%YoY, 124%QoQ)
  • รวมแล้วในช่วง 1H22 AH มีรายได้ 12,875 ลบ. (+24%YoY) และมีกำไรสุทธิ 812 ลบ. (+23%YoY) กำไรปกติที่ 687 ลบ. (+33%YoY)
  • แนวโน้ม 2H22 ในแง่ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จากฟอร์ดเข้ามาเต็มที่ รวมถึงการปรับราคาที่โปรตุเกสจะเริ่มได้รับผลดีมากขึ้น แต่ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อาจจะทรงตัวจาก 1H22 เพราะที่มาตรการสนับสนุนที่มาเลเซียลดลง
  • ส่วนการเข้ามาของรถ EV ทาง AH มีความพร้อมในการผลิตซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการไปบ้างแล้ว

1H22 กำไรดี เราจึงปรับทั้งปีขึ้นจากเดิม 14%

  • กำไรสุทธิช่วง 1H22 คิดเป็นสัดส่วนกว่า 69% ของกำไรทั้งปีที่เราคาดไว้ที่ 1,002 ลบ. ทำให้เราปรับกำไรขึ้น 14% เป็น 1,142 ลบ. (+12%YoY) โดยปรับรายได้ขึ้น 3% มาอยู่ที่ 24,035 ลบ. (+18%YoY)

EV มา AH พร้อม

  • สำหรับการเข้ามาของรถยนต์ในกลุ่ม EV นั้น เรามองว่า AH มีความพร้อมในการปรับตัวได้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทที่โปรตุเกสและจีนมีการผลิตสินค้าให้กับรถยนต์ EV อยู่แล้ว สำหรับโรงงานในประเทศการผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากชิ้นส่วนที่ AH ผลิตไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันหรือโครงสร้าง (Chassis frame) ยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่อย่างไรก็ตาม AH มีการวางแผนปรับปรุงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต โดยมีการศึกษาถึงการใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาลงเพิ่ม
  • สำหรับการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ EV จากจีนไม่ว่าจะเป็น MG GWM ปัจจุบันทาง AH มีคำสั่งซื้อเข้ามาบ้างแล้วในส่วนของรถที่ประกอบในไทย ส่วนการขึ้นไลน์การผลิตรถ EV ยังต้องรอการเจรจาต่อไป (ปัจจุบันรถ EV นำเข้ามาจากจีนทั้งคัน)

แนวโน้ม 3Q22 ยังดูดี

เราคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการช่วง 3Q22 จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับ 3Q21 เนื่องจากในปีก่อนมีการล็อคดาวน์ในประเทศช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. ขณะที่ในปีนี้ไม่มี ขณะที่หากเทียบกับ 2Q22 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกันซึ่งเป็นผลตามฤดูกาล แต่ยังต้องติดตามถึงยอดขายรถยนต์ในประเทศที่มาเลเซียว่าหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือในเดือน มิ.ย. แล้วจะเป็นเช่นใด (3Q21 มีรายได้ 4,244 ลบ. และมีกำไรสุทธิ 128 ลบ.)

ค่าแรงขั้นต่ำขึ้นกระทบไม่มาก

สำหรับการประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลที่จะเริ่มใช้ในเดือน ต.ค. ทาง AH แจ้งว่ากระทบไม่มากนัก อีกทั้งปัจจุบันทางบริษัทยังมีการใช้หุ่นยนต์มาช่วยในการประกอบชิ้นส่วนรถยนต์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเรื่องค่าแรงลงได้

Revenue breakdown

โครงสร้างรายได้ของ AH แบ่งได้ 3 ส่วนหลักได้แก่ 1.รายได้จากธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (Oem Auto Part) มีลูกค้าหลักได้แก่ ISUZU 2. รายได้จากการจำหน่ายรถยนต์และบริหารซ่อมแซมรถยนต์ (Car Dealerships) และ 3.รายได้ส่วนงานอื่นเช่น IOT เป็นต้น และถ้าแบ่งตามประเทศจะมีที่ ไทย มาเลเซีย โปรตุเกสและที่จีน

- Advertisement -