บล.เอเซีย พลัส:

แม้คาด 2H65 จะดีขึ้นแต่ยังมีความเสี่ยงงานล่าช้า

ผู้บริหาร AIT มีแนวโน้มจะลดเป้ารายได้ปี 2565 ที่ตั้งไว้เดิม 7.4 พันล้านบาท (ฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 7.0 พันล้านบาท) โดยการส่งมอบงานใน 1H65 อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท ถือว่าล่าช้ากว่าคาดเดิม ในขณะที่ให้ภาพ 2H65 บริษัทฯ จะทยอยส่งมอบงานดีขึ้นกว่า 1H65 หนุนจาก Backlog ในมือ 5.8 พันล้านบาท (ไม่รวมงานท่อร้อยสายของกรุงเทพ ธนาคม) บวกกับงานใหม่ที่จะทยอยประมูลเข้ามาเพิ่ม

ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ไว้ที่ 476 ล้านบาท (-20.2%yoy) กดดันจากมาร์จิ้นลดลง และค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้ปี 2565 คงทรงตัว FV ปี 65 อยู่ที่ 6.1 บาท อิง PER ที่ 15 เท่า แม้แนวโน้มกำไร 2465 จะฟื้นตัว แต่คาดกำไรปกติทั้งปี 2565 จะยังไม่เห็นการเติบโต รวมถึงยังมีความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจทำให้งานใหม่ออกมากล่าช้ากว่าเดิม คงคำแนะนำ Switch

แม้คาด 2H65 จะดีขึ้นแต่ยังมี DOWNSIDE งานล่าช้า

Backlog ล่าสุด ณ วันที่ 22 ส.ค. 65 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.6 พันล้านบาท (รวมงานของกรุงเทพธนาคม 1.8 พันล้านบาทที่ยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง) จาก Backlog สิ้น 2Q65 ที่ 6.3 พันล้านบาท จากยอดเซ็นสัญญารับงานใหม่ที่เติมเข้ามาในเดือน ก.ค. ส.ค.ถึง 1.3 พันล้านบาท หลักๆ เป็นงานพัฒนาระบบข้อมูลประกันสังคม 257 ล้านบาท, งาน Data center ของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ 219 ล้านบาท และที่เหลืองานประจำ จากภาครัฐมูลค่าหลักร้อยอีกหลายงาน

ในขณะที่ช่วงที่เหลือของปี มองว่าการส่งมอบงานช่วง 2H65 จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นกว่า 1H65 อย่างค่อยเป็นค่อยไป จากรับรู้งานจาก 1) Backlog ที่หักงานกรุงเทพธนาคมแล้วเหลือ 5.8 พันล้าน 2) งาน Waiting for P/O มูลค่า 270 ล้านบาท และ 3) งาน Bidding in process ที่คาดว่าจะได้รับอีก 300 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้ผู้บริหารให้เป้าจะรับรู้ในช่วง 2H65 ราว 40% หรือคิดเป็นราว 2.6 พันล้านบาท 4) งาน Market focus value ที่ AIT มี โอกาสจะเข้าร่วมประมูล 7.0 พันล้านบาท ซึ่งจาก Track record ที่ผ่านมา AIT มีโอกาสได้รับงานราว 40-50% และจะรับรู้เข้ามาบางส่วนในปีนี้ 40% หรือราว 1.1 พันล้าน ทำให้งานช่วงที่เหลือของปีอยู่ที่ราว 3.7 พันล้าน รวมกับการส่งมอบงานในงวด 1H65 อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท จะคิดเป็น 95% ของประมาณการที่ฝ่ายวิจัยทำไว้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกําลังรอดูสถานการณ์การส่งมอบงานใน 3Q65 แต่มีแนวโน้มที่จะลดเป้าหมายรายได้ปี 2565 ลงจากเดิมที่ให้ไว้ที่ 7.4 พันล้านบาท ซึ่งทำให้ฝ่ายวิจัยจะต้องปรับลดคาดการณ์รายได้การส่งมอบงานของ AIT ปี 2565 ไว้ที่ 7.0 ล้านบาทภายใต้หลักอนุรักษ์นิยมฯด้วยเช่นกัน

โดยระหว่างรอความชัดเจน เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ไว้ที่ 476 ล้านบาท ลดลง 20.2% yoy กดดันจากแนวโน้ม Gross margin ที่ลดลงเหลือ 17.5% จากฐานที่สูงในปีก่อน รวมถึง Product mix ของงานที่เปลี่ยนไป อีกทั้งสัดส่วน SG&A/Sales ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.2% จาก 8.7% ในปีก่อน ในขณะที่คาดรายได้รวม ปี 2565 จะทรงตัวที่ 7.0 พันล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน

ภาพกำไรช่วง 2H65 จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นกว่า 1H65 จากรายได้ที่คาดว่าจะไต่ระดับขึ้นจากการทยอยส่งมอบงาน อย่างไรก็ตาม แม้ Backlog ในมือจะค่อนข้างสูงแต่ยังมี Downside หากในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจทำให้งานติดขัดและล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากโครงสร้างรายได้ของ AIT มาจากหน่วยงานรัฐกว่า 70-80%

FV ที่ 6.10 บาท …คงคำแนะนำ SWITCH

กำหนด FV ปี 2565 อยู่ที่ 6.1 บาท อิง PER เดิมที่ 15 เท่าจากค่าเฉลี่ย PER ของ AIT และ Norm EPS ที่ 0.41 บาท ที่รวมผล Dilution effect จากสมมติฐานการใช้สิทธิ AIT-W2 65 จำนวน 25% แม้แนวโน้มกำไร 2H65 จะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นแต่ยังมี Downside ในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่อาจทำให้งานติดขัดและล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากโครงสร้างรายได้ของ AIT มาจากหน่วยงานรัฐกว่า 70-80% รวมถึงภาพแนวโน้มกำไรทั้งปี 2565 ยังไม่เห็นการเติบโต คงคำแนะนำ Switch

ประเด็นความเสี่ยง

1. ความไม่สม่ำเสมอรายได้และกำไรในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการส่งมอบงาน

2. ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงลูกค้าภาครัฐฯ ที่อาจกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายภาครัฐฯ

AIT แนะนํา SWITCH

ราคาปัจจุบัน (บาท) 6.35

ราคาเป้าหมาย (บาท) 6.10

Upside (%) -3.9

Dividend yield (%) 6.1

- Advertisement -