Our View? “พลังงานกลับมาถ่วงตลาด”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,632 /1,627 และแนวต้านที่บริเวณ 1,642 /1,650 คาดตลาดอาจได้รับแรงกดดันจากราคามันดิบปรับตัวลดลง กดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้ โดยเมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลง -5.37 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 91.64 ดอลลาร์ (-5.54%) จากความกังวลบริษัทน้ำมันของอิรักส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มส่งออกไปยังยุโรป ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว ขณะที่ยังต้องติดตามการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านต่อประเทศมหาอำนาจคาดจะเป็นปัจจัยการเพิ่มอุปทานน้ำมันเข้าสู่ตลาดได้ในระยะถัดไป คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมันดิบ และหุ้นในกลุ่มพลังงานซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 22% อ่อนตัวลงกดดันภาพรวมตลาดได้บ้าง
อีกทั้งคาดตลาดยังเผชิญจิตวิทยาเชิงลบจากตลาดต่างประเทศตามความกังวลแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงในระยะหนึ่ง หลังเมื่อวานนี้ตัวเลขตำแหน่งว่างงานเปิดใหม่เดือน ก.ค. ของสหรัฐออกมาอยู่ที่ 11.2 ล้านตำแหน่งมากกว่าที่ตลาดคาดที่ 10.3 ล้านตำแหน่ง สะท้อนภาพอุปสงค์ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 103.2 สูงกว่าที่ตลาดคาด คาดจะกระตุ้นความกังวลตลาดต่อความสามารถในการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อระยะกลางของ FED ขณะที่ในตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ FED จะเริ่มเพิ่มวงเงินในการปรับลดขนาดงบดุลของ FED จาก 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เป็น 9.50 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน บ่งชี้กระแสเงินทุนส่วนของในตลาดลดลง คาดจะกดดัน จํากัด Upside ของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้เช่นกัน
สำหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมีมุมมองให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นกับตลาดหุ้นไทยหลัง ปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 1,640 จุด ซึ่งถือเป็นโซนที่ Valuation ของตลาดในปัจจุบันจะเริ่มตึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า อยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะจำกัด Upside ระยะสั้นของหุ้นไทยได้บ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังที่จะได้รับแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น โดยเดือน ก.ย. นี้ คาดจะมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยที่ 3 เที่ยว/สัปดาห์ เป็น 15 เที่ยว/สัปดาห์ เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ระดับ 10 ล้านคน คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่ม Re-Opening ปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยเรายังชอบหุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI, PLANB และ MACO) และกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CRC และ MAKRO) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและแนวโน้มนักท่องเที่ยวกลับมาดีมากขึ้นในช่วง 2H′65 หนุนการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังแรงขายหุ้นในกลุ่มลีสซิ่งหลัง ธปท. และ สศค. เตรียมยกร่างพระราชกฤษฎีกา คุมธุรกิจ “เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง” โดยเป็นการเพิ่มอำนาจให้ ธปท. เข้ากำกับธุรกิจดังกล่าวได้ คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบ กดดันหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวลดลงได้ (MTC, SAWAD และ TIDLOR)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม “AU” แนวรับ 9.85 / 9.75 Target 10.50 / 11.30 Stop <9.55
เก็งกำไร “AAV” แนวรับ 2.78 / 2.68 Target 3.00 / 3.10 Stop <2.66