ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
กลับมาปรับลง แต่ไม่น่าลงแรง
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธปรับลดลง แต่ไม่น่าลงแรง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ (ตามคาด) หลังจากฟันด์โฟลว์กลับเข้าตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แม้ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นลบตามความกังวลต่อแนวนโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯ… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นลบเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงแรงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากผู้ว่าเฟดสาขา New York ให้ความเห็นว่าดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ควรขึ้นสูงกว่าเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกมากพอสมควร (อิง Bloomberg consensus ที่มองเงินเฟ้อสหรัฐฯ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 4.5%) ii) ในฝั่งยุโรป กรรมการ ECB อย่างน้อย 3 ท่าน ออกมาให้ความเห็นว่า ECB ควรปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 8 ก.ย.นี้… ด้านราคานํามันดิบลดลงแรงเกือบ 5% และน่าจะถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้ หลังจากสหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบของ API เพิ่มขึ้นสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ และมีกระแสข่าวที่ไม่เป็นทางการว่าอิรักพร้อมส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรปเพิ่มเติม หากได้รับการร้องขอ… ด้านปัจจัยภายในประเทศ วันนี้ ธปท. จะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน ก.ค. 2565 ซึ่งทางเรามองว่าตัวเลขรายได้ภาคเกษตร ตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคล รวมทั้งภาคการท่องเที่ยว น่าจะยังเติบโตแรง YoY ขณะที่ ณ สิ้นวันนี้ จะมีการปรับน้ำหนักตลาดหุ้นและหุ้นรายตัวจากทาง MSCI ซึ่งในรอบนี้จะนำหุ้น KBANK กลับเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Standard อีกครั้ง
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร TFG, BLA*, SCB*
- TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.3 บาท / แนวต้าน 6.5 – 6.75 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 7.0 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก FTA เขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ-ไทย โดยคาดจะเป็นบวกต่อการส่งออกเนื้อไก่ในอนาคต (อาหารฮาลาล) ซึ่งจะเป็นตลาดใหม่ที่ใหญ่ของการส่งออกเนื้อไก่ไทย จากเดิมที่เน้นตลาดยุโรป – ญี่ปุ่น 3) แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q65 โตเด่นต่อเนื่องจาก 2Q65 จากการเป็น High season ส่งออกอาหาร ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ทั้งหมู ไก่ ยังสูงต่อเนื่อง โดยคาด Demand เนื้อสัตว์มาจากการเปิดประเทศในหลายประเทศทั่วโลกปลายปีนี้ 4) Forward PE 8.3 เท่า ขณะที่คาดกำไรปีนี้โต >700% YoY เป็น 4.7 พันล้านบาท
- BLA* (เป้า Consensus 51.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35.5 บาท / แนวต้าน 37.75 – 39.25 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 43 บาท (Stop loss 35 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นขาขึ้น (Sentiment บวกต่อ Bond yield) ขณะที่ Consensus คาดกำไรปี 2565 – 66 โต 33.5% YoY และ 22.5% YoY ตามลำดับ 3) Valuation ไม่แพง Forward PE +/- 16 เท่า และ PBV 1.44 (คิดเป็นราว -0.5 เท่า ของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)
- SCB* (เป้าพื้นฐาน 150 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 108 บาท / แนวต้าน 115 – 117 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 123 บาท (Stop loss 105 บาท) 2) ประเมินกรณียกเลิกการเข้าซื้อหุ้น Bitkub มีโอกาสเป็นบวกต่อการจ่ายเงินปันผลเพิ่มจากประมาณการปัจจุบันที่ 4.0 บาท/หุ้น (Yield >3.7%) 3) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทย 2H65 ฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น 4) PBV 0.84 เท่า (คิดเป็นราว -1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาในช่วงที่ตลาดฯ กังวลเรื่องดีลการลงทุนใน Bitkub ทําให้คาดมีโอกาสฟื้นตัว
หุ้นมีข่าว
(+) ซาอุอาสาไทยเปิดตลาดเป็น FTA ร่วมอ่าวอาหรับ กลุ่มอาหาร ท่องเที่ยว โรงพยาบาลที่ปีก (ข่าวหุ้น) หุ้นกลุ่มอาหาร-โรงพยาบาล โรงแรม นำโดย CPF*, GFPT, TU*, BDMS*, BH*, MINT*, ERW* และ CENTEL* รับข่าวดีซาอุดีอาระเบียเตรียมเปิด “เขตการค้าเสรีกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ-ไทย” ประกอบด้วย ซาอุฯ บาห์เรน โอมาน ยูเออี กาตาร์ และคูเวต ด้านอย.ซาอุฯ รับปากเร่งตรวจโรงงานผลิตไก่ในไทย ดันส่งออกเพิ่ม ขณะที่ไทยพร้อมหนุน Saudi Vision 2030 ด้านวัสดุก่อสร้าง SCC นำร่อง ด้าน GFPT ลั่น รายได้โต 15-20% พร้อมคาดกำไรดีขึ้น หลังออเดอร์ลูกค้าโซนยุโรป-ญี่ปุ่นพื้นแรง
(+) CRC* ชี้ธุรกิจอาหารโตเด่น ตั้งเป้า 3-5 ปีข้างหน้า รายได้แซงกลุ่มแฟชั่น (กรุงเทพธุรกิจ) เร่งขยายสาขา ทั้งใน-ต่างประเทศ “เซ็นทรัลรีเทล” คาด 3-5 ปีข้างหน้า “ธุรกิจกลุ่มอาหาร” มีสัดส่วนรายได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซง กลุ่มธุรกิจแฟชั่น เหตุมีการขยายตัวค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม มั่นใจปีนี้รายได้เติบโตเกิน 20%
(+) DMT จ่อเข้าประมูล ทางด่วน 3 โปรเจกต์ มูลค่ากว่า 1 แสนล้าน (ข่าวหุ้น) “ทางยกระดับดอนเมือง” เข้าแข่ง 3 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1.02 แสนล้านบาท คาดภาครัฐทยอยเปิดประมูลปีนี้ ทั้งส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข มอเตอร์เวย์สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M2) และทางด่วนกะทู้-ป่าตอง พร้อมประเมินครึ่งปีหลังปริมาณรถพุ่ง-รายได้โตจากครึ่งปีแรก
(+) AOT* รวบ 3 สนามบิน เงินลงทุน 1 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) “ครม.” ไฟเขียว AOT บริหารท่าอากาศยาน ภูธร 3 แห่ง อุดรธานี บุรีรัมย์ และกระบี่ แทนกรมท่าอากาศยาน (ทย.) กรอบวงเงินลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
(+) CHAYO ทีโออาร์ 3 หมื่นล. ธุรกิจปล่อยสินเชื่อยอดพุ่ง (พันหุ้น) CHAYO เผยธุรกิจซื้อหนี้ยังมี TOR รอประกาศผล 4.9 หมื่นล้านบาท และ TOR ใหม่ที่จะทยอยเปิดอีก 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงที่เหลือของปีนี้ มั่นใจสิ้นปี 2565 ซื้อหนี้ใหม่เข้าเป้า 1.5 หมื่นล้านบาท จ่อปิดดีลขาย NPA 2 แปลง มูลค่ารวมกว่า 170 ล้านบาท คาดไม่เกินปลายไตรมาส 3/2565 ได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 ราย ด้านปล่อยสินเชื่อ ขยายตัวดียอดพุ่ง 520 ล้านบาท
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร KBANK (Trailing stop 154 บาท) COM7* (Trailing stop 33.5 บาท)
- LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.7 บาท / แนวต้าน 13.1-13.4 บาท หากผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 12.7 บาท)
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 13.6 บาท / แนวต้าน 14.2-14.5 บาท (Trailing stop 13.6 บาท)
- SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 16.1 บาท / แนวต้าน 16.9-17.3 บาท (Trailing stop 15.8 บาท)
- PTG* ( (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.5 – 15.8 บาท (Stop loss 14.8 บาท)
- EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 9.6 บาท / แนวด้าน 9.85-10.0 (Stop loss 9.5 บาท)
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 60.5 บาท / แนวต้าน 62-63 บาท (Stop loss 60 บาท)
- ILM (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) แนวรับ 18.5 บาท / แนวต้าน 19.5-19.7 บาท (Stop loss 18.2 บาท)
- MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 19.0 บาท / แนวต้าน 19.6-19.9 บาท (Stop loss 19.0 บาท)
- ECL (เป้าพื้นฐาน 3.4 บาท) แนวรับ 2.42 บาท / แนวต้าน 2.56-2.64 บาท (Stop loss 2.36 บาท)
- CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 41.5-43 บาท (Stop loss 39 บาท)
- CHAYO (เป้า Consensus 17.2 บาท) แนวรับ 10.7 บาท / แนวต้าน 11.1-11.5 บาท (Stop loss 10.6 บาท)
- IP (เป้า Consensus 24.9 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.6-19.0 บาท (Stop loss 17.8 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- SISB แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 17 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 – 2566 จะดีขึ้นต่อเนื่อง และผลจากจํานวนนักเรียนที่มีโอกาสมากกว่าคาดไว้เดิม ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับเพิ่มประมาณการฯ โดยปรับสมมติฐานจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น และปรับราคาเป้าหมายเป็น 17 บาท (เดิม 14.5 บาท)
- XO แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 15.8 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นสมเล็กน้อย เนื่องจากฟื้นตัวของยอดขายมีแนวโน้มกว่าคาดใน 2H65 โดยเฉพาะออเดอร์จากยุโรป ซึ่งยอดขาย 3Q65 มีโอกาสที่ยอดขายจะลดลง QoQ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2566 ยังมีความเสี่ยง จากภาวะเงินเฟ้อและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก