บล.พาย: 

SHR: บมจ. เอส ไอเทล แอนด์ รีสอร์ท “ได้ประโยชน์จากพอร์ตโรงแรมที่หลากหลาย”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้นจาก 4.80 บาท เป็น 5.20 บาท คาดกำไรสุทธิแดนบวกในครึ่งหลังปี 2022 หนุนจากพอร์ตที่บริหารจัดการเองในไทยที่มี EBITDA margin สูงสุดในธุรกิจโรงแรม คาดธุรกิจในสหราชอาณาจักร (UK) (45% ของรายได้รวมในไตรมาส 2/22) จะมีผลงานแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาส 3/22 ก่อนเข้า low season ในไตรมาส 4/22 แต่ธุรกิจในมัลดีฟส์น่าจะชดเชยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะคาดว่าอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) ของธุรกิจส่วนนี้จะแตะจุดสูงรอบ 3 ไตรมาสในไตรมาส 4/22 หนุนจากปัจจัยตามฤดูกาล ชอบ SHR ตรงที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคู่แข่ง

ภาพรวมทําไรเป็นบวกในครึ่งปีหลัง

พอร์ตใน UK: คาดผลงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจนถึงฤดูหนาวช่วงสิ้นปี หนุนจากอุปสงค์สะสมจากนักท่องเที่ยวในประเทศ (90% ของผู้เข้าพัก) บวกกับกิจกรรมด้าน MICE ที่ฟื้นตัวขึ้น ในด้าน RevPar ช่วงไตรมาส 2/22 มีระดับสูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว หรือแตะ £49/คืนเทียบ £39 ในไตรมาส 1/22 คาดแตะจุดสูงสุดของปีในไตรมาส 3/22 หนุนจากช่วงฤดูร้อนที่ยาวนานและอุปสงค์สะสม เมื่อดูตั้งแต่เกิดโควิด-19 พบว่าบริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์เพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีศักยภาพสูง และจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีผลงานไม่ดีออกไป ส่งผลให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ปรับดีขึ้นอยู่ที่ 280/คืน ในไตรมาส 2/22 เทียบกับ £67 ในปี 2019 ปัจจุบันมี downside risk จากความเสี่ยงด้านสภาวะถดถอย แต่คาดว่าการปรับเพิ่มขึ้นของ ADR ในพอร์ต UK จะช่วยเป็นกันชนได้ระดับหนึ่ง

ธุรกิจโรงแรมที่บริหารจัดการเองในไทย: คาดถึงทิศทางการฟื้นตัวเชิงบวกที่ดำเนินไปตลอดทั้งปี 2022 หนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้า และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ อัตราเข้าพักเดือน ก.ค. 2022 สำหรับโรงแรมในไทยค่อยๆ ฟื้นตัว มาอยู่ที่ 53% จาก 50% ในไตรมาส 2/22 ท่ามกลางช่วง low season คาด RevPar ของพอร์ตธุรกิจในไทยจะแตะ 60% ของช่วงก่อนโควิด-19 ได้ภายในไตรมาส 4/22 ที่น่าจะสอดคล้องกับธุรกิจโรงแรมในไทยของผู้ประกอบการจดทะเบียนรายอื่นที่วิเคราะห์อยู่ แต่คิดว่าการที่ผู้บริหารตั้งเป้าหมายยกระดับ ADR โรงแรมเรือธง “ทราย” 3 แห่งสู่ระดับก่อนโควิด-19 ภายในไตรมาส 4/22 เป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างท้าทาย สืบเนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้น โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมหรูที่อัตราเข้าพักอาจปรับเพิ่มในอัตราที่ช้ากว่ากลุ่มโรงแรมประหยัดชั้นกลาง

กลุ่มโรงแรม Outrigger: อัตราเข้าพักของโรงแรมในมอริเชียสและฟิจิ (18% ของรายได้รวม) ฟื้นตัวสู่ 64% ในไตรมาส 2/22 เทียบกับ 33% ในไตรมาส 1/22 หลังจากทั้ง 2 ประเทศนี้กลับมาเปิดประเทศโดยไม่มีเงื่อนไขการกักตัวแต่อย่างใด คาดผลงานในครึ่งหลังปี 2022 จะยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะฟิจิที่อัตราเข้าพักแตะ 87% ไปแล้วในเดือน ก.ค. 2022 คาด RevPar ของ Outrigger จะแตะระดับของช่วงก่อนโควิด-19 ได้ภายในไตรมาส 4/22

กลุ่มโรงแรมมัลดีฟส์: คาด RevPar สำหรับพอร์ตในมัลดีฟส์ในไตรมาส 3/22 จะยังอยู่ในกรอบต่ำเพราะเป็นช่วงฤดูฝนที่ปกติมักสิ้นสุดลงในกลางเดือน ต.ค. แต่คาด RevPar จะโต YoY ได้หลังจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าเพิ่มขึ้น (+31%YoY เป็น 1.34 แสน คน) ขณะที่อัตราเข้าพักยังแข็งแกร่งที่ 66% ในเดือน ก.ค. 2022 เทียบ 65% ในไตรมาส 2/22 คาดไตรมาส 4/22 และ 1/23 จะเป็นไตรมาสที่แข็งแกร่งสำหรับกิจการในมัลดีฟส์

แผนขยายกิจการยังคงเดิม บริษัทมีงบดุลแข็งแกร่งกว่าคู่แข่ง ด้วยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อเงินทุน (IBD/E ratio) ที่ 0.9 เท่า และเงินสดในมือ 2.0 พันล้านบาท และกำลังหาโอกาสในการขยายพอร์ตโรงแรม มูลค่าพื้นฐานที่ 5.20 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) อิง 52xPE’23E ค่าพรีเมี่ยมนี่สะท้อนกำไรที่ฟื้นตัวโดดเด่นกว่าคู่แข่ง ด้วยกับงบดุลแข็งแกร่งพร้อมสำหรับการขยายกิจการช่วง 3 ปีข้างหน้า

รีวิวผลประกอบการ

  • ขาดทุนสุทธิไตรมาส 2/22 อยู่ที่ 97 ล้านบาท เทียบขาดทุนสุทธิ 571 ล้านบาทในไตรมาส 2/21 และขาดทุน 204 ล้านบาทในไตรมาส 1/22 การฟื้นตัว YoY และ QoQ มีสาเหตุจากผลงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมโดยรวมยกเว้นในมัลดีฟส์
  • EBITDA ปรับเพิ่มเป็น 393 ล้านบาท เทียบกับที่ติดลบ 98 ล้านบาทในไตรมาส 2/21
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) แตะจุดสูงสุดในรอบ 9 ไตรมาสที่ 31.1% หลังจากอัตราเข้าพักในธุรกิจโรงแรมปรับเพิ่มขึ้น
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงแตะจุดต่ำรอบ 9 ไตรมาสที่ 25.9% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ปรับประมาณการกำไร

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2022 และ 2023 ลง 16%-21% เป็น 27 ล้านบาท และ 352 ล้านบาท ตามลำดับ หลังจากปรับลดส่วนแบ่งกำไรลงเป็นขาดทุน 13 ล้านบาทในปี 2022 และกำไร 14 ล้านบาทในปี 2023 เพื่อให้สอดคล้องกับตัวเลขจริงในครึ่งแรกปี 2022

Revenue breakdown

ธุรกิจโรงแรมที่บริหารจัดการด้วยตัวเอง หมายถึง กลุ่มโรงแรมที่บริษัทบริหารและดำเนินการภายใต้แบรนด์ของบริษัท ส่วนโรงแรม Outrigger ถูกรีแบรนด์และเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมที่บริหารจัดการด้วยตัวเองตั้งแต่เดือน ก.พ. 2021 โดยกลุ่มธุรกิจนี้คิดเป็น 10% ของรายได้รวม

สำหรับโครงการ Crossroads เฟส 1 คือ โครงการ 3 แห่งที่พัฒนาอยู่ในเอ็มบูดูลากูน มัลดีฟส์ โดยโครงการในเฟส 1 ประกอบไปด้วยโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมทราย ลากูน มัลดีฟส์ คูลิโอ คอลเลคชั่น บาย ฮิลตัน และฮาร์ดร็อคโฮเทล ซึ่งคิดเป็น 36% ของรายได้ทั้งหมด

พอร์ตกิจการใน UK ประกอบด้วยโรงแรม 28 แห่ง ภายใต้แบรนด์เมอร์เคียว ซึ่งคิดเป็น 54% ของรายได้รวม

- Advertisement -