ตลาดหุ้นวานนี้
ปิดลบกรอบแคบ SET ปรับตัวลงจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธุรกิจน้ำมันและโรงกลั่นหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทรุดตัวแรงกว่า 5$/bbl อย่างไรก็ตาม SETลดลงในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนหมุนกลุ่มเข้าซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบลงช่วยประคองดัชนี นำโดย กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF และ EA)
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,620 – 1,625 จุดตามคาดการณ์ FED และ ECB เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อหลังอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนส.ค.พุ่งขึ้นเกินคาดสู่ 9.1% ส่งผลให้ US bond yield พุ่งขึ้นและค่าเงิน USD. แข็งค่า ซึ่งเป็นลบต่อทิศทางการลงทุน นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจะเป็นลบต่อกลุ่มพลังงานอีกด้วย ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC EPG TASCO อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง
- CPF GFPT TU TFG ASIAN เข้าสู่ High season การส่งออกและอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง
- BDMS BH AOT CENTEL MINT CPN AMATA SPA อานิสงส์การเปิดเมือง
หุ้นแนะนำวันนี้
- SCGP (ปิด 56.75 ซื้อ/เป้า 62 บาท) ผลกำไรทยอยฟื้นตัว โดย 2Q22 มีกำไรสุทธิ 1,856 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.9%qoq ขณะที่ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากราคาพลังงานที่ลดลงคาดหนุน GPM เพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจ E-Commerce ยังขยายตัวเป็นบวกต่อธุรกิจ Packaging ของ SCGP
- GPSC (ปิด 68 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 77 บาท) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงเป็น Sentiment บวกกับหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าจากแนวโน้มต้นทุนพลังงานจะทยอยลดลงในระยะถัดไป ประกอบกับได้ผลบวกจากการปรับขึ้นค่า Ft ช่วยเพิ่มรายได้และชดเชยต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์วันนี้: BANPU (ปิด 14.5 ซื้อ/เป้า 20 บาท), Media sector
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ดาวโจนส์ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและจะยังไม่ปรับลดในปีหน้า: ดาวโจนส์ลดลงอีก 280 จุด (-0.88%) ปิดที่ระดับ 31,510 จุด หลังจากนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์เสนอให้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่เหนือระดับ 4% ภายในต้นปี 2566 และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นระยะเวลาหนึ่ง และเฟดไม่ควรรีบลดดอกเบี้ยลงในปีหน้า
(-) กลุ่มน้ำมัน – น้ำมันดิบ WTI หลุดต่ำกว่าระดับ 90$/bbl กังวล ศก. จีนชะลอตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.09$(-2.3%) ปิดที่ 96.49$/bbl ตลาดกังวลอุปสงส์น้ำมันดิบลดลงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ล่าสุดจีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ ศก.จะชะลอตัวแรง หลังจากรัฐบาลยังใช้มาตรการ Zero Covid ในหลายเมือง ขณะที่ PMI ภาคการผลิตต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 2
(+/-) คืนนี้ติดตาม PMI การผลิตของสหรัฐและยุโรป สะท้อนทิศทาง ศก. โลก: ดัชนี PMI เป็น leading indicator ที่ใช้บ่งชี้ทิศทาง ศก. ได้เป็นอย่างดี โดยวันพรุ่งนี้ สหรัฐและกลุ่มประเทศในยุโรปจะมีการรายงานตัวเลขดังกล่าวอีกครั้งหลังจากที่มีการรายงานตัวเลขเบื้องต้นไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา หากตัวเลขยังลดลงหรือต่ำกว่าที่ตลาดคาดจะทำให้นักลงทุนวิตกกังวลกับภาวะ ศก. ถดถอยเพิ่มมากขึ้น
