กดดันจากธนาคารกลางต่างๆ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ ทำสถิติเดือนส.ค. ที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี กังวลเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้มีรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 132,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.88%, -0.56%, -0.78%
  • ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ กดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือน ส.ค. แตะระดับสูงสุด ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.97%, -1.05, -1.37%, -1.22%
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.09 ดอลลาร์ปิดที่ 89.55 ดอลลาร์/ บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.49 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลความต้องการใช้น้ำมันในจีน หลังมีรายงานว่าเมืองใหญ่หลายแห่งของจีนเพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 เช่น เมืองกวางโจว และพื้นที่หลายส่วนในเมืองเซินเจิ้นซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีน และเมืองต้าเหลียนที่ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อคดาวน์ รวมทั้งรายงานภาคการผลิตจีนที่หดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 แต่อย่างไรก็ตาม EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล สต๊อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
  • ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น PTT, PTTEP, TOP ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง จากข่าวอิรักพร้อมที่จะส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรป ปัจจุบันบริษัท SOMO ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลอิรัก ได้เพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบไปยังยุโรปตั้งแต่เดือนมิ.ย. เนื่องจากประเทศในเอเชีย เช่น อินเดีย จีนได้หันไปซื้อน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย สหภาพยุโรปเตรียมจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อ หารือเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรปวันที่ 9 ก.ย. แนวโน้มน่าจะมีทางออกหลายทาง เช่น อียูยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นการชั่วคราว ซึ่งในกรณีนี้จะส่งผลต่อราคาเชื้อเพลิงปรับตัวลง เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent จะแกว่งในกรอบระหว่าง 110-87 ดอลลาร์/บาร์เรล หรืออียูหาทางเลือกในการใช้เชื้อเพลิงอื่นๆ ทดแทนการใช้ก๊าซ ในกรณี เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบน่าจะทรงตัวในระดับสูงต่อไป หุ้นไทยมีแรงซื้อในกลุ่มโรงไฟฟ้าจาก การปรับขึ้นค่า Ft ประจำงวดเดือนก.ย.-ธ.ค.
  • เงินเฟ้อยูโรโซนพุ่งแตะระดับ 9.1% ในเดือนส.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สูงกว่าที่ตลาดคาด เทียบกับระดับ 8.9% ในเดือนก.ค. ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมวันที่ 8 ก.ย. นี้ ส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงตลาดหุ้นโลก ยังคงมีแรงกดดันใน 2 สัปดาห์แรกของเดือนก.ย. ที่คาดว่าจะผันผวนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เฟดจะหยิบยกเป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
  • แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าผันผวน เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง เดือนก.ย. มีการจ่าย ปันผลระหว่างกาล คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะส่งเงินปันผลกลับประเทศ ส่งผลให้ค่าเงินบาทในเดือนก.ย. จะแกว่งในกรอบระหว่าง 36-37 บาท ค่า VIX ทรงตัว แนะนำนักลงทุนกลับเข้าไปหลบในหุ้น defensive AOT, BDMS, TIPH, BLA, TLI หรือลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนตัว เช่น ASIAN, GFPT, TFG, TU, CPF

กลยุทธ์การลงทุน

Trading: ดีดกลับไม่ข้าม 1,650 จุด แนะนำ “ขายเพื่อรอซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว”

- Advertisement -