บล.ทรีนีตี้

INTER PHARMA – อินเตอร์ ฟาร์มา (IP)

กําไร 2Q65 ทรงตัว QoQ ถึงแม้รายได้ขายโต 107% YoY, 51% QoQ

  • ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่มีการปรับราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 20 บาท (อิงวิธี DCF)
  • IP รายงานกำไร 2Q65 ที่ 31 ล้านบาท +23.5% YoY, +2.1% QoQ จากการเติบโตของรายได้การขายและบริการโดยรวม โดยรายได้การขายและบริการอยู่ที่ 409 ล้านบาท +107% YoY, +51% QoQ
  • ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายโตขึ้นมาอยู่ที่ 256 ล้านบาท (+152% YoY, +67% QoQ) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงกว่ายอดขายจึงทำให้กำไรไม่ได้โตมากนัก
  • คาดกำไรช่วง 2H65 ดีกว่า 1H65 เนื่องจากการเปิดประเทศจะช่วยหนุนยอดขายให้ร้านขายยา รวมถึงบริษัทฯทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น

ผลการดำเนินงาน 2Q65

  • กำไรสุทธิ 2Q65 อยู่ที่ 31 ล้านบาท (+23.5% YoY, +2.1% QoQ) มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY และ QoQ สาเหตุมาจากราคาต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตเวชภัณฑ์รักษาโรคที่เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจร้านขายยาที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าธุรกิจเดิม
  • รายได้การขาย 2Q65 เท่ากับ 409 ล้านบาท (+107% YoY, +51% QoQ) โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจร้านขายยาและคลินิกชะลอวัยที่ถูกบันทึกเป็นไตรมาสแรก (125.1 ล้านบาท คิดเป็น 30.6% ของรายการขาย) โดยปัจจุบันมีทั้งหมด 20 สาขาและมีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ (คาดว่าจะขยายสาขาเพิ่ม 3-5 สาขาใน 2H65) รวมถึงรายได้เวชภัณฑ์รักษาโรค (106.9 ล้านบาทคิดเป็น 26.1% ของรายได้การขาย) และ ผลิตภัณฑ์กลุ่มสัตว์ที่โตขึ้นจากอาหารสัตว์เลี้ยง (90.5 ล้านบาท คิดเป็น 22.0% ของรายได้การขาย)
  • ต้นทุนการขายอยู่ที่ 256.3 ล้านบาท (+152% YoY, +67% QoQ) สาเหตุจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น   ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและการบริการอยู่ที่ 120 ล้านบาท (+85% YoY, +60% QoQ) โดยสัดส่วน SG&A to Sales อยู่ที่ 29.4% ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ (27.9% ใน 2Q65 และ 32.8% ใน 2Q64) โดยค่าใช้จ่ายหลักๆ มาจากค่าตอบแทนพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือค่าคอมมิชชั่น และค่าเช่าจากร้านขายยา
  • โดยสรุปกำไรไตรมาส 1H65 คิดเป็นสัดส่วนราว 47.3% จากประมาณการกำไรทั้งปี 2565 ที่ 128 ล้านบาท  โดยเราได้ปรับประมาณการกำไรทั้งปีลงเหลือ 128 ล้านบาท (จาก 170 ล้านบาท) และประมาณการกำไรปี 2566 ลงเหลือ 194 ล้านบาท (จาก 247 ล้านบาท) เนื่องจากกำไรครึ่งปีแรกที่ออกมาต่ำกว่าคาด รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้น 2Q65 ที่หดตัวเหลือ 37.4% (43.2% ใน 1Q65 และ 48.2% ใน 2Q64)

2H65 Outlook

มีการปรับประมาณการรายได้ขายปี 2565 ลงเหลือ 1,566 ล้านบาทจาก 1,796 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับลดประมาณการรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม และธุรกิจร้านขายยาและคลินิกชะลอวัย สาเหตุจากรายได้การขายโตต่ำกว่าเป้าที่ประมาณการไว้ในช่วงครึ่งปีแรก โดยเรามองว่าทั้งกำไรและรายได้ช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกจากการเปิดประเทศรวมถึงการขึ้นราคาของสินค้า

Potential Growth

บริษัทฯ ยังมีแผนการเติบโตอีกมากมายที่เรายังไม่ได้นำมารวมในประมาณการ ได้แก่

1) การขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ “Maria” ที่ปัจจุบันได้มีการส่งออกไป India และ Korea และอยู่ระหว่างส่งออกไปยัง Vietnam โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายการส่งออกไปยัง Europe, US, China และ Japan

2) กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกระท่อม ที่เป็นการรวมกันวิจัยกับ ม.สงขลาผ่านการเซ็น MOU และจะมีการนำมาจำหน่ายเมื่อได้รับการอนุญาติจากทางรัฐบาล รวมถึงมีแผนที่จะขออนุญาติรัฐส่งออกผลิตภัณฑ์ modern herb ไปยังประเทศที่ได้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกกฎหมาย

3) การทำ project ร่วมกับบริษัทลูกของ PTT (“INNOBIC LL”) เช่น การขอ EU Standard technology transfer ของยาตา การขยายสาขาของ LAB Pharmacy เครื่องดื่มกระท่อม และการขยายการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้าน

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20 บาทต่อหุ้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20 บาทต่อหุ้น อ้างอิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC 7% Terminal growth 3% ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายบน Forward P/E ราว 52 เท่า โดยเรามองว่าโอกาสในการเติบโตของ IP ยังมีอีกมากมาย ไม่ว่าจะมาจากธุรกิจ modern herb รวมถึงการขยายช่องทางการขายผ่านการจับมือกับ PTT และโครงการการผลิตยาตาที่กำลังศึกษาอยู่

ทั้งนี้เราได้ทำตาราง DCF Sensitivity Analysis ที่ BETA ในกรอบ 0.81 ถึง 0.87 และบน Terminal Growth ระหว่าง 1-5% เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

IP DCF Sensitivity Analysis

Source: Trinity Research and Company Data

ความเสี่ยง: การแข่งขันในตลาดสุขภาพและความงามรุนแรง, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

- Advertisement -