Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับฐานลงตามตลาดหุ้นโลกจากความกังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและ Recession ดัชนีปิดลบ 16.98 จุด ณ สิ้นวัน สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.2 พันลบ.และ 3.3 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติพลิกมา Short Index Futures เกือบ 1.5 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways กรอบ 1,610-1,630 จุด หลังพักตัวแรงพอสมควรวานนี้ ขณะที่บรรยากาศการลงทุนไม่ได้เป็นลบมากขึ้นอย่างมีนัยยะ นักลงทุนรอจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคืนนี้คือการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ส.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจว่าจะชะลอตัวเร็วหรือไม่ นอกจากนี้ตลาดยังรอดูเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. วันที่ 13 ก.ย. ซึ่งหากยังยืนสูง คาดยังคงกดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง จากโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED อีก 0.75% ที่สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ตลาดคาดความน่าจะเป็นราว 70% อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองว่า SET Index จะพักไม่รุนแรงเท่าฝั่งตะวันตก โดยยังมีปัจจัยผลักดันจากเศรษฐกิจขาขึ้นตามการ Reopening และเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เราคาดหุ้น Domestic และ Value Play PER ไม่สูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตจะยัง Outperform ส่วนจังหวะ พักตัวของดัชนีลงหา 1,580-1,600+- จุด เรามองเป็นจังหวะสะสมเพิ่ม

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Value Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,580-1,600+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : SISB

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท
  • ธุรกิจอยู่ในช่วง Growth Stage เราคาดจะเห็นการเติบโตที่ดีขึ้นใน 2H22 +33% H-H, +159%Y-Y จากการปรับขึ้นค่าเทอมและจำนวนนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากนักเรียนไทยและจีน
  • เราคาดกําไรปี 2022 +58%Y-Y และโตต่อเนื่องในปี 2023 อีก +30%Y-Y ทั้งจากจํานวนนักเรียนที่เพิ่มใหม่จากการเปิด 2 campus ที่นนทบุรีและระยอง และสาขาหลัก เดิมรวมเป็น 3,400 คน.ในปี 2023
  • แนวรับ 14//13.40 บาท แนวต้าน 14.80-15 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคหนาแน่น US$1,503 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$1,158 ล้าน และ US$313 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลเข้าอินโดนีเซียแต่ไหลออกจากไทย แนวโน้มของกระแสเงินทุน คาดชะลอการไหลออกและรอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคืนนี้คือการจ้างงานนอกภาค เกษตรของสหรัฐฯ

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้ ตลาดคาดเดือน ส.ค. ชะลอลงเหลือ 3 แสนตำแหน่งจากเดือนก่อนที่ 5.3 แสนตำแหน่ง เป็นไปในทิศทางเดียวกับการจ้างงานภาคเอกชนที่ประกาศออกมาก่อนหน้าชะลอตัว หากออกมาต่ำกว่าคาด เราประเมินตลาดจะกังวลต่อโอกาสในการเกิด Recession มากขึ้น ทำให้เรายังคงชอบหุ้น Domestic และ Defensive Play มากกว่า Global Play

(+) ภาวะตลาดผันผวนลงทุนกลุ่มไหนดี? เราประเมินภาพการลงทุนที่ผันผวนและตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มพักตัวคาดยังกดดันหุ้น Tech และ Growth และหุ้น PER สูง ซึ่ง Outperform อย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการพักฐานแล้วพอสมควร แต่คาดยังฟื้นตัวได้จำกัด กลุ่มที่เราชอบและยังสามารถปรับตัวได้แข็งแกร่งและยืนแดนบวกได้ช่วงตลาดพักตัวแรงวานนี้ คือ Reopening Play ที่อิงการบริโภคและท่องเที่ยวไทย เช่น CENTEL CPN SC SISB เป็นต้น สินค้าจำเป็นโดยเฉพาะอาหารอย่าง TFG M TU ที่ ยังแข็งแรง รวมถึงกลุ่มธนาคารที่เรามองมีโอกาส Outperform หากธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้

(+) BA เราประเมิน BA ที่จะได้เงินจากการโอนสิทธิการเช่าสนามบินสมุยให้ BAREIT ราว 1.2 หมื่นลบ. ซึ่งใช้ชำระหนี้ 5 พันลบ.และอีก 6 พันลบ.ลงทุนในโครงการอู่ตะเภา ซึ่งจะทำให้ IBD/E ลดลงเหลือ 1.2 เท่า อย่างไรก็ตามกำไรปี 2023 จะถูกกระทบราว 400-500 ลบ.จากต้นทุนทางการเงินจากการเช่ากลับที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวธุรกิจยังแข็งแรงตามจำนวนนักท่องเที่ยวหนุน Load Factor และค่าตั๋วให้ปรับขึ้นต่อเนื่อง เราปรับกำไรลงสะท้อนดีลดังกล่าว แต่คาดปี 2023 จะพลิกกำไรได้ในรอบ 3 ปี ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 15 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA) (กรรมการอิสระ/ ประธาน ของกรรมการตรวจสอบ/ ประธานคณะกรรมการสรรหา ค่าตอบแทนและบรรษัทภิบาล FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการของ BA)

(+) ตลาดดาวโจนส์ 31,656.42 จุด เพิ่มขึ้น 145.99 จุด หรือ +0.46% ได้แรงหนุนจากแรงช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาดหลังเคลื่อนไหวแดนลบตลอดทั้งวัน ขณะที่นักลงทุนติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกัดดันจากความกังวนด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุก และอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม นักลงทุนรอติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้

(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2.94 ดอลลาร์ หรือ -3.3% ปิดที่ 86.61 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลด้านอุปสงค์น้ำมัน กรณีจีนสั่งล็อกดาวน์เมืองใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 16.9 ดอลลาร์ หรือ -0.98% ปิดที่ 1,709.3 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 973.36 / –

- Advertisement -