Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022 SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,610 จุดระหว่างวันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อกลับ และทำให้ดัชนี Rebound ขึ้นมาปิดทรงตัวได้ ซึ่งถือว่ายังค่อนข้างแข็งแรง สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ อีก 212 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายหนาแน่นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 อีก 2.2 พันลบ. (สถานะใน Index Futures ของแต่ละกลุ่มไม่มีนัยยะนัก)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่งตัว Sideways สร้างฐานในกรอบ 1,610-1,630 จุด โดยวันนี้กลุ่มพลังงานคาดยังหนุนตลาดได้ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหลัง OPEC+ มีมติลดกำลังการผลิตเล็กน้อยในเดือน ต.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้นอย่างชัดเจน เงินเฟ้อไทยเดือน ส.ค. ประกาศวานนี้ออกมาใกล้เคียงคาด Headline +7.86% Y-Y ส่วน Core +3.15% ยังปรับขึ้นจากเดือนก่อน ทำให้มีแนวโน้มที่ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมปลายเดือนนี้ ส่วนสัปดาห์นี้โฟกัสยังคงอยู่ที่การประชุม ECB ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.5% เป็น 1% ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอและวิกฤตราคาพลังงานที่สูง ปัจจัยดังกล่าวยังกดดันและจำกัดการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้น Global Play อย่างไรก็ตาม เรายังคงมอง SET Index จะแข็งแรงกว่าตามทิศทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวและนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาใน 4Q22 ทำให้เรายังเน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic และ Reopening Play ที่ Valuation ไม่สูงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตก่อน COVID 19 ส่วนจังหวะพักตัวของดัชนีเรามองกรอบ 1,580-1,600+- จุด เรามองเป็นจังหวะสะสมหุ้นกลับ

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Value Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,580-1,600+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : TH

  • แนะนำ  “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 7.20 บาท
  • แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังคาดยังเป็นขาขึ้นตามหนี้ที่ทยอยประมูลได้ 3 พันลบ.ใน 1H22 และมีโอกาสที่จะจัดตั้ง JV AMC กับธนาคารซึ่งคาดเห็นความคืบหน้าใน 2H22
  • เราคาดกำไรปี 2022-2024 ของ TH โตสูง +49% CAGR ฐานะการเงินแข็งแรง ปลอดเงินกู้ ราคาหุ้นพักตัวแรงทำให้ปัจจุบันเทรด 2022PER ราว 17 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มฯ ที่เทรดอย่างต่ำ 25-30 เท่า
  • แนวรับ 4.20//4 บาท แนวต้าน 4.50//4.70 บาท

Fund Flow : กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคแต่บางลงเหลือ US$248 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$218 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลเข้าอินโดนีเซียสูงสุดในภูมิภาค US$102 ล้าน แต่ไหลออกจากไทย US$61 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังค่อนไปในทิศทางไหลออกแต่ไม่หนาแน่นนัก ตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่และรอดูการประชุม ECB สัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) OPEC+ Surprise ตลาดโดยมีมติปรับลดกำลังการผลิตสําหรับเดือน ต.ค. ลงเล็กน้อย 1 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดือน ก.ย. ที่เพิ่มกำลังการผลิต 1 แสนบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% วานนี้ ประเด็นราคาพลังงานที่สูงโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยุโรปยังคงกดดันต่อเนื่อง รวมถึง Demand ที่จะเร่งขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจากฤดูหนาว คาดทําให้การปรับลงของราคาพลังงานจำกัด ส่งผลให้เงินเฟ้อยังยืนสูงต่อเนื่องกดดันให้นโยบายการเงินยังจำเป็นต้องตึงตัวเร็วและกดดันสินทรัพย์เสี่ยง เรายังชอบ Domestic และ Reopening Play wnnnn Global Play

(+) REIT Focus ดัชนี PF&REIT ฟื้นตัวดี +3% เดือน ส.ค. ใกล้เคียง SET Index ส่วนต่าง Bond Yield 10 ปีของไทยกับ Dividend Yield ของกองทุนที่เราแนะนำ คิดเป็น Yield Gap ที่ 3.7% เรามองว่าในช่วงที่เหลือของปีกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Reopening Play จะยังปรับตัวเด่นกว่ากลุ่มอื่น จึงยังคงเลือกกองทุนที่อยู่ในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงคลังสินค้าที่มีผู้เช่าสูง เราเลือก Top Pick 5 กองทุน ได้แก่ AIMIRT ALLY CPNREIT FTREIT WHART

(0) JAS ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเห็นว่าผู้ถือหุ้น JAS ไม่ควรอนุมัติขายหุ้น TTTBB-JASIF ให้ ADVANC แม้มองว่ามีความสมเหตุสมผลในแง่ราคาที่อยู่ในช่วงเหมาะสม แต่มองความเสี่ยงสำคัญ 2 ประเด็นคือ 1.ความไม่แน่นอนของการดำเนินธุรกิจในอนาคต เนื่องจากยังไม่มีแผนแน่ชัดในการนำเงินสดไปลงทุนต่อ และ 2.ยังยืนยันความสมเหตุสมผลได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากยังต้องรอการอนุมัติจากกสทช. เรามองยังเป็นปัจจัย Overhang ทั้ง JAS และ ADVANC โดยต้องจับตาการประชุมผู้ถือหุ้น JAS วันที่ 23 ก.ย. นี้

(+) TACC 7-11 แจ้งปรับราคาเครื่องดื่ม All Café ขึ้นจากราคาเดิม 5 บาททุกรายการ (ยกเว้นกลุ่มท๊อปปิ้ง) มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 22 ซึ่งเรามองว่าเป็นไปตามต้นทุนที่ปรับขึ้น เรามองเป็น Sentiment บวกต่อ TACC ที่เป็น Supplier หลักให้ 7-11 ที่มีโอกาสได้ปรับขึ้นราคาขายตาม ด้านแนวโน้มกำไรคาดชะลอตัวบ้าง Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่จะกลับมาเร่งตัวใน 4Q22 จาก High Season ทั้งเครื่องดื่มและธุรกิจ Character เรายังคาดกำไรปี 2022-2023 +9% Y-Y และ +15% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 8.70 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐฯ

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากรัสเซียยุติการส่งก๊าซผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ไป ยังยุโรป เกิดความกังวลต่อวิกฤตพลังงานของยุโรป

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม จากปัจจัยเฉพาะตัว

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าอยู่ที่บริเวณ 36.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐฯ

(0) ราคาทองคํา COMEX ปิดทำการเนื่องในวันแรงงานสหรัฐฯ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 973.08 / –

- Advertisement -