Our View? “ฉันยังไหว”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,613 / 1,596 และแนวต้านที่บริเวณ 1,628 / 1,635 ผลการประชุม OPEC+ เมื่อคืนนี้ออกมามีมติปรับลดกำลังการผลิตเดือน ต.ค. ลง 1 แสนบาร์เรล/วัน เพื่อประคองทิศทางราคาน้ำมัน รวมทั้งยังส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับลดกำลังการผลิตได้อีก หากอิหร่านสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลกได้ อีกทั้งมีรายงานว่า OPEC+ ได้มอบอำนาจการเรียกประชุมฉุกเฉินให้แก่ซาอุดิอาระเบียเพื่อสามารถกำหนดทิศทางด้านนโยบายกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเมื่อ สะท้อนความยืดหยุ่นและแนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่จะยังอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อโลกยังคงอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะเวลาหนึ่งเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คาดประเด็นดังกล่าวจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานยืนตัวอยู่ได้ประเป็นปัจจัยช่วยประคองทิศทางตลาดหุ้นไทย

อีกทั้งเราคาดว่าการที่คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยเตรียมยกระดับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อป้องกันภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และวิกฤตอสังหาฯ เราคาดว่าอาจเห็นจีนออกมาตรการเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น รวมทั้งการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้บ้างเล็กน้อย

ขณะที่สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย. นี้ คาดมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจยุโรปในปัจจุบันยังมีความเปราะบางมากก็ตาม คาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว-ถดถอย เป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง

สำหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมมองเป็นกลางต่อการที่เมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ออกมา +7.86% YoY ตามราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานหักพลังงาน และอาหารอยู่ที่ระดับ 3.15% YoY ค่อนข้างทรงตัวในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังคาดเงินเฟ้ออาจเป็นจุดสูงสุดไปแล้วตามราคาพลังงานที่เริ่มปรับตัวลดลงบ้าง อย่างไรก็ดี เรายังคงมีมุมมองให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นกับตลาดหุ้นไทยในโซนใกล้ระดับ 1,640 จุด ซึ่งถือเป็นโซนที่ Valuation ของตลาดในปัจจุบันจะเริ่มตึงตัวมากขึ้น โดย Forward PE เริ่มปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 16 เท่า อยู่ในระดับ -0.5 S.D. ในปีนี้ คาดจะจำกัด Upside ระยะสั้นของหุ้น ไทยได้บ้างในระยะสั้น

ทั้งนี้เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่ม Re-Opening ที่ยัง Laggard ตลาดอยู่ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มศูนย์การค้า (CPN, MBK และ PLAT) และหุ้นในกลุ่มโฆษณา (VGI, PLANB และ MACO) และกลุ่มค้าปลีก (BIC, CPALL, CRC และ MAKRO) และกลุ่มขนส่ง (BEM และ BTS) คาดจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเมืองและแนวโน้มนักท่องเที่ยวกลับมาดีมากขึ้นในช่วง 2H’65 หนุนการบริโภคในประเทศฟื้นตัวขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นดังกล่าวได้ มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อตลาดอ่อนตัวลง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้

กลยุทธ์

ทยอยซื้อสะสม “CPALL” แนวรับ 59.50 / 59.00 Target 64.50 / 68.00 Stop <59.00

สะสมรอเล่นรอบ “TASCO” แนวรับ 17.20 /17.00 Target 18.40 / 19.10 Stop <17.00

- Advertisement -