บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Initiate)
TP upside (downside) +36.6%
Close Sep 5, 2022 Price (THB) 4.54
12M Target (THB) 6.20
What’s new?
- AMANAH เป็นผู้ประกอบการ Non-Bank ที่ทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก
- ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ Growth Phase ด้วยกลยุทธ์หลัก 4 ข้อที่เน้นการขยายสินเชื่อใน Mass Market และเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้ทั่วถึงมากขึ้น นอกจากนี้ยังยกระดับ Synergy ร่วมกับ iBank เพิ่มขึ้นจากในอดีต
- คาด 3Q65 จะมีกำไรสุทธิ 87 ลบ. โต 22.5%YoY และ 7.2%QoQ หนุนจากการรับรู้รายได้ของพอร์ตสินเชื่อ ที่เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องจาก 2Q65 และการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง
Our view
- มอง AMANAH เป็นผู้เล่นขนาดเล็กที่กำลังจะเริ่ม Scale Up ธุรกิจของบริษัท เพื่อเร่งการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- เราได้ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ของ AMANAH 6.20 บาท โดยอิงวิธี Prospective PBV (อิง Sustainable ROE = 20%, LTG = 5%, Ke = 10%) ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside ราว 36.6% พร้อมคาดให้ Div.Yield อีก 3.6% นอกจากนี้หากเทียบกับหุ้นบริษัทจำนำทะเบียนในตลท. พบว่า AMANAH ซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 2.8x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (SAWAD, MTC, TIDLOR) ที่ 3x เราจึงเริ่มต้นคําแนะนํา “ซื้อ”
AMANAH LEASING ขยับสู่ Growth Phase พร้อมลุยตลาด Mass สู้กับรายใหญ่
ผู้ประกอบการจำนำทะเบียนไซส์เล็กที่กำลังเติบโตด้วย 4 กลยุทธ์หลัก
AMANAH เป็นผู้ประกอบการ Non-Bank ที่ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นธุรกิจหลัก ปัจจุบันกำลังเข้าสู่ Growth Phase รอบใหม่ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจหลัก 4 ข้อคือ 1) เปลี่ยนนิติกรรมสินเชื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพแข่งขันให้ทัดเทียมคู่แข่ง 2) ขยายสาขาเพื่อเพิ่มฐานตัวแทนและรุกขยายธุรกิจใน Mass Market 3) ยกระดับความร่วมมือกับ iBank เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และ 4) เพิ่มแหล่งเงินทุนทางเลือกด้วย Sukuk เตรียมพร้อมที่จะขยับ D/E ให้สูงขึ้น ซึ่งเรามีมุมมองเชิงบวกต่อแผนธุรกิจดังกล่าว และคาดจะช่วยให้ AMANAH มีผลดำเนินงานที่เร่งตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ด้วยการเร่งขยายธุรกิจเชิงรุกมากขึ้นจากในอดีต
คาดกำไร 3Q65 ทํา ATH ที่ 87 ลบ. ส่วนทั้งปี 65 คาดกำไรโต 9.7%YoY
เราประเมินกำไรสุทธิใน 3Q65 ของ AMANAH ที่ 87 ลบ. โต 22.5%YoY และ 7.2%QoQ โดยมีแรงหนุนหลักจากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่โต 6.2%QoQ สอดรับกับพอร์ตสินเชื่อที่คาดปรับขึ้น 5%QoQ รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้ของสินเชื่อปล่อยใหม่ที่เร่งตัวขึ้นในช่วงปลาย 2Q65 เข้ามาเต็มไตรมาส นอกจากนี้คาดรายได้ค่าธรรมเนียมจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันกับขนาดของพอร์ตสินเชื่อ ส่วนการตั้งสำรองคาดปรับลง 9.1%QoQ หลังตัวเลข NPL เริ่มทรงตัว ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานคาดเร่งตัวขึ้น 6.3%QoQ จากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนที่จ่ายให้กับ AE และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จำนำทะเบียนภายใต้สัญญาใหม่ หนุนให้ทั้งปี 2565 คาด AMANAH จะมีกำไรสุทธิ 337 ลบ. โต 9.7%YoY นอกจากนี้ยังมี Upside Risk ที่ไม่รวมในประมาณการ จากการรับรู้กำไรจากการขายหลักประกันของลูกหนี้ NPL ของพอร์ตสินเชื่อในอดีตราว 60-80 ลบ. ส่วนปี 2566 คาดกำไรปกติจะเร่งตัวขึ้น 21.9%YoY สู่ 411 ลบ. หลังรับรู้ผลบวกจากการขยายสินเชื่อด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่เต็มปี
มี Story เติบโตน่าสนใจ ขณะที่ Valuation ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
เรามอง AMANAH เป็นผู้เล่นขนาดเล็กที่กำลังจะเริ่ม Scale Up ธุรกิจของบริษัท เพื่อเร่งการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ หลังปลดล็อคข้อจำกัดเรื่องนิติกรรมที่ใช้ในการทำธุรกิจ คาดหนุนให้บริษัทมีความสามารถในการให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปได้เทียบเท่ากับคู่แข่ง ทำให้บริษัทมีความพร้อมที่เข้าไปรุกขยายธุรกิจในกลุ่ม Mass Market อีกทั้งมี iBank เป็นแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำที่พร้อมจะสนับสนุนด้านเงินทุน และเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้กับบริษัท โดยเราได้ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2566 ของ AMANAH ที่ 6.20 บาท โดยอิงวิธี Prospective PBV (อิง Sustainable ROE = 20%, LTG = 5%, Ke = 10%) ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside ราว 36.6% พร้อมคาดให้ Div.Yield อีก 3.6% นอกจากนี้หากเทียบกับหุ้นบริษัทจำนำทะเบียนในตลท. พบว่า AMANAH ซื้อขายด้วย PBV ต่ำเพียง 2.8x เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่ม (SAWAD, MTC, TIDLOR) ที่ 3x เราจึงเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”
ความเสี่ยงที่สำคัญ : การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น, ดอกเบี้ยขาขึ้น, ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และความเสี่ยงจากการถูก พนักงานทุจริต