SET แนวโน้ม sideway up ลุ้นทดสอบ 1650 แต่ถูกจำกัด upside จากกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาด

ตลาดหุ้นวานนี้…SET Index ปิดที่ 1,639.92 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด, +0.37% ได้รับแรงหนุนจากการกลับเข้ามาซื้อสุทธิของนักลงทุนสถาบันในประเทศ โดยเฉพาะ DELTA 

แนวโน้มตลาดวันนี้…คาด SET Index แกว่งตัว sideway up ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1650 หนุนด้วยสัญญาณ bullish ใน RSI และ Slow stoc. แนวรับหลัก 1632 รับปัจจัยบวกจาก US Bond Yield ที่ลดลง เช่นเดียวกันกับ Dollar index เป็น Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนในระยะสั้น เป็นบวกต่อกลุ่ม Growth stock และ IT ด้าน GDP2Q65 กลุ่ม EU ออกมาดีเกินคาด (3.9%YoY) ที่ 4.1%YoY จากการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนฟื้นตัวขึ้นหลังชะงักงันมาร่วมครึ่งปี แม้รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงจะถูกบีบคั้นจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น แต่ตัวเลขที่ออกมาดี จะเป็นแรงหนุนให้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% ในการประชุมที่จะถึงนี้ ทั้งนี้ยังต้องติดตามวิกฤตพลังงานในยุโรปที่จะกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง มีโอกาสเกิด stagflation ในยุโรป แนะนำหลีกเลี่ยงกลุ่ม EU play ในระยะสั้นเช่น MINT CRC XO NRF TU KCE PTTGC ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรงหลุดระดับ 83$ เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน จากข้อมูลส่งออกจีนที่โตน้อยกว่าคาดอย่างมาก และกังวลดอกเบี้ยขาขึ้นจาก ECB และเฟด ที่จะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้ข้อมูลจากแบบจำลอง GDPNow ของเฟดบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ใน Q3/65 เป็นแรงหนุนให้เฟดมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือน ก.ย. ที่ 0.75% ด้านปัจจัยในประเทศ ศาลรธน.แจงประชุมนัดพิเศษ 8 ก.ย.พิจารณาพยานหลักฐาน-คำชี้แจง ปมวาระนายกฯ 8 ปี ซึ่งถ้าข้อมูลเพียงพอก็สามารถลงมติได้ทันที หรืออาจจะใช้เวลาไม่เกิน 15-30 วัน เพื่ออ่านคำวินิจฉัย โดยความเห็นของฝ่ายประเมินว่าศาลรธน. จะใช้การนับเวลาตำแหน่งนายกฯ เกิดขึ้นหลังจากรัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลบังคับใช้ นั่นคือ นายกฯ ประยุทธ์จะสามารถดำรงตำแหน่งได้อีกอย่างน้อย 3 ปีจนถึงปี 2568

อย่างไรก็ดี ยังมีโอกาสที่จะออกมาผิดคาด คือ ศาลรธน. เริ่มนับเวลา ตน.นายกฯ ตั้งแต่ 24 ส.ค. 57 ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ก็จะพ้นจากตน.ทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้มีมติที่ก้ำกึ่ง (5 ต่อ 4 เสียงที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯชั่วคราว) จะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดในระยะสั้น เนื่องจากจะเกิดสูญญากาศทางการเมือง SET มีโอกาสย่อตัวลงมาทดสอบ 1612-1600 แนะนำสะสมกลุ่ม Defensive และ Domestic play

สัปดาห์นี้ติดตาม การประชุม ECB (8 ก.ย.) หลังตัวเลขเงินพุ่งสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 0.75% หลังขึ้นมา 0.5% ในการประชุมครั้งที่แล้ว และ Beige book (9 ก.ย.) เพื่อจับ สัญญาณแนวโน้มอัตาดอกเบี้ยของเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจจีน (9 ก.ย.) CPI ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ก.ค. ที่ระดับ 2.7% และ PPI ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 3.1%YoY แต่ชะลอตัวจาก ก.ค. ที่ 4.2%

กลยุทธ์การลงทุน

1. Re-opening & Domestic play MINT ERW SHR AOT AAV BA CPN ONEE

2. เงินเฟ้อผ่านจุดพีค CPALL MAKRO GLOBAL BJC BBL KTB MTC SAWAD

3. Defensive ADVANC BDMS CHG BGRIM RATCH SISB

เคาะไป คุยไป CPALL

Investment Highlights

  • แนวโน้ม 2H65 เรามองว่าจะเติบโตทั้ง HoH และ YoY จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ นักเรียนเข้าเรียนตามปกติ และนักท่องเที่ยวยังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยมากขึ้นด้วย ด้านเป้าขยายสาขาปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 700 สาขา งวด 1H ขยายไปแล้ว 299 สาขา (43% ของเป้า) จากปัจจุบันที่ 13,433 สาขา สำหรับ 3Q65 มองว่ายอดค่าใช้จ่ายต่อบิล จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 84 บาท/บิล ตามภาวะเงินเฟ้อและการเปิดเมือง และ SSSG ยังเพิ่มขึ้นได้ในระดับ double digit (10-12%) ส่วนด้าน GPM มี แนวโน้มลดลงเล็กน้อย จาก product mix ที่เน้นกลุ่ม Foods มากขึ้น และภาระดอกเบี้ยสูง
  • ด้านปัจจัยลบจากกลุ่ม CP ยื่นประมูลซื้อกิจการ Metro ในอินเดีย 3.6 หมื่นล้านบาท (สูงที่สุด) ซึ่งตลาดมองว่าค่อนข้างแพง และหากผ่าน Regulation ในอินเดีย ก็จะนำมาเป็นบริษัทย่อยของ MAKRO (CPALL ถือหุ้น MAKRO 34.97%) ที่ทำธุรกิจ cash and carry เช่นกัน จะส่งผลต่อภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ทั้งนี้เรามองว่าตลาดได้สะท้อนปัจจัยลบไปบางส่วนแล้ว
  • CPALL เป็นหนึ่งในหุ้นที่เหมาะสำหรับกาลงทุนแบบ DCA จากการเติบโตของธุรกิจที่ล้อไปกับภาวะเศรษฐกิจ และความเป็นผู้นำกลุ่มค้าปลีกและขายส่ง ขณะที่ valuation ปัจจุบันน่าสนใจ โดยราคาปรับตัวขึ้นมาพียง 0.4% จากกลางปี 65เทียบกับ SET ที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 4.4% มีโอกาสเห็นแรงซื้อกลับ ขณะที่ล่าสุดได้ร่วมมือกับ Flash express ที่สามารถรับ-ส่งพัสดุ 24 ชม. หนุนรายได้ค่าธรรมเนียมและเพิ่ม traffic ให้กับร้านค้ามากขึ้น

Investment Strategy

Source : Aspen

แนะนำ “เคาะ” ลักษณะการเรียงตัวแท่งเทียนสร้างฐานแนวรับ บริเวณ 59.00-58.50 อย่างมีนัยสำคัญ และกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวแสดงถึงแรงซื้อเล่นรอบ แนวต้านระหว่างวันSMA13วัน 60.75 ผ่านยืนมั่นคงเป็นสัญญาณซื้อ แนวโน้มกลับขึ้นรูปแบบV-Shape แนวต้านจุดทดสอบ 62.00 และจุดสูงเดิม 64.00

คําแนะนําของ ASL

กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 62/64 มีโอกาสทดสอบ

กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 59-58.50 ไม่ควรต่ำกว่า

กระแสข่าวหุ้น

ประเด็น

AIS ปลอบผู้ถือ JASIF ลดค่าเช่าทางรอด 3BB 2 วันราคารูดเกือบ 10% นักลงทุนผวาดีลล่ม

ผู้บริหาร “แอดวานซ์” เดินสายกล่อมผู้ถือหน่วย JASIF โหวตรับข้อเสนอ 23 ก.ย.นี้ ไม่เช่นนั้นมีสิทธิล้มดีล ยันอยู่ใต้ปีก AIS แม้ต้องลดค่าเช่า 3BB ลง 30% ก็ดีกว่าอยู่กับ JAS เนื่องจากฐานะการเงินมีปัญหา อาจไม่สามารถจ่ายค่าเช่าในอนาคต ขณะที่ความสามารถแข่งขันลดลง ด้านกองทุนผวาหนักหวั่นดีลล่ม กระหน่ำเทขาย JASIF หนัก

TOP หุ้นเพิ่มทุนเทรดก.ย. คาดราคาหุ้นไดลูทแค่ 3%

TOP เดินหน้าขยายธุรกิจ มั่นใจการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ไม่เกิน 221.1 ล้านหุ้น จะได้รับความสนใจ ระดม เงินทุน 1.1 หมื่นล้านบาท หวังนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น คาดลดภาระอัตราดอกเบี้ยจ่ายได้ 200 ล้าน บาท มั่นใจหุ้นเพิ่มทุนเข้าเทรดในเดือน ก.ย.นี้ ลั่นราคาไดลูทฯ ราว 2-3% ราคาหุ้นสะท้อนมาจาก ปัจจัยพื้นฐานธุรกิจ

ศาลสั่งกทม.-กรุงเทพธนาคม จ่ายหนี้บีทีเอส 1.17 หมื่นล้าน

“ศาลปกครอง” สั่ง “กทม.-กรุงเทพธนาคม” ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ BTS มูลค่า 1.17 หมื่นล้านบาท ภายใน 180 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด “ชัชชาติ” เตรียมถกทีมกฎหมายยื่นอุทธรณ์ตามสิทธิ ด้าน BTS จ่อเจรจาขอกทม. ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากฟ้องร้องเพิ่มอีก

BE8 ปีหน้ารายได้พุ่ง 2 พันล้าน แรงหนุนซื้อ X10-เบย์คอม-วานิลลา-เทคซอส

“เบริล 8 พลัส” ย้ำปีหน้ารายได้โตก้าวกระโดดทะลุ 2,000 ล้านบาท หลังเข้าซื้อกิจการ 2 บริษัท X10 และเบย์ คอม พร้อมลงทุนเข้าถือหุ้นอีก 2 บริษัท คือ วานิลลา แอนด์ เฟรนด์ และเทคซอส เริ่มรับรู้รายได้ X10 ตั้งแต่ เดือน กันยายนนี้ ส่วนอีก 3 บริษัทบุ๊กรายได้ปีหน้า

COM7-SYNEX เด่น ขายสินค้าไอที อานิสงส์เปิด iPhone14 ยอดขายพุ่ง

COM7-SYNEX เด้งรับอานิสงส์ Apple เปิด iPhone14 คืนวันที่ 7 ก.ย. 65 โบรกฯ ชูหุ้นเด่นกลุ่มขายสินค้า ไอที รับ เซนติเมนต์บวก คาดหนุนยอดขายเพิ่ม

PRM คาดผลงานครึ่งปีหลังเด่น ปริมาณใช้พื้นที่เรือนดีมานด์ขนส่งทางทะเลพุ่ง

“พริมา มารีน” ย้ำรายได้ปีนี้โต 10% ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังโดดเด่น หลังปริมาณใช้พื้นที่เรือเพิ่ม จากการขยายกองเรือ ขณะที่ไตรมาส 3/65 โตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเปิดประเทศ หนุนดีมานด์ขนส่งน้ำมันทางทะเลเพิ่ม

WP ขาย LPG ปีนี้ 7.65 แสนตัน ส่งซิกงบครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง ลุยลงทุน 860 ล้าน

“ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่” คงเป้าปีนี้มีปริมาณขาย LPG 7.65 แสนตัน สูงกว่าปีก่อนอยู่ที่ 7.14 แสนตัน แรงหนุน น้ำมันแพง รถยนต์หันมาใช้ LPG มากขึ้น ประเมินผลงานช่วงครึ่งปีหลังเติบโตดีต่อเนื่อง พร้อมลงทุนตามแผน ทั้งปี 860 ล้านบาท เดินหน้าเพิ่มจุดกระจายสินค้า รุกตลาดค้าปลีก และโซลาร์รูฟท็อป

XD Events

Source : SETSMART

GLOBAL MARKET

Source : NewsCenter

- Advertisement -