KS Daily View 12.09.2022 > ตลาดหุ้นคาดแกว่งตัวขึ้น ช่วงนี้แนะนำลงทุนหุ้นเปิดเมือง/กลุ่มการเงิน ซึ่งมีปัจจัยหนุน ประเมิน SET วันนี้คาด 1645-1666 จุด หุ้นแนะนำ SAK
ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์
ต่างประเทศ : Fed Bullard สนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ย 75bps. ในการประชุมเดือน ก.ย. และกล่าวว่าตลาดประเมินเรื่องการคงดอกเบี้ยในระดับสูงของเฟดในปีหน้าต่ำไป โดยล่าสุด Fed funds futures ให้น้ำหนักขึ้นมาสูงอยู่ที่ 88% ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps. และ 12% ว่า Fed จะขึ้น 50bps.หนุนทั้ง US Bond Yields 2 ปี และ 10 ปีปรับขึ้นล่าสุดยู่ที่ 3.5% และ 3.31%ตามลำดับ โดย Sector ในดัชนี S&P500 ที่ปรับขึ้นแรงหลักๆ คือ Enegy+ 2.4%, IT+1.97% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Healthcare +0.83%DoD, Utilities +0.42%
ในประเทศ: SET Index วันศุกร์ปรับขึ้นต่อปิดที่ 1654.6 จุด โดยนักลงทุนกลุ่มที่ซื้อสุทธิหลักๆ คือ ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่ออีก 1.29 พันล้านบาท นับตั้งแต่ต้นเดือน(mtd) ขายสุทธิ 1.06 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ โดย Sector ที่หนุนดัชนีหลักๆคือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ DELTA, กลุ่มพลังงาน อาทิ PTT PTTEP GULF EA ส่วน Sector ที่กดดัชนีหลักๆคือกลุ่มค้าปลีก CPALL, MAKRO
ประเด็นที่ต้องติดตาม
ต่างประเทศ :
1.) ติดตาม 13 ก.ย.วันอังคารนี้ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. Bloomberg Consensus ล่าสุดคาด 8.0%YoY ชะลอลงจาก 8.5% ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลก และค่าเงิน USD แบ่งเป็น 1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขึ้น (ธนาคารใหญ่ และประกันชีวิต) 2) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ลง (Finance REITs และโรงไฟฟ้า) 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า (ส่งออก) และ 4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก USD อ่อนค่า (ผู้นำเข้า และบริษัทที่มีหนี้ USD ในสัดส่วนที่สูง)
2.) ติดตามทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรป ซึ่งล่าสุดราคาลดลง -6% DoD เมื่อคืนวันศุกร์มาอยู่ที่ 207 ยูโรต่อ MWh และ -26% จากระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนที่ 280 ยูโรต่อ MWh แต่ยังคงทรงตัวในระดับสูง (ปรับเพิ่มกว่า 3 เท่าจากต้นปี) หลังยุโรปเตรียมออกมาตรการกำหนดเพดานราคาก๊าซธรรมชาติที่ชาติในยุโรปนำเข้าจากรัสเซีย และลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในกลุ่มอียู โดยโรงแรมที่ทำธุรกิจในยุโรปได้แก่ MINT และ SHR ยังไม่ได้รับผลกระทบในปีนี้ เพราะได้ทำข้อตกลงค่าสาธารณูปโภคล่วงหน้าไว้ 1 ปี แต่จะเร่ิมเห็นผลกระทบในปี 2023 โดยต้นทุนสาธารณูปโภคในคิดเป็น 4% ของรายได้ของ MINT และ 7% โดยหุ้นเด่นในกลุ่มโรงแรม เราชื่นชอบโรงแรมในประเทศ หลักๆ คือ AWC, ERW
ในประเทศ :
1.) วันที่ 12 ก.ย.ติดตามกำหนดเปิดศูนย์ฯสิริกิติ์อย่างเป็นทางการ รองรับงานไมซ์และอีเวนต์ได้ 100% แต่ในส่วนพื้นที่รีเทล จะเปิดให้บริการได้บางส่วน 50% เมื่อถึงงานเอเปค 2022 เดือน พ.ย. เพิ่มเป็น 70-80% และในปีหน้าจะเปิดให้บริการพื้นที่รีเทลครบ 100% มองว่าจะเป็นปัจจัยหนุนจำนวนผู้โดยสาร MRT ของ BEM ที่มีสถานีบริเวณดังกล่าว รวมถึงโรงแรมที่เน้นธุรกิจ MICE อย่าง AWC
2.) ติดตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่คาดว่าจะค่อยๆดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี จากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และจากรายได้ภาคเกษตรที่ฟื้นตัว โดยโฆษกรัฐบาล เผย ม.ค.-ส.ค. 22 ไทยส่งออกข้าวแล้ว 4.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 53% YoY ทำให้แนวโน้มส่งออกข้าวไทยปีนี้ทะลุเป้า 7.5 ล้านตัน (+19% YoY) โดยมีปัจจัยสนับสนุน อาทิ ปริมาณน้ำฝนและน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูกทำให้มีผลผลิตมาก ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่อ่อนค่า การฟื้นตัวของตลาดอิรักต่อการส่งออกข้าวไทย นอกจากนี้กระทรวงการคลังอินเดียจะมีการจัดเก็บภาษีส่งออกข้าวเปลือกและข้าวกล้องที่ระดับ 20% ทำให้ราคาข้าวในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกครองส่วนแบ่งตลาด 37.5% ในส่วนของหนี้ครัวเรือน ณ สิ้น 2Q22 ตามรายงานของ ธปท. อยู่ที่ 89.2% ของ GDP ลดลงจาก 1Q22 ที่ 90.0% และระดับ NPL ของสินเชื่ออุปโภคบริโภคโดยรวมทรงตัวที่ 2.8% ประเมินหุ้นกลุ่ม Consumer finance
3.) ติดตามธุรกิจเดินหน้าระดมทุนออก “หุ้นกู้” รีไฟแนนซ์-ตุนสภาพคล่องรุกลงทุนรับเศรษฐกิจฟื้น เผย 8 เดือนแรก หุ้นกู้ออกใหม่กว่า 8.74 แสนล้านบาท (+20% YoY) จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น โดยแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค่อนข้างได้รับความนิยมสูง และเข้ามาช่วยสร้างตลาดในฝั่งรายย่อยได้เยอะมาก โดยปีนี้มียอดออกหุ้นกู้ผ่านเป๋าตังไปแล้วกว่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วงที่เหลือของปียังมียอดออกหุ้นกู้อีกกว่า 5-6 พันล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน KTB ครองมาร์เก็ตแชร์ในการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน 15% ของยอดขายหุ้นกู้ใหม่
ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1645-1666 จุด หุ้นแนะนำ SAK
Top pick :
SAK (ราคาทางพื้นฐาน 7.7 บาท)
1.) ได้ประโยชน์จากล่าสุด อินเดียเก็บภาษีส่งออกข้าวเปลือกและข้าวกล้องที่ระดับ 20% ทำให้ราคาข้าวในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกหนุน Farm income ในไทย บวกต่อ SAK ประกอบธุรกิจในกลุ่มเฉพาะที่เสนอสินเชื่อให้กับภาคการเกษตร
2.) เราคาดกำไรงวด 3Q22 ของ SAK จะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของสินเชื่อได้ 7-8% QoQ ในงวด 3Q22 และคาดกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 20%/26%/18% ในปี 2565-67 โดยคาดว่า PER จะลดลงอิงจาก มูลค่าหุ้นปัจจุบันที่ 20 เท่า/16 เท่า/14 เท่า ตามลำดับ
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ส.ค. ดัชนี Zew Economic Sentiment index ของเยอรมัน เดือน ก.ย. คาด -60 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -55.3 จุด) ใกล้จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 1992 ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +8.1% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +8.5% YoY) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +6.1% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +5.9% YoY)
วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษเดือน ส.ค. คาด +10.2% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +10.1% YoY) การประชุม BOE ถ้อยแถลงของ EC President Urusla von der Leyen รายงานภาวะตลาดน้ำมันของ IEA ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -0.1% MoM และ +8.9% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -0.8% MoM และ +9.8% YoY) และตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขส่งออก และนำเข้าของญี่ปุ่นเดือน ส.ค. คาด +23.6% YoY และ +46.7% YoY ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นเดือน ส.ค. คาด -2.4 ล้านล้านเยน (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -1.4 ล้านล้านเยน) ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0% MoM ตัวเลข Import price ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -1.2% MoM ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ คาด +225K และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.2% MoM
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ส.ค. คาด +4% YoY ตัวเลข Fixed Asset Investment ของจีนใน 8M22 คาด +5.6% YoY ตัวเลข Retail sales ของจีนเดือน ส.ค. คาด +4% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษ เดือน ส.ค. คาด -0.6% MoM และ -4.2% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 60 จุด (+3.1% MoM) และตัวเลข Michigan 5Y inflation expectation คาด 2.9%