ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อ ปัจจัยต่างประเทศดีขึ้น + ฟันด์โฟลว์เป็นบวกมากขึ้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ปรับขึ้นต่อ แต่น่าจะผันผวนแรงขึ้น…. หลังจากเมื่อวันศุกร์ ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่เราคาด ตามแรงซื้อหนักในหุ้น DELTA (+10.60% และในสัปดาห์ที่แล้วหุ้น DELTA* แรลลี่แรงถึง 30.98%) ผนวกกับหุ้นหลักของแต่ละกลุ่มได้แรงหนุนมากขึ้น จากฟันด์โฟลว์ที่พลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิ… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยภายนอกดูเป็นบวกมากขึ้น กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกค่อนข้างแรงเมื่อวันศุกร์ หลังจากดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนลง เนื่องจากตลาดการเงินได้รับรู้แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟดไปค่อนข้างมากแล้ว สะท้อนจากสัญญา Fed Fund Futures ซึ่งให้น้ำหนักถึง 90% ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม FOMC วันที่ 21 ก.ย. ii) ในฝั่งยุโรป ค่าเงินยูโรรีบาวด์แรง หลังจากผลการประชุม ECB เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ส่งสัญญาณชัดเจนว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งการฟื้นตัวของสกุลเงินยูโรจะส่งผลบวกทางอ้อมต่อค่าเงินเอเชียและค่าเงินบาทด้วย… สำหรับในสัปดาห์นี้ ปัจจัยเศรษฐกิจที่น่าจะมีความสำคัญ มากที่สุดต่อตลาดหุ้น ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ ส.ค. ที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ย. นี้ ขณะที่ประเด็นภายในประเทศไม่มีน้ำหนักต่อตลาดมากนัก ให้ติดตามการประชุมรอบถัดไปของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 ก.ย. ว่าจะมีการกำหนดวันตัดสินกรณีนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่ง 8 ปีหรือไม่

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร OR*, HMPRO*, SNNP

  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 27 บาท / แนวต้าน 28 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินแนวโน้มราคาฟื้นตัว มีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 29 – 30 บาท (Stop loss 26.25 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังดีต่อเนื่อง ทั้งจากการฟื้นตัวของค่าการตลาดน้ำมัน และปริมาณการเติมน้ำมัน (3Q65 แนวโน้มกำไรอาจชะลอลง QoQ เพราะฝนตก แต่คาดยังโตดี YoY และจะโตแกร่งใน 4Q65) 3) ประเมินการลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม + การท่องเที่ยว ที่คาดจะหนุนการเติบโตตามการเปิดประเทศใน 2H65 – 2566 และช่วยกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจปั๊มน้ำมัน 4) Forward PE ยังไม่แพง 19.8 เท่า ขณะที่คาดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม + การท่องเที่ยวที่มี PE โดยเฉลี่ยสูงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.2 – 14.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15 บาท (Trailing stop 13.6 บาท) 2) ผลจากการเปิดประเทศและการเร่งโอนโครงการอสังหาฯ ของผู้ประกอบการฯ ในปีนี้ คาดส่งผลบวกต่อยอดขายอุปกรณ์ซ่อมแซม ตกแต่งบ้านของ HMPRO* โดยคาดจะเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) พลิกเป็นบวกได้ใน 2H65 (2Q65 SSSG ยัง -1.1%) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE 29 เท่า (-0.75 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้กลับสู่ระดับ +6 พันล้านบาท ก่อนวิกฤติโควิด-19 และปีหน้าคาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 17 บาท / แนวต้าน 17.5 – 18.0 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 16.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 จะโตเด่น HoH จาก i) ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มปรับลดลง ขณะที่ SNNP ได้ทำการปรับ Packaging เพื่อรับมือกับต้นทุนวัตถุดิบไปแล้วใน 2H65 คาดอัตรากำไรดีขึ้น ii) การเปิดการท่องเที่ยว เปิดโรงเรียน คาดเป็นบวกต่อยอดขายขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่ม iii) โรงงานใหม่ที่เวียดนามเตรียมเริ่มทำผลิตใน 4Q65 3) คาดสินค้าอุปโภค-บริโภครับ Sentiment บวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ เช่น โครงการคนละครึ่ง การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เป็นต้น 4) Forward PE ปีหน้า +/- 27 เท่า ลดลงจากปีนี้ที่ +/- 34 เท่า คาดมีโอกาสที่ Consensus จะปรับประมาณการฯ ขึ้น หลังกำไร 1H65 คิดเป็นราว 45% ของกำไรที่คาดทั้งปี

หุ้นมีข่าว

(+) GULF* รุกไฟฟ้ามะกัน 1,200 MW รอบุ๊กกำไร 1.5-3.5 พันล้านปี พร้อมเล็งหาโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าอื่นเพิ่ม (ข่าวหุ้น) GULF* รุกคืบขยายลงทุนในสหรัฐฯ ล่าสุดอัดเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ซื้อหุ้น 49% โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson กำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ คาดเข้าถือหุ้นอย่างเป็นทางการธ.ค.นี้ ทยอยบุ๊กกำไรทันทีปีละ 1.5-3.5 พันล้านบาท พร้อมเล็งหาโอกาสเข้าไปพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าอื่นเพิ่ม

(+) BEM มีลุ้นแตะ 5 แสนคน ศูนย์สิริกิติ์คิกออฟวันนี้ (ทันหุ้น) “ดร.สมบัติ” ชู BEM กำลังรุ่ง ชี้ศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ดัน MRT ทะยาน เหตุเป็นแลนด์มาร์คจัดอีเวนต์ใหญ่ แย้มปัจจุบันผู้โดยสารแตะ 4 แสนรายบางวันแล้ว มีลุ้นปีหน้าแตะ 4.5-5 แสนราย รถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพูช่วยหนุน ชูบริษัทมีแหล่งรายได้พรึ่บ มั่นคง และพร้อมคว้างานเติบโตอีก เตรียมเข้าเจรจาสายสีส้มหลังเสนอราคาต่ำสุด ลั่นจะทำให้ดีกว่าคาด

(+) EKH เปิดตัว ‘รพ.คูน เจาะผู้สูงอายุ ประเมินงบครึ่งหลังเด้งรับไฮซีซั่น ดันรายได้ปีนี้โต 15% (ข่าวหุ้น) EKH เปิดตัว “โรงพยาบาลคูน” โรงพยาบาลเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ ขนาดบริการ 30 เตียง มูลค่าลงทุน 160 ล้านบาท คาดหวังสร้างรายได้ 7-8 ล้านบาท/เดือน และคืนทุนใน 6-7 ปี ขณะที่ผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก เหตุเข้าไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาลผู้ป่วยตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น มั่นใจดันรายได้ปีนี้เข้าเป้าโต 15% นอกจากนี้เตรียมลงธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพร่วมกับพันธมิตร 3-4 ดีล

(+) OR* ปิดดีลร่วมลงทุน DUSIT ต่อยอดธุรกิจอาหารเต็มสูบ (ทันหุ้น) OR* ปิดดีลบริษัทย่อยถือหุ้น 25% ใน “ดุสิต ฟูดส์” หลังชำระเงิน-รับโอนหุ้นแล้ว สร้างความแข็งแกร่งและการเติบโตของธุรกิจอาหาร เต็มสูบ

(+) KSL กำไร 9 เดือน 1.2 พันล.โต 171% อานิสงส์ปริมาณการขายน้ำตาล-ราคาส่งออกพุ่ง (ข่าวหุ้น) “น้ำตาลขอนแก่น” โชว์ผลงาน 9 เดือนแรก (1 พ.ย. 64-31 ก.ค. 65) มีกำไรสุทธิ 1,266 ล้านบาท โต 171% จากปีก่อน หลังงวดไตรมาส 3/65 (1 พ.ค.-31 ก.ค. 65) กำไรสุทธิ 518 ล้านบาท พุ่ง 825% จากปริมาณการขายน้ำตาลเพิ่มขึ้นและราคาขายส่งออกปรับตัวสูงขึ้น พร้อมจ่ายปันผลหุ้นละ 0.03 บาท ขึ้น XD วันที่ 22 ก.ย.นี้

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร COM7* (Trailing stop 33.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 32 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 29.75 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 6.6 บาท / แนวต้าน 7.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 6.5 บาท)
  • PLANB (เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท) แนวรับ 7.0 บาท / แนวต้าน 7.3 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 6.9 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.2 บาท / แนวต้าน 15.6 – 15.9 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.9 บาท)
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 9.85 บาท / แนวต้าน 10.2 – 10.5 บาท (Stop loss 9.7 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนวรับ 3.54 บาท / แนวต้าน 3.68 – 3.8 บาท (Trailing stop 3.48 บาท)
  • MEGA* (เป้า Consensus 59.5 บาท) แนวรับ 50.5 บาท / แนวต้าน 52 – 53 บาท (Stop loss 49 บาท)
  • SCB (เป้าพื้นฐาน 150 บาท) แนวรับ 110 บาท / แนวต้าน 115 – 117 บาท (Stop loss 108 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 42 – 43 บาท (Stop loss 39.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • GULF แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 60 บาท รายงานการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สหรัฐฯ โดยคาดการซื้อขายจะแล้วเสร็จในเดือน ธ.ค. นี้ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการขึ้นสะท้อนประเด็นนี้ โดยคาดอัตราการเติบโตของกำไร 2 ปีข้างหน้า (2565 – 67) จะโตเฉลี่ย +28% CAGR ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 60 บาท (เดิม 57 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • AMA แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 7.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 3Q65 = 129 ล้านบาท (+163% YoY, +81% QoQ) ทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจขนส่งทางเรือ และอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดจะฟื้นตัว ขณะที่คาดการขนส่งทางบกจะเริ่มฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯ ขึ้นและปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.6 บาท (เดิม 5.5 บาท) คงคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -