KS Daily View 13.09.2022 > ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ กลยุทธ์ยังเน้นหุ้นธีมเปิดเมือง/ธีม Farm Income สูง/หุ้นราคาอยู่ในโซนล่าง SET วันนี้ 1650-1675 จุด หุ้นแนะนำ DCC, SCB

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์

ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones 0.71%DoD, ดัชนี S&P500 1.06%DoD, ดัชนี Nasdaq 1.27%DoD โดย Sector ในดัชนี S&P500 ที่ปรับขึ้นแรงหลักๆ คือ Enegy+ 1.8%, IT+1.63% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มHealth care +0.64%, Consumer staples+0.4%

ในประเทศ: SET Index เป็นขาขึ้นในระยะสั้นเมื่อวานปิดที่ 1665.7 จุด โดยนักลงทุนกลุ่มที่ซื้อสุทธิหลักๆ คือ ต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 2.06  พันล้านบาท, กองทุนซื้อสุทธิ 1.66  พันล้านบาท โดย Sector ที่หนุนดัชนีหลักๆ คือกลุ่มพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP  กลุ่มการเงิน อาทิ SAWAD, TIDLOR  กลุ่มเปิดเมือง อาทิ CPN AWC ส่วน Sector ที่กดดัชนีหลักๆคือกลุ่ม ICT อาทิ ADVANC, INTUCH, JASIF

ประเด็นที่ต้องติดตาม

KS ประเมินสัปดาห์นี้ปัจจัยต่างประเทศจะมีน้ำหนักต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย ส่วนประเด็นในประเทศจะมีผลต่อ Sector   โดยต่างประเทศ Key สำคัญ คือ

1.) คืนนี้ 1 ทุ่มครึ่ง รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. Bloomberg Consensus ล่าสุดคาด 8.0%YoY  ชะลอลงจาก  8.5%  และช่วงที่เหลือของสัปดาห์รอดูตัวเลข  PPI และ Retail sales ฯลฯ ของเดือน ส.ค. Consensus คาดตัวเลขชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม KS ประเมินว่าแม้หากตัวเลขจะออกมาสูงกว่าคาด แต่จะไม่ทำให้ตลาดปรับโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่า  75bps. ในการประชุม Fed  รอบ ก.ย. (ล่าสุด Fed funds futures ให้น้ำหนักสูงที่  91% ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps. และ 9%ขึ้น 50bps.)  แต่หากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำคาดจะหนุนตลาดหุ้น Rebound  และจะเป็นตัวกำหนดทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลก และค่าเงิน USD แบ่งเป็น 1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขึ้น(ธนาคารใหญ่ และประกันชีวิต) 2) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ลง (Finance REITs และโรงไฟฟ้า) 3) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก USD แข็งค่า (ส่งออก) และ 4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก USD อ่อนค่า (ผู้นำเข้า และบริษัทที่มีหนี้ USD ในสัดส่วนที่สูง)

2.) ติดตามสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครน ล่าสุดกองกำลังยูเครนได้ตีโต้รัสเซียอย่างหนักทำให้รัสเซียถอนทหารออกจากพื้นที่ในแคว้นคาร์คิฟ ซึ่งต้องติดตามการโต้กลับของรัสเซียที่อาจทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น

ในประเทศ

1.) วันนี้ติดตามประชุมอนุบอร์ดส่งเสริม EV เตรียมออกมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตแบตเตอรี่ EV โควตา 1GW คาดให้วงเงินช่วยเหลือสูงสุด 600 ล้านบาท ประเมินเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ EA, GPSC ,KCE

2.) สถานการณ์ฝนตกและทำให้เกิดน้ำท่วม ในต่างจังหวัดและใน กทม. ในเดือน  ก.ย. KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อ CKP รวมถึงรัฐมีการออกมาตรการงบเพื่อซ่อมแซมถนนม บ้าน หลังบางพื้นเผชิญน้ำท่วม KS มองเป้น Sentient เชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อาทิ DOHOME, HMPRO และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อาทิ TASCO, DCC

กลยุทธ์การลงทุน :  ตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นมาในรอบนี้  เราแนะนำให้สลับกลุ่มลงทุน โดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนราคา อาทิ ธีมเปิดเมือง ,น้ำท่วม, ราคาสินค้าเกษตรสูงหนุน Farm Income  และราคาหุ้นอยู่ในโซนล่าง แนะนำคือ กลุ่มการเงิน อาทิ SINGER, SAK,SAWAD กลุ่มเปิดเมือง AWC, EKH,  กลุ่ม Tech Consult  อาทิ BE8  หุ้นที่ราคาอยูโซนล่าง อาทิ DCC,SCB

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1650-1675 จุด หุ้นแนะนำ DCC, SCB

Top pick :    

DCC (ราคาทางพื้นฐาน  3.3 บาท)

1.) Sentiment บวกจากคาดการณ์หลังน้ำท่วมจะเห็นการซื้อสินค้ากลับมาซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ

2.) เราคาดกำไรจะฟื้นตัวชัดเจนในงวด 4Q65 เป็นต้นไป ส่วนงวด 3Q65 เริ่มเห็นแรงกดดันจากต้นทุนพลังงาน และต้นทุนวัตถุดิบจะลดลง ทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ

3.) บริษัทฯมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจที่ราว 6.5%

SCB (ราคาทางพื้นฐาน  152.0  บาท)

1.) ประเมิน Fund Flow จากต่างชาติยังมีแนวโน้มเข้าไทยต่อจากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มองกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้ประโยชน์เนื่องจากสัดส่วนการถือครองในกลุ่มธนาคารยังต่ำมากเทียบกับค่าเฉลี่ย และกลุ่มอื่นๆ  เช่นเดียวกับ SCB  การถือครองต่างชาติเพียง 18% เทียบกับช่วงต้นปีอย่ที่ราว 20%

2.) กนง.มีโอกาสจะขึ้นดอกเบี้ย 25bps ในการประชุม วันที่ 28 ก.ย. หรือ รอบปลายปี ประเมินเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์คาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทุก 25bps จะหนุนกำไรสุทธิของธนาคารใหญ่เพิ่มขึ้น 6-8% และจะเป็น upsides ต่อกำไรปี 2023 ของธนาคาร SCB +7%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ส.ค. ดัชนี Zew Economic Sentiment index ของเยอรมัน เดือน ก.ย. คาด -60 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -55.3 จุด) ใกล้จุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลในปี 1992 ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +8.1% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +8.5% YoY) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +6.1% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +5.9% YoY)
  • วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษเดือน ส.ค. คาด +10.2% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +10.1% YoY) การประชุม BOE ถ้อยแถลงของ EC President Urusla von der Leyen รายงานภาวะตลาดน้ำมันของ IEA ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -0.1% MoM และ +8.9% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -0.8% MoM และ +9.8% YoY) และตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขส่งออก และนำเข้าของญี่ปุ่นเดือน ส.ค. คาด +23.6% YoY และ +46.7% YoY ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นเดือน ส.ค. คาด -2.4 ล้านล้านเยน (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -1.4 ล้านล้านเยน) ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0% MoM ตัวเลข Import price ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด -1.2% MoM ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ คาด +225K และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด +0.2% MoM
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ส.ค. คาด +4% YoY ตัวเลข Fixed Asset Investment ของจีนใน 8M22 คาด +5.6% YoY ตัวเลข Retail sales ของจีนเดือน ส.ค. คาด +4% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษ เดือน ส.ค. คาด -0.6% MoM และ -4.2% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 60 จุด (+3.1% MoM) และตัวเลข Michigan 5Y inflation expectation คาด 2.9%
- Advertisement -