ทยอยลดพอร์ทหาก SET ปรับตัวขึ้น // ตลาดคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,665.74 จุด เพิ่มขึ้น 11.12 จุด (+0.67%) มูลค่าการซื้อขาย 62,508.10 ล้านบาท จากการคลายความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แม้ครั้งนี้คาดว่าจะปรับขึ้น 0.75% แต่ครั้งถัดๆ ไปน่าจะปรับขึ้นในอัตราที่ชะลอลง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้มีการโยกเงินเข้ามาลงทุนในหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์มากยิ่งขึ้น
แนวโน้มตลาดวันนี้… คาดปรับตัวขึ้น sideway up ตามภูมิภาค โดยตลาดยังคงให้ความสนใจกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แม้คาดการณ์ CPI สหรัฐฯในเดือนส.ค.จะขยายตัว 8.1% YoY แต่น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ขยายตัวกว่า 8.5% YoY ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวยังห่างไกลจากเป้าหมาย จึงมีแนวโน้มที่เฟดจะยังคงนโยบายในเชิง Hawkish ต่อ จึงทำให้นักลงทุนกังวลถึงภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่อาจตามมา แต่ทั้งนี้ตลาดกลับมีมุมมองที่เป็นบวก เนื่องจากการคาดการณ์เงินเฟ้อที่จะชะลอตัวลงในอนาคต ด้านกนง.ไทย จำเป็นจะต้องรักษาเสถียรภาพของ อัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มอิงทางขึ้นด้วยเช่นกัน จึงเป็นประโยชน์กับหุ้นในกลุ่มธนาคาร เช่น KBANK BBL TLI BLA รวมถึงค่าเงินบาทที่เริ่มชะลอตัวการอ่อนค่าหนุน fund flow ไหลเข้าต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ ติดตามการประชุมครม.ที่คาดว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะมีการพิจารณาโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว วงเงิน 86,740 ล้านบาท, ก.แรงงานจะเสนอขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% ช่วยให้กำลังซื้อของผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น เป็นบวกต่อกลุ่ม Finance เราชอบ AMANAH MTC และกลุ่มโรงพยาบาลเขต ชานเมือง CHG EKH PRINC นอกจากนี้ ก.พลังงานจะเสนอต่ออายุลดภาษี ดีเซล-ให้ส่วนลดค่าไฟ รวมถึงเตรียมพร้อมที่จะออกประกาศรับซื้อไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนตามแผน PDP ฉบับใหม่ (คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง ก.ย.-ธ.ค. 65 นี้) จะเป็นบวกต่อ GUNKUL TGE TPCH ขณะที่จะมีประชุมของอนุบอร์ดส่งเสริมอีวี เตรียมเสนอมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตแบตอีวี โควตา 1 GW ให้วงเงินช่วยเหลือสูงสุด 600 ล้านบาท เป็นบวกต่อ EA GPSC WHA DELTA
ในเชิงกลยุทธ์เรามองว่าหากดัชนีปรับตัวขึ้น มองเป็นโอกาสที่จะทยอยลดพอร์ทขายทำกำไร จากความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อในประเทศที่ยังทรงตัวสูง, แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง., Valuation ปัจจุบันของ SET ที่เริ่มแพง (PE ปัจจุบันสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) และปัจจัยทางการเมือง แนะนำ Trading ในกรอบ 1660-1673
ติดตาม CPI ส.ค. สหรัฐ (13 ก.ย.), PPI ส.ค. สหรัฐ (14 ก.ย.) และ CPI ส.ค. EU (16 ก.ย.) ปัจจัยในประเทศ ศาลรธน.วินิจฉัยปมวาระ 8 ปีของ พล.อ. ประยุทธ์ (14 ก.ย.)
เคาะไป คุยไป KBANK
Investment Highlights
- KBANK ปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นในกลุ่มธนาคาร รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และเป็นอีก 1 หุ้น Big cap. คาดว่า fund flow จากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาสะสม ทั้งนี้เรา เลือกเป็น Top pick ของกลุ่มธนาคาร โดดเด่นด้วยผลประกอบการที่เติบโตสูงกว่าระดับ Pre-COVID และสอดรับกับกระแส digital banking ในเชิง Valuation ราคาซื้อขายยังต่ำกว่า Book value เหมาะแก่การลงทุนแบบ DCA ด้าน IAA Consensus ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 179.80 บาท
- ในเชิงกลยุทธ์ หลังเริ่มเห็นแรงขายสุทธิจาก NDVR ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซื้อสุทธิได้ หลังค่าเงินบาทชะลอการอ่อนค่า และนลท.ต่างชาติกับมาซื้อสุทธิครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการที่ผ่านมา เป็นโมเมนตัมบวก ที่อาจเห็นแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ
- โมเมนตัมผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปียังคงเติบโต โดยยังคงเป้าสินเชื่อขยายตัว 6-8% นำโดยกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่จะเห็นการเติบโตสูงถึง 9-11% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี เติบโต 4-6% สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ เติบโต 1-3% ส่วนเป้า credit cost อยู่ที่ 160 bps (ปี 64 อยู่ที่ 173 bps) และ NPLs ratio อยู่ที่ 3.7 4.0% (ปี 64 อยู่ที่ 3.76%) นอกจากนี้เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้นมาต่อเนื่องหลังจากโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลบวกต่อความต้องการสินเชื่อรวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นผลบวกต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร
Investment Strategy
Source : Aspen
แนะนำ “เคาะ” ระยะสั้นแท่งเทียนเรียงตัวสร้างแนวรับจุดต่ำแท่งเทียนคู่ 147.00 และแกว่งตัวขึ้นทำ Lower Up ขึ้นต่อเนื่อง ระหว่างวันยืนเหนือ SMA5 วันที่ 150 มั่นคงแนวโน้มแกว่งตัวขึ้นรูปแบบ V-Shape แนวต้านจุดทดสอบ 153.50/156.50 และ 158.50 ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำขาขึ้นทดสอบ
คําแนะนําของ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือ เพิ่มการลงทุน/แนวต้าน 153.50/156.50 มีโอกาสทดสอบ
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 150/148 ไม่ควรต่ำกว่า
กระแสข่าวหุ้น
ประเด็น
AIS จ่ายล่วงหน้า 3 พันล. ดับกังวลผู้ถือหน่วย JASIF 3 ปีดันยีลด์ 8%
CFO แอดวานซ์ฯ ยันต้นทุนจะลดลง ADVANC อยากซื้อ JASIF ปรับเงื่อนไขใหม่ยอมจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 พันล้านบาท ด้าน “ธีร์ สีอัมพรโรจน์” CFO แอดวานซ์ฯ มั่นใจช่วยให้กองทุนฯ แกร่งขึ้น ต้นทุนลดต่ำลงแน่นอน บลจ.บัวหลวง แจ้งเลื่อนประชุมผู้ถือหน่วยเป็น 18 ต.ค.นี้ โบรกฯ ชี้ค่าเช่าล่วงหน้าช่วยเพิ่มเงินปันผลใน 3 ปีแรก เป็น 1,085 บาทต่อหน่วย ยีลด์ 7-8% จากเดิม 0.96 บาท ยีลด์ 6-7% ซื้อใจผู้ถือหน่วยโหวตผ่านทุกวาระ และยังมีลุ้น IFA เปลี่ยนคำแนะนำให้อนุมัติดีลนี้ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ เคาะราคาเป้าหมาย 9.3-9.5 บาทต่อหน่วย
ONEE ธุรกิจสื่อฟื้น ครึ่งหลังโต ส่งคอนเทนต์บุกทุกช่องทาง ลั่น Q3 กำไรพุ่ง
ONEE ลั่นครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก รับธุรกิจสื่อฟื้น! หนุนรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อน เตรียมคอนเทนต์ ทั้งละคร ซีรีส์รายการ ภาพยนตร์ในทุกช่องทาง ส่งซิกไตรมาส 3/65 รายได้และกำไรเติบโต โชว์เรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ ครองอันดับ 2 ชูละครได้รับความนิยมสูง เล็งปิดดีลพันธมิตร OTT ฝั่งสหรัฐฯ เพิ่มเคาะปลายปีนี้ หรือช้าสุดต้นปีหน้า
AMR ควักเงิน 50 ล้าน ซื้อหุ้นคืน 10 ล้านหุ้น 20 ก.ย.65-17 มี.ค.นี้
บอร์ด AMR ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 10 ล้านหุ้น เริ่มวันที่ 20 ก.ย. 65-17 มี.ค. 66 เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสัดส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หนุนราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น
SNNP ปรับโฉมใหม่ ‘เจเล่บิวตี้” รอบ 5 ปี ชูเยลลี่พร้อมดื่มโต
SNNP ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เยลลี่พร้อมดื่ม ล่าสุด “เจเล่” ปรับภาพลักษณ์กลุ่มสินค้าเยลลี่ “เจเล่บิวตี้” ครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปี ชูภาพลักษณ์ดีไซน์ใหม่เน้นความทันสมัย ตลาดเยลลี่พร้อมดื่มมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตรียมออกสินค้าใหม่ๆ มั่นใจหนุนยอดขายปีนี้โต
WINMED ผลงานครึ่งหลังโตเด่น รับไตรมาส 3 เข้าไฮซีซั่น หนุนรายได้ปีนี้ พุ่ง 55%
WINMED ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังเด่น รับไฮซีซั่นในไตรมาส 3 เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แบรนด์ “AVA” ชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยตนเอง หนุนทั้งปีรายได้โต 55% เข้าเป้า 835 ล้านบาท
NSL การันตียอดขายปีนี้ 3.9 พันล้าน เตรียมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมแบรนด์ ‘ข้าวแท่ง’
NSL มั่นใจยอดขายปีนี้พุ่ง 3,900 ล้านบาท จากการเติบโตของสินค้ากลุ่ม READY TO EAT เตรียมเปิดตัวสินค้านวัตกรรมภายใต้แบรนด์ “ข้าวแท่ง” ต.ค.นี้ เล็งเปิดร้านข้าวแท่ง RICE STYLE BY NSL สาขาแรกที่ สยามสแควร์วันช่วงต้นปี 66 พร้อมเจาะตลาดฮาลาล เดินหน้าพัฒนาสินค้าป้อนร้าน 7-Eleven สาขากัมพูชา
MC ตั้งเป้ายอดขายโต 10-20% เพิ่มสัดส่วนออนไลน์-ขยายสาขา
นายปิยะ โอฬารริกสุภัค ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบัญชีและการเงิน บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC กล่าวว่า งบบัญชีปี 2565/2566 (1 ก.ค. 2565-30 มิ.ย. 2566) บริษัทจะมียอดขายเติบโต 2 หลัก หรือประมาณ 10-20% จากงวดปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม 600 จุด หลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น รวมถึงการขยายสาขาใหม่ MC Outlet จำนวน 72 จุด ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี
XD Events
Source : SETSMART
GLOBAL MARKET
Source : NewsCenter