ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งขึ้นต่อ ปัจจัยภายนอกยังคงหนุนฟันด์โฟลว์

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร แกว่งขึ้นต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น (ตามคาด) หนุนโดยมุมมองเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว + เงินดอลล่าร์ฯ อ่อนค่าค่อนข้างแรง ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งเอเชีย… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นบวก กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ บวกต่อเมื่อคืนนี้ หลังจากตัวเลขสำรวจแนวโน้มเงินเฟ้อ 1 ปีข้างหน้าใน สหรัฐฯ ลดลงจาก 6.2% ในเดือน ก.ค. สู่ 5.7% ในเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ฯ อ่อนลงอีกเมื่อคืน ii) ตลาดการเงินรับรู้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 21 ก.ย. ไปเกือบหมดแล้ว อิงสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ซึ่งให้น้ำหนักถึง 92% ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.25%… ขณะที่ในคืนวันนี้ สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขสำคัญได้แก่เงินเฟ้อผู้บริโภค ส.ค. ซึ่ง consensus คาดว่าราคาน้ำมันที่ลดลงจะส่งผลให้เงินเฟ้อ -0.1% MoM และ +8.1% YoY (+ 8.5% YoY ในเดือน ก.ค.)… ด้านปัจจัยภายในประเทศ การประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ในวันนี้ จะมีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย/แรงงานใน 2 มิติ ได้แก่ การพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-7% และมาตรการช่วยเหลือเรื่องค่าไฟให้กับกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้หุ้นที่เชื่อมโยงกับกำลังซื้อระดับกลาง-ล่าง น่าจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากประเด็นข่าวดังกล่าว

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร BEC*, OR*, HMPRO*

  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 15.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.8 บาท / แนวต้าน 14.2 – 14.6 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15 บาท (Stop loss 13.3 บาท) 2 ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 โต HoH จาก i) คาดอัตรา Utilization rate ที่คาดจะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการปรับผังรายการออกอากาศรายการละครและวาไรตี้โชว์ใหม่ๆ ii) ธุรกิจ Global Content Licensing (ขาย Content ละคร) ที่เตรียมการฉายแบบคู่ขนานที่ประเทศจีน 3 เรื่อง + ละครที่เตรียมออกอากาศผ่านช่องทาง Netflix และ Platform อื่นๆ 3) Valuation ยังไม่แพง PBV 4.65 เท่า คิดเป็นราว 40.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ขณะที่ คาด EPS โต +20% ต่อปี (CAGR 2564 – 66) คาดกำไรกลับไป >1 พันล้านบาทในปี 2566
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 27 บาท / แนวต้าน 28 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินแนวโน้มราคาฟื้นตัว มีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 29 – 30 บาท (Stop loss 26.25 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังดีต่อเนื่อง ทั้งจากการฟื้นตัวของค่าการตลาดน้ำมัน และปริมาณการเติมน้ำมัน (3Q65 แนวโน้มกำไรอาจชะลอลง QoQ เพราะฝนตก แต่คาดยังโตดี YoY / และจะโตแกร่งใน 4Q65) 3) ประเมินการลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม + การท่องเที่ยว ที่คาดจะหนุนการเติบโตตามการเปิดประเทศใน 2H65 – 2566 และช่วยกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจปั๊มน้ำมัน 4) Forward PE ยังไม่แพง 19.8 เท่า ขณะที่คาดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม + การท่องเที่ยวที่มี PE โดยเฉลี่ยสูงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
  • HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.1 บาท / แนวต้าน 14.5 บาท (ค่าเฉลี่ย 200 วัน EMA) กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 15 บาท (Trailing stop 13.7 บาท) 2) ผลจากการเปิดประเทศและการเร่งโอนโครงการอสังหาฯ ของผู้ประกอบการฯ ในปีนี้ คาดส่งผลบวกต่อยอดขายอุปกรณ์ซ่อมแซม/ตกแต่งบ้านของ HMPRO* โดยคาดจะเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth: SSSG) พลิกเป็นบวกได้ใน 2H65 (2Q65 SSSG ยัง -1.1%) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE 30 เท่า (-0.75 เท่า ของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้กลับสู่ระดับ +6 พันล้านบาท ก่อนวิกฤติโควิด-19 และปีหน้าคาดกำไรทำจุดสูงสุดใหม่

หุ้นมีข่าว

(+) ONEE ธุรกิจสื่อฟื้น ครึ่งหลังโต ส่งคอนเทนต์บุกทุกช่องทาง ลั่น Q3 กำไรพุ่ง (ข่าวหุ้น) QNEE ลั่นครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก รับธุรกิจสื่อฟื้น! หนุนรายได้ปีนี้โตกว่าปีก่อน เตรียมคอนเทนต์ ทั้งละคร ซีรีส์ รายการ ภาพยนตร์ในทุกช่องทาง ส่งซิกไตรมาส 3/65 รายได้และกำไรเติบโต โชว์เรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ ครองอันดับ 2 ชูละครได้รับความนิยมสูง เล็งปิดดีลพันธมิตร OTT ฝั่งสหรัฐฯ เพิ่มเคาะปลายปีนี้ หรือช้าสุดต้นปีหน้า

(+) BA ขยายเส้นทางบินไฮซีซัน สมุย คึกยอดจอง 4.7 แสนที่นั่ง (กรุงเทพธุรกิจ) เล็งเปิดบินจีนเพิ่ม “เฉิงตู, ฉงชิ่ง” “บางกอกแอร์เวย์ส” ชี้ดีมานด์เที่ยว “สมุย” คึกคัก ดันเส้นทางบินเข้าออกเพิ่มขึ้นอีกกว่า 6,000 เที่ยวบิน ยอดจองตั๋วบินล่วงหน้าถึงสิ้นปี 65 พุ่ง 179% รวม 4.7 แสนที่นั่ง กางแผนรีเทิร์นเปิดเส้นทางบินไฮซีซัน เชื่อมสมุยสู่ กระบี่ และฮ่องกง พร้อมเล็งเปิดบินสู่ “จีน” เพิ่มทั้ง เฉิงตู ฉงชิ่ง ในอนาคต

(+) AMR ควักเงิน 50 ล้าน ซื้อหุ้นคืน 10 ล้านหุ้น 20 ก.ย.65 – 17 มี.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) บอร์ด AMR ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 10 ล้านหุ้น เริ่มวันที่ 20 ก.ย. 65-17 มี.ค. 66 เพื่อบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่น เพิ่มสัดส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น หนุนราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น

(+) NSL ดีมานด์พุ่งกัน Q3 เด้ง เปิดตัวสินค้าใหม่ปั๊มยอด (ทันหุ้น) NSL โว Q3/2565 ฟอร์มแจ่มกว่าช่วง เดียวกันปีก่อน อานิสงส์ดีมานด์ทะลัก พร้อมตอกย้ำปี 2565 รายได้ตามฝันราว 3.9 พันล้านบาท รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว แถมลุยคลอดโปรดักต์ข้าวแท่ง พ่วงขายแฟรนไชส์ เปิดช่องรับทรัพย์เพิ่ม คาดชัดเจนปลายปีนี้ แถมส้มหล่นรับเซเว่นบุกกัมพูชาหนุนออเดอร์พุ่ง

(+) บอร์ด B ไฟเขียวฮุบ ‘เอช-ดู 100% ลุยธุรกิจบริหารสินทรัพย์ไตรมาส 4 นี้ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บอร์ด “บีจิสติกส์” ส่ง “บียอนด์” บริษัทย่อย ทำรายการซื้อหุ้นบริษัทบริหารสินทรัพย์ เอช-ดู 100% เตรียมลุยธุรกิจ AMC ไตรมาส 4 ปีนี้ ชี้เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง สร้างความมั่นคงในระยะยาว พร้อมมีมติขายหุ้น “อีโคลด์” บริษัทร่วมทุนออกทั้งหมด 40%

(+) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) เปิดเผยว่า การจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ได้เปลี่ยนแปลงเป็นวันที่ 18 ตุลาคม 2565 (จากเดิม 23 กันยายน 2565) ทั้งนี้ TTTBB เสนอจ่าย ค่าเช่าล่วงหน้าให้กับ JASIF จำนวน 3 พันล้านบาทในสัญญาที่จะมีการแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ ADVANC (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เรามองข่าวดังกล่าวเป็นบวกเล็กน้อยต่อผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จะทำให้อัตราผลตอบแทนในรูป dividend yield มีโอกาสปรับตัวขึ้นเป็น 7%-8% ต่อปี (จาก 6%-7% ต่อปีตามข้อเสนอก่อนหน้านี้) เราเชื่อว่า ADVANC แสดงความจำนงที่ชัดเจนในการเข้าถือ JASIF โดยเสนอเงื่อนไขส่วนเพิ่มให้กับ JASIF ซึ่งจะสะท้อนออกมาใน dividend yield ที่สูงกว่าเดิม ทำให้โอกาสการได้รับอนุมัติจากการประชุมมีมากขึ้น

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร COM7* (Trailing stop 33.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 30 บาท / แนวต้าน 32 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 29.75 บาท)
  • TFG (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 6.65 บาท / แนวต้าน 7.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 6.5 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท) แนวรับ 7.15 บาท / แนวต้าน 7.35 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run (Trailing stop 6.95 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.1 บาท / แนวต้าน 15.6 – 15.9 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.9 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 17.5 บาท / แนวต้าน 18.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 17.0 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนวรับ 3.56 บาท / แนวต้าน 3.66 – 3.8 บาท (Trailing stop 3.5 บาท)
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 9.9 บาท / แนวต้าน 10.2 – 10.6 บาท (Stop loss 9.8 บาท)
  • MEGA* (เป้า Consensus 59.5 บาท) แนวรับ 50.5 บาท / แนวต้าน 52 – 53 บาท (Stop loss 49.5 บาท)
  • SCB (เป้าพื้นฐาน 150 บาท) แนวรับ 110 บาท / แนวต้าน 114 – 116 บาท (Stop loss 108 บาท)
  • CRC* (เป้า Consensus 43.2 บาท) แนวรับ 40 บาท / แนวต้าน 42 – 43 บาท (Stop loss 39.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • SCGP แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 65 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มกลับมาเติบโตแบบ YoY ตั้งแต่ปี 2566 ทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค การเติบโตของธุรกิจ E-commerce นอกจากนี้ยังมี Upside จากการ M&A Initiate coverage ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -