คืนนี้ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าจะใกล้เคียงตลาดคาด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปรับตัวขึ้น 0.7% หลักๆ นักลงทุนยังมองบวกกับเงินเฟ้อที่จะลดลง MoM ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารกลางสหรัฐฯลดแรงกดดันในการปรับขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวกต่ออีกราว 1.3% ขานรับมุมมองต่อภาวะอุปทานขาดแคลนตามมาตรการคว่ำาบาตรของ EU ต่อรัสเซีย

Market Outlook

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1657 – 1670 คาดจะพักฐานบ้าง หลังวานนี้ปรับขึ้นมาร้อนแรง 0.67% รับการผ่อนคลายเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ประเมินว่านักลงทุนจะ Wait & See เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะประกาศคืนนี้ตามเวลาไทย เบื้องต้น Bloomberg Consensus คาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐฯ ประจำเดือน ส.ค. จะขยายตัว 8.1%YoY และ -0.1%MoM และเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 6.1%YoY, 0.3%MoM ทั้งนี้หากพิจารณาสินค้าโภคภัณฑ์ผ่าน Bloomberg Commodity Index (BCOM) จะพบว่าในเดือน ส.ค. ลดลง 0.2%MoM ก็ถือว่าใกล้เคียงกับเงินเฟ้อทั่วไปที่ตลาดมองว่าจะลดลง 0.1 %MoM ดังนั้นทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯในคืนนี้คาดว่าจะออกมาใกล้เคียงกับตลาดคาดการณ์หรือต่ำกว่าคาด หนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เริ่มลดลงมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่า Bloomberg Commodity ปรับขึ้นมาอีกครั้งหากยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ก็มองว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ หรือแม้กระทั่งเงินเฟ้อโลกจะลดลงได้ยากหรือทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง เมื่อเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยจะยังเร่งขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด CME FED WATCH ยังคาดการณ์ว่าที่ประชุม FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ด้วยความน่าจะเป็น 92% สำหรับการประชุมสิ้นเดือน ก.ย. และการประชุมเดือน พ.ย. จะปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 0.5% จึงยังคงมุมมองตลาดหุ้นมี Upside จำกัดจากนี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนมองตลาด Price In ประเด็นบวกด้านเงินเฟ้อคลี่คลายไปมากพอสมควรแต่ช่วงถัดไปยังมีความกังวลเกี่ยวกับดอกเบี้ยเร่งขึ้นกดดันเศรษฐกิจ จึงยังแนะลดพอร์ตการลงทุน ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้น ได้แก่ กลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL) โรงพยาบาล (BCH CHG) ธนาคาร (BBL KBANK SCB TISCO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) กลุ่มการเงิน (MTC)

Pi Stock Picks

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 72.25 บาท)

ในช่วง 3Q22 คาดว่ารายได้จะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปีก่อนเพราะ 1.รวมงบโลตัสเข้ามา 2. ไม่มีล็อคดาวน์ ส่วนการเทียบกับ 2Q22 อาจจะออกมาแค่ทรงตัว เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ในระยะสั้นมี ปัจจัยหนุนจากการปรับขึ้นค่าแรงของภาครัฐที่จะเข้าพิจารณาในวันนี้

MTC (ชื้อ / ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท)

แม้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่สูงขึ้น และการปรับเพิ่มดอกเบี้ย แต่คาดว่ากำไร สุทธิจะโต 14% YoY ในปี 2022 หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้น เพราะสินเชื่อโตแข็งแกร่ง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2023-24 โตต่อเนื่องที่ 16% และ 18% ตามลำดับ

- Advertisement -