บล.ฟิลลิป:
กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ (MEDIA): เม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. +23% y-y, +2% m-m (ลงทุนเท่ากับตลาด)
- เม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. +23% y-y: เม็ดเงิน โฆษณาที่กลับมาโตได้สูง เป็นผลมาจากโควิด-19 ที่ระบาดหนักในปีก่อน ส่งให้ผู้ลงโฆษณาลดการใช้จ่ายด้านนี้ลง เทียบปีนี้ที่เปิดเมืองและผ่อนคลายมาตรการไปมาก สื่อหลักที่โตโดดเด่น คือ สื่อในโรงภาพยนตร์โตสุด +4,947% y-y เพราะปีก่อนโรงภาพยนตร์ถูกปิด ตามด้วยสื่อในศูนย์การค้า +78% สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ +67% eyeball ลดลง เพราะปีก่อนปิดเรียน และ WFH สื่อทีวี +9% และสื่ออินเทอร์เน็ต +4%
- 8M65 เม็ดเงินโฆษณาโต 10% y-y: สื่อที่ฟื้นตัวได้โดดเด่น ยังเป็นสื่อในโรงภาพยนตร์, สื่อในศูนย์การค้า และสื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่เช่นกัน โดยมีสัดส่วนการใช้เม็ดเงินโฆษณามากสุดในสื่อทีวีที่ 54% สื่ออินเทอร์เน็ต 22% สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ 11% และสื่อในโรงภาพยนตร์ที่ 6% โดยกลุ่มที่ใช้เม็ดเงินโฆษณามากสุด 3 อันดับแรกเป็น อาหาร/เครื่องดื่ม, Personal Care/เครื่องสำอาง และ Retail shop/ร้านอาหาร
- คงแนะนำ “ลงทุนเท่ากับตลาด”: เม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน น่าจะช่วยสนับสนุนการฟื้นอีกทางหนึ่ง
เม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. +23% y-y, +2% m-m
แม้จะมีเรื่องน้ำท่วมที่เข้ามากระทบอยู่บ้าง ทางฝ่ายเลือก Top pick เป็น MAJOR จากเม็ดเงินโฆษณากลับมาฟื้นตัวโดดเด่น และมีหนังใหญ่ทยอยเข้าฉายใน 4Q65 เช่นเรื่อง Avatar 2, Black Panther, Black Adam และ Shazam 2 และหนังของ MPIC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยอีก 8 เรื่อง ราคาพื้นฐานปี 66 ที่ 23.10 บาท และ BEC ที่มีทีวีเรตติ้งเป็นอันดับ 2 ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งเม็ดเงินโฆษณาทางทีวีและอินเทอร์เน็ต รวมถึงนำละครไป Simulcast ที่จีนและออนไลน์มากขึ้น ราคาพื้นฐานปี 65 ที่ 17 บาท