บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

ITEL (ITEL TB): บมจ. อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม

แนวโน้มการประมูลงานล่าช้า ปรับลดประมาณการ

แนวโน้มการประมูลงานที่ล่าช้า โดยสองโครงการขนาดใหญ่ คือ คอร์สเรียนออนไลน์ของ กสทช. ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผล และโครงการ USO TOT ยังไม่ได้จัดประมูล มูลค่ารวมทั้งสองโครงการประมาณ 1 พันล้านบาท ที่ควรจะเซ็นสัญญาและเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนใน 3Q22 แต่คาดว่าการรับรู้รายได้อาจเลื่อนไปเข้าปี 2023-2024 หากบริษัทชนะประมูล ความล่าช้าดังกล่าวทำให้เราปรับลดประมาณการรายได้ Installation และ Data service ทำให้กำไรลดลงจากประมาณการเดิม 20.0% เหลือเติบโตเพียง 7.1% Y-Y อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไร 2H22 จะเติบโตจากครึ่งปีแรก +22.3% H-H การเติบโตของกำไรจะเลื่อนไปอยู่ในปี 2023 คาด +39.2% Y-Y เราปรับลดราคาเป้าหมายปี 2022 ลงเป็น 5.50 บาท (Full dilution) จากเดิม 6.70 บาท อิง PE 32 เท่า PEG 0.9 ยังคงแนะนํา ซื้อ

แนวโน้มการประมูลงานล่าช้า ปรับประมาณกําไรลง

ITEL มี Backlog ณ สิ้น 2Q22 จำนวน 3,053 ล้านบาท ส่วนใหญ่ 73% เป็นรายได้ Recuring (Data service และ Data center) ที่ทยอยรับรู้จนหมดอายุสัญญา ส่วนที่เหลือเป็นงาน Installation จำนวน 814 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ใน 2H22 ประมาณ 659 ล้านบาท บริษัทได้เข้าร่วมงานประมูลต่างๆ และตั้งเป้าได้รับงานเพิ่ม 2 พันล้านบาทใน 2H22 ซึ่งรวมถึงโครงการขนาดใหญ่ที่ควรประมูลตั้งแต่ใน 2Q22 คือ โครงการคอร์สเรียนออนไลน์ของ กสทช. และ USO TOT มูลค่ารวมราว 1 พันล้านบาท โดยโครงการคอร์สเรียนออนไลน์นั้น บริษัทได้เสนอราคาไปแล้ว อยู่ระหว่างรอผล ส่วน USO TOT ผ่านประชาพิจารณ์แล้วแต่ยังไม่มีการประมูล หากบริษัทชนะประมูลทั้งสองโครงการดังกล่าว ก็อาจรับรู้เป็นรายได้ไม่ทันในปี 2022 เราจึงปรับประมาณการรายได้ (โดยเฉพาะ Data service และ Installation) และกำไรปี 2022 ลง 8.8% และ 20.0% ตามลำดับ ทำให้คาดกำไรปี 2022 เป็น 268.7 ล้านบาท +7.1% Y-Y ลดลงจากเดิมที่คาดโต 34.0% Y-Y อย่างไรก็ตาม กำไร 2H22 จะสูงกว่า 1H22 ตามฤดูกาล เราคาดการณ์กำไร 2H22 เบื้องต้นที่ 147.8 ล้านบาท +22.3% H-H แต่ -6.3% Y-Y จากต้นทุนที่สูงกว่าปีก่อน

แม้จะปรับประมาณการลง แต่เป้าหมายระยะยาวของบริษัทยังเป็นไปได้

เรายังปรับประมาณการกำไรปี 2023-2024 ลง 15.8% และ 10.2% ตามลำดับ เพราะหากการประมูลโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นภายในปลายปี 2022 คาดว่าจะเซ็นสัญญาราวปี 2023 การรับรู้รายได้น่าจะเกิดขึ้นในระหว่างปี 2023 ต่อเนื่องถึง 2024 ประมาณการที่ปรับใหม่ คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 19.5% และ 12.7% ในปี 2023 2024 ตามลำดับ อยู่ในกรอบเป้าหมายรายได้ 5.0 พันล้านบาทในปี 2026 โดยที่ธุรกิจ Installation จะขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2023 แต่เนื่องจากธุรกิจ Installation มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าธุรกิจประเภทอื่น จึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยในปี 2023 จะทรงตัวใกล้เคียงปี 2022 คือ 21.5% ก่อนจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2024 แต่เชื่อว่าการควบค่าใช้จ่ายอื่น รวมถึงการทยอยชำระคืนเงินกู้ จะช่วยให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก 9.0% ในปี 2022 เป็น 10.5% ในปี 2023 และเป็น 12.1% ปี 2024 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ 15% ในปี 2026 ยังคาดหวังได้

ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 5.50 บาท (Full dilution) ยังแนะนํา ซื้อ

ประมาณการที่เราปรับใหม่ กำไรปี 2022-2024 คาดเติบโตเฉลี่ย 34.6% CAGR ราคาเป้าหมายปี 2022 ปรับลงเป็น 5.50 บาท (Full dilution) จากเดิม 6.70 บาท ถึง PE เดิม 32 เท่า คิดเป็น PEG 0.9 (ถ้าไม่รวมวอร์แรนท์ ราคาเป้าหมายจะเป็น 6.50 บาท) กำไรปี 2023 ที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตสูง 39.2% YY จะทำให้ PE ลดลงจากปีปัจจุบัน 24.9 เท่าเหลือ 17.9 เท่า และ EVEBITDA ลดลงเหลือเพียง 9.0 เท่า ยังคงแนะนำ ซื้อ

Company Overview

ITEL ประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม โดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ประเภท มีโครงข่ายเป็นของตนเอง จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอนุญาตให้บริษัท ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมประเภทโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Network) และยังให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม (Installation) และให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center)

กลุ่มลูกค้ามีทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ ในกลุ่มภาคเอกชน เน้นธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ และกลุ่มธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์

ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรก ณ เดือน พ.ค. 2022 ได้แก่ ILINK 48.4% The Hongkong and Shanghai Banking Corporation 5.6% Thai NVDR 2.4%

ESG

Environment

  • ITEL ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการจัดระเบียบสายสื่อสารตามการร้องขอ และการดูแลความสะอาดบริเวณสายสื่อสาร และสถานีโครงข่ายของบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ
  • ITEL ดำเนินกิจการภายใต้แนวคิดการใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นดูแลและพัฒนากระบวนการให้บริการและเลือกใช้วัสดุ ตลอดจนสินค้าที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • ITEL ให้ความสำคัญต่อการลดของเสียจากกระบวนการผลิต โดยยึดหลักการใช้ให้น้อยหรือใช้เท่าที่จำเป็น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

Social

  • ITEL มีนโยบายให้ความช่วยเหลือและพัฒนาสังคม โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้แก่เยาวชนและคนในชุมชน  บริจาคและการสนับสนุนการศึกษารวมถึงให้ความร่วมมือในกิจกรรมต่างๆ กับชุมชนโดยรอบ ในพื้นที่ที่บริษัทฯเข้าดำเนินธุรกิจตามควรแก่กรณี
  • ITEL ตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม อันเนื่องมาจากการดำเนินงานของบริษัทฯด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิผลภาพ

Governance

  • บริษัทมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยให้ความสำคัญในการต่อต้านการคอรัปชั่น รวมทั้งยึดมั่นในหลักคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมจรรยาบรรณ และธรรมาภิบาล บริหารงานด้วยความโปร่งใส และรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
  • คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบในการจัดการบริษัทให้เป็นไปตามกฎมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท

Valuation Methodology

  • เราประเมินราคาเป้าหมาย 5.50 บาท อิงค่า PE 32 เท่า หรือ PEG 0.9 บนคาดการณ์การเติบโตของกำไรในช่วงปี 2022-2024 ที่ 34.6% CAGR และรวมจำนวนหุ้นจากการใช้สิทธิของ ITEL-W3 เข้ามาทั้งหมด
  • ทั้งนี้ บริษัทมี ITEL-W3 อายุ 2 ปี (ครบกำหนดอายุ 14 เม.ย. 2023) จำนวนหน่วยคงเหลือที่ยังไม่ได้สิทธิ 269.6 ล้านหน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 3.30 บาทหุ้น
  • ITEL-W4 มีจำนวนหน่วย 322.0 ล้านหน่วย อายุ 2 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 11.50 บาทหุ้น

ปัจจัยเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

ความเสี่ยงจากความไม่สม่ำเสมอของรายได้จากธุรกิจติดตั้งโครงข่าย

ธุรกิจให้บริการติดตั้งโครงข่าย (Installation) ขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนขยายโครงข่ายของผู้ให้บริการ หากผู้ให้บริการลดการลงทุนในการขยายโครงข่าย หรือดำเนินการติดตั้งโครงข่ายด้วยตนเอง อาจส่งผลให้รายได้ในส่วนนี้ของบริษัทไม่สม่ำเสมอ ไม่ต่อเนื่อง และอาจส่งผลต่อผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมโทรคมนามีจำนวนผู้ใช้บริการสื่อสารข้อมูลอยู่ตลอดเวลา และเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตจึงจำเป็นต้อง ขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงข่ายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ขณะที่การมาของ 5G ทำให้ความต้องการในการติดตั้ง โครงข่ายในระยะ 2-3 ปีแรกเพิ่มสูงขึ้น บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนี้มีคุณภาพ ไม่เคยส่งมอบงานล่าช้า จึงได้รับ ความไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด

ความเสี่ยงจากการแข่งขัน

จำนวนผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจเดียวกับบริษัทมีไม่มากนัก เพราะการประกอบกิจการต้องได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. การแข่งขันจึงถือว่าไม่รุนแรง นอกจากจำเป็นต้องมีใบอนุญาตแล้ว ต้องอาศัยประสบการณ์ และ Track record ที่ดี รวมถึงต้องใช้เงินลงทุนสูง การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่จึงไม่ง่าย

ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค

เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และบริษัทได้ลงทุนกับเทคโนโลยีไปมาก เช่นการลงทุนในโครงข่าย เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง หากมีการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น เปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีแบบไร้สาย (Wireless) อาจกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีแบบไร้สาย เหมาะกับการใช้งานที่มี ขนาดช่องสัญญาณเล็กและไม่ได้มีการส่งข้อมูลตลอดเวลา ซึ่งเป็นตลาดคนละกลุ่มลูกค้ากับของบริษัท อย่างไรก็ตาม  บริษัทติดตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด และมีแนวทางตอบสนองทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อลด ความเสี่ยงดังกล่าว

ความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่

ในปี 2018-2019 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มลูกค้ารายหนึ่งคิดเป็นสัดส่วน 66.7% และ 67.4% ของรายได้รวม ตามลำดับ หากในอนาคตลูกค้าดังกล่าวปรับลดการใช้บริการของบริษัท อาจส่งผลต่อผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้ารายดังกล่าวเป็นลูกค้าขนาดใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความปลอดภัยในการรับ-ส่งข้อมูล ซึ่งโครงข่าย Fiber optic ของบริษัทตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี บริษัทจึงเชื่อว่าลูกค้าจะยังคงใช้บริการของบริษัท ต่อไปอย่างต่อเนื่อง

- Advertisement -