สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงแรงในช่วงเปิดตลาด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากตัวเลข CPI สหรัฐ ออกมาสูงกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายท้ายตลาด ดัชนีลดช่วงลบจนเกือบเท่าราคาปิดเมื่อวานนี้  ซึ่งได้แรงหนุนจากหุ้น DELTA และหุ้นกลุ่มประกัน ถือว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,656.58 จุด -4.51 จุด -0.27% มูลค่าการซื้อขาย 72,610 ลบ. ต่างชาติ -1,223.71 ลบ. TFEX -31,842 สัญญา ตราสารหนี้ +5,689.69 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 30.12 จุด หรือ + 0.10% โดยตลาดฟื้นตัวจากแรงช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ ทรุดตัวลงกว่า 1,200 จุดในวันอังคาร และการชะลอตัวของดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ +1.3% ปิดที่ 88.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับการคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว

+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.1%MoM ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.ค.

+ จีนประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เมืองเฉิงตูมีผล ตั้งแต่ 15 ก.ย. หลังเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการแพร่ ระบาดของโควิด-19 ได้

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,125 ราย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย รักษาหาย 1,024 ราย

ปัจจัยลบ –

– ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า จีนและเจ้าหนี้รายอื่นๆ มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในการป้องกันปัญหาหนี้สินท่วมในตลาดเกิดใหม่ และปกป้องไม่ให้ประเทศที่มีรายได้น้อยล้มละลายจากภาวะหนี้สิน

– สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนอง ลดลง 1.2% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จํานอง

– ส.อ.ท.หวั่นน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจจะกระทบห่วงโซ่การผลิต ฉุดส่งออก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 36% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,650-1,660 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D

• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE

• ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว+ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : ERW CENTEL AWC

• วิกฤตพลังงานยุโรป จีนเริ่มใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น : PRM VL BANPU LANNA AGE

• นายกฯ ออกเกณฑ์ให้ต่างชาติได้ BOI ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ : WHA AMATA ROJNA

• หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA COTTO DCC TASCO

หุ้นรายงานพิเศษ SCAP

BFIT แปลงร่าง

  • ชื่อเดิมคือ BFIT ดำเนินการคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจเงินทุนแล้วเสร็จเมื่อ 8 ก.ย. 65 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) (SCAP) มีผลในการซื้อขาย 15 ก.ย. 65 มุ่งประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันภายใต้การกำกับของธปท.และ ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อทุกประเภทโดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงและการประกอบอาชีพของลูกค้า อนาคตจะปล่อยสินเชื่อ จำนำทะเบียนรถ สินเชื่อจำนำบ้านและที่ดิน รวมถึงธุรกิจเงินสดทันใจที่ร่วมกับธนาคารออมสิน
  • ในช่วง 1H65 BFIT มีกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท ลดลง 67%YoY จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ขณะที่ SCAP (ก่อนควบรวม) มีกำไรสุทธิ 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141%YoY ผู้บริหารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารักษาระดับ NPL รวมทั้งหมดไว้ไม่เกิน 2%
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากการควบรวมที่คาดจะเกิด synergy ในการปล่อยสินเชื่อและฐานด้านเงินทุนที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท SAWAD จึงคาดว่าการควบรวมงบการเงินตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่เป็นช่วงปลาย Q3 จะช่วยชดเชยให้ผลประกอบการงวด 2H65 ของ SCAP หลังควบรวม สร้างการเติบโตของผลประกอบการได้ดี และช่วยเสริมกำลังให้กลุ่มธุรกิจภายใต้บริษัทแม่ SAWAD ได้เป็นอย่างดี แนะนำ ซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) ILINK (Bloomberg Consensus 12.00 บาท) จ่อเซ็นงานสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า 1.78 พันล้านบาท เดือนกันยายนนี้ ดันงานในมือทะลุ 2 พันล้านบาท ลุยประมูลงานสายเคเบิลใต้น้ำ เกาะสีชัง มูลค่า 900 ล้านบาท ปลายปีนี้ มั่นใจครึ่งปีหลังธุรกิจเติบโตดี คงเป้ารายได้รวมโต 8-10% พร้อม ศึกษาขยายธุรกิจอีวี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PJW (Bloomberg Consensus 6.70 บาท) ศึกษาโอกาสทำธุรกิจร่วมกับพาร์ตเนอร์ ด้านผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกเพิ่ม พร้อมปักเป้ายอดขายแตะ 5 พันล้านบาท ภายใน 3-5 ปี ส่งซิกผลงานครึ่งหลังปีสดใส หลังโควิด-19 คลายตัว เปิดประเทศหนุนกำลังซื้อและการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลบวกต่อกลุ่มแพ็กเกจจิ้ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTTGC (Bloomberg consensus 56.00 บาท) เปิดตัว ENVICCO โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรี ไซเคิลคุณภาพสูง แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ช่วยลดพลาสติกใช้แล้วในประเทศได้ถึง 60,000 ตันต่อปี ช่วยลดก๊าซเรือนกระจก 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกป่าประมาณ 78,000 ไร่ หรือปลูกต้นไม้ใหญ่มากกว่า 8 ล้านต้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ACE (Bloomberg consensus 4.14 บาท) ซูโปรเจ็กต์รอเซ็น PPA จำนวนมาก เดินหน้าเจรจาโรงไฟฟ้าขยะ ขณะที่โรงไฟฟ้าชุมชน รอไม่เกิน 2-3 เดือน เดินหน้าลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียนต่อเนื่อง จ่อเข้าประมูลโครงการโซลาร์, โซลาร์+แบต พร้อมพลังงานลม มองโอกาส M&A ต่อยอดเติบโต ศึกษาตลาดคาร์บอน มั่นใจงบครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจ ภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สํานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 28 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2565
  • 30 ก.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย บจ.ส่วนใหญ่ปิดงวดงบการเงินไตรมาสที่ 3

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 15 ก.ย. สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิต เดือนก.ย. ดัชนีการผลิตเดือนก.ย. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.
    • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประชุมทวิภาคีกับ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ประเทศอุซเบกิสถาน
  • 16 ก.ย. จีนรายงานราคาบ้านการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และอัตราว่างงานเดือนส.ค.
    • อียู รายงานยอดขายรถยนต์+อัตราเงินเฟ้อ ส.ค. สหรัฐรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้น
  • 19 ก.ย. สหรัฐรายงานดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ย. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
  • 20-21 ก.ย. ประชุม FED
  • 22 ก.ย. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
- Advertisement -