บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 

CPANEL (CPANEL TB): บมจ. ซีแพนเนล

เติบโตตามเทรนด์อสังหา ทิศทาง 2H22 เด่น

แนวโน้มกำไร 2H22 เร่งขึ้นเด่น H-H, Y-Y จากการรับรู้ Backlog ระดับสูง รวมถึงการปรับปรุงเครื่องจักร ส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาวัสดุก่อสร้างลดความร้อนแรง และเห็นผลเต็มที่ของการปรับเพิ่มราคาขายหนุน GPM ขยับขึ้น ขณะที่โมเมนตัมเชิงบวกของกิจกรรมการเปิดตัวโครงการอสังหาฯ เชิงรุก โดยเฉพาะแนวราบที่ยังแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของคอนโดจะสนับสนุนการเติบโตของตลาด Precast บนฐานลูกค้าของบริษัทที่เป็น Developer แนวหน้าในอุตสาหกรรม เราคงประมาณการกำไรปี 2022 +101% Y-Y ที่ 64 ล้านบาท และโตต่อในปี 2023-2024 เฉลี่ย 24% CAGR ทํา New High ต่อเนื่อง ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2023 ที่ 9.40 บาท แนะนำซื้อ

ตลาดอสังหาฯ คึกคัก และขาดแคลนแรงงานหนุนความต้องการ Precast

จากการประชุม นวค.วานนี้ เรายังมีมุมมองบวกต่อการเติบโตของตลาดการใช้ Precast ขับเคลื่อนด้วยตลาดอสังหาฯ ที่รุกเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะแนวราบที่อุปสงค์แข็งแกร่ง และเกิดประเด็นสร้างไม่ทันขายจากปัญหาแรงงานขาดแคลน (อ้างอิงจำนวนแรงงานต่างด้าวในปัจจุบันคิดเป็น 77% เทียบกับช่วงก่อน COVID-19 ในปี 2019) รวมถึงคอนโดเริ่มเห็นการฟื้นตัวจากการทยอยกลับมาเปิดตัวคอนโด Low-rise ซึ่งผู้ประกอบการหันมาใช้ Precast มากขึ้นจากวิธีก่ออิฐฉาบปูน เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านต้นทุนและระยะเวลาการก่อสร้างรวดเร็วกว่า

ขณะที่แม้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนหน้าและยังทรงตัวสูง แต่บริษัทใช้กลยุทธ์กำหนดราคาวิธี Cost Plus Pricing และสามารถปรับราคาขายขึ้นได้ สะท้อนต้นทุนได้ในทุกเดือน ทำให้ได้รับผลกระทบจำกัด ส่วนประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 5% กระทบไม่มาก แต่มองว่าช่วยเกื้อหนุนต่อความต้องการ Precast ที่ใช้แรงงานน้อย

แนวโน้มผลประกอบการ 2H22 เร่งขึ้น จากทั้งรายได้และมาร์จิ้น

เราประเมินกำไรสุทธิ 2H22 คาดเร่งขึ้นอย่างมีนัย H-H, Y-Y จากการส่งมอบ Backlog ตามแผนเปิดโครงการอสังหาฯ ที่มากขึ้น พร้อมผลบวกของการปรับปรุงเครื่องจักร ทำให้คาดอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นเป็น 75-80% จาก 1H22 ที่เฉลี่ย 71% และ 2H21 ที่ 57% ซึ่งฐานต่ำจากคำสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างเดือนก.ค. 2021 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นจาก Economy of scales ประกอบกับทิศทางราคาวัสดุก่อสร้างชะลอความร้อนแรงลง โดยเฉพาะราคาเหล็ก (สัดส่วน 20% ของต้นทุนรวม) และการทยอยเพิ่มราคาขายในช่วงก่อนหน้าจะเห็นผลเต็มที่ ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2022 +101% Y-Y ที่ 64 ล้านบาท และโตต่อในปี 2023-2024 เฉลี่ย 24% CAGR บน Backlog ปัจจุบันอยู่ระดับสูง 1.1 พันล้านบาท ทยอยรับรู้ถึงปี 2023 ส่วนปี 2024 จะเริ่มดำเนินการผลิตโรงงานแห่งที่ 2 ตั้งแต่ 1Q24 เพิ่มกำลังการผลิต 720,000 ตร.ม.ต่อปี หรือสูงขึ้น 1 เท่าตัวจากเดิม ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าบางส่วนแล้ว

ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2023 ที่ 9.40 บาท แนะนำซื้อ

เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2023 ที่ 9.40 บาท (รวม Fully Diluted ของ CPANEL-W1) อิง PER 24 เท่า คิดเป็น PEG 1 เท่าเทียบกับคาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิปี 2023-2024 และใกล้เคียงค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลท. ในเดือนก.ย. 2021 ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside มากกว่า 10% บวกกับทิศทางผลประกอบการจะเด่นขึ้นใน 2H22 จึงปรับคำแนะนำจากซื้อเก็งกำไรเป็นซื้อ เรามองว่า CPANEL น่าสนใจในฐานะหุ้นที่อยู่ในช่วง Growth Stage และมีจุดแข็งจากฐานลูกค้ารายใหญ่ในแวดวงอสังหาฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อต่อเนื่อง พร้อมมีโอกาสขยายฐานลูกค้ารายใหม่จากช่องว่างในตลาดอีกมาก

Company Overview

CPANEL ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูป, แผ่นพื้นคอนกรีตสำเร็จรูป, คานคอนกรีตสำเร็จรูป, บันไดคอนกรีตสำเร็จรูป, ผนังรับหลังคาคอนกรีตสำเร็จรูป และฟาซาดคอนกรีตสำเร็จรูป ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยแนวราบ-แนวสูง, อาคารสำนักงาน, โรงแรม, อาคารคลังสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้ตราสินค้า “CPANEL”

จุดแข็งคือใช้ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automated ที่ทันสมัยของ Vollert Anlagenbau GmbH ประเทศเยอรมันนี และได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยนำ Software ต่างๆ ที่ทํางานเชื่อมโยงกัน และบริหารงานก่อสร้างบนระบบ Building Information Modeling หรือ BIM ตั้งแต่การออกแบบ ควบคุมการผลิต การทำงานหน้างาน และการจัดทำรายงานเอกสารเข้าด้วยกันอย่างบูรณาการ

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นสัดส่วนยอดขายเฉลี่ย 95% ของรายได้จากการขายในปี 2018-2020 รองลงมาเป็นกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่รับงานจากกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์, เจ้าของอาคารสำนักงาน, เจ้าของคลังสินค้า เจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมราว 5% ของทั้งหมด หากพิจารณาตามประเภทโครงการ การขายหลักจะมาจากกลุ่มโครงการแนวราบเฉลี่ยเกือบ 90% ของรายได้รวมปี 2018-2020

ESG

Environment

  • ลดค่าใช้จ่ายและผลกระทบด้านพลังงานผ่านวิธีแก้ไขต่างๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคต
  • บริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม มาตรฐานสากล และข้อบังคับในประเทศ การลดปริมาณการใช้น้ำภายในองค์กร รวมถึงการสร้างความตระหนักในเรื่องการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • บริหารจัดการเศษขยะ สิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ด้วยความรับผิดชอบ และใช้มาตรฐานข้อบังคับตามที่กฎหมายกำหนด

Social

  • การดำเนินงานของบริษัทจะต้องไม่ไปสร้างความเดือดร้อนใดๆ ให้กับชุมชน และสังคมรอบข้าง รวมไปถึงต้องให้ความร่วมมือกับชุมชนและสังคมในการพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้น
  • กิจกรรมช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เด็กนักเรียนและโรงเรียนต่าง ๆ การเข้าร่วมส่งเสริมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ประเพณีของท้องถิ่น, การส่งเสริมทะนุบำรุงศาสนาของชุมชนและสังคม

Governance

  • มุ่งเน้นที่จะประกอบธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นธรรม จรรยาบรรณ และแข่งขันทางการค้าตามกฎหมาย และหลักการแข่งขันทางการค้าอย่างเสมอภาคกันอย่างมีจริยธรรม
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่างๆ ของทางภาครัฐอย่างเคร่งครัดแล้ว บริษัทฯ ไม่สนับสนุนการทุจริตและคอร์รัปชั่น ที่อาจเกิดขึ้นในภาครัฐ และต่อต้านการทุจริตทุกประเภทในองค์กร
  • กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการไว้เป็นลายลักษณ์อักษร โดยนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2560 หรือ CG Code 2017

Valuation Methodology

เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2023 ของ CPANEL เท่ากับ 9.40 บาท อิง PER ที่ 24 เท่า คิดเป็น PEG 1 เท่าจากคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2023 2024 และสูงกว่าผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีต 4 ราย ซึ่ง PER 2021 เฉลี่ย 21x จากอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่โดดเด่นกว่า รวมถึงมีข้อได้เปรียบจากปริมาณงานรอส่งมอบที่อยู่ระดับสูง และรองรับรายได้ไป 2 ปีข้างหน้า ทำให้ Downside จำกัด และการรับรู้รายได้มีเสถียรภาพ ส่วนความสามารถในการทำกำไรและอัตราผลตอบแทนของบริษัทอยู่ระดับต้นๆ ของกลุ่มฯ

ปัจจัยเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

ความเสี่ยงจากความล่าช้าของโครงการลูกค้า

กรณีเกิดความล่าช้าในงานฐานรากหรืองานใต้ดินอาคาร อาจส่งผลให้ลูกค้าขอชะลอการรับสินค้าจากบริษัท และบริษัทต้องจัดหาพื้นที่ในการเก็บสินค้าที่อยู่ระหว่างรอการส่ง ส่งผลกระทบต่อแผนการผลิตสินค้า และเสียโอกาสในการรับงานจากลูกค้ารายอื่น

ความเสี่ยงจากผลกระทบของการระบาด COVID-19

สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งส่วนของแรงงานและผู้รับเหมาติดตั้ง รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และธนาคารระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ลูกค้าของบริษัทบางรายชะลอการก่อสร้างโครงการ หรือชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อรอความชัดเจนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ

วัตถุดิบหลักในการผลิตสินค้าของบริษัท คือ ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น ทราย และหิน โดยคิดเป็นเฉลี่ย 41.6% ของต้นทุนขายรวมในปี 2018-2020 หากมีความผันผวนด้านราคาอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและความสามารถในการทําก้าไรของบริษัท

ความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต

หากเกิดปัญหาการหยุดชะงักของกระบวนการผลิต ทั้งเกิดจากเครื่องจักรหรือซอฟแวร์หยุดชะงัก อาจส่งผลกระทบต่อ ผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากไม่สามารถผลิตและส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าตามกำหนดเวลาที่ได้ร่วมตกลงกับลูกค้า และอาจทำให้ลูกค้ายกเลิกคำสั่งซื้อ

ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงผู้บริหาร

คุณชาคริตฯ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มีส่วนสำคัญในการบริหารงาน รวมถึงมีประสบการณ์และมี ความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและคู่ค้ามายาวนาน กรณีที่บริษัทสูญเสียผู้บริหารท่านดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการ บริหารและผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ

- Advertisement -