ภาพรวมยังดูเป็นลบต่อเนื่อง คงคำแนะทยอยลดพอร์ต
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนยังคงปรับลงต่อเนื่องอีกราว 0.56% นักลงทุนยังคงกังวลกับประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับตัวลง 3.5% ถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจะกดดันอุปสงค์
Market Outlook
ภาพรวมวันนี้ดูค่อนข้างเป็นลบสะท้อนผ่านตลาดหุ้น Dow Jones ที่ปรับตัวลง 0.56% ราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับลง 3.5% สร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่เช้านี้ Nikkei ปรับลง 0.96% จึงคาดว่า SET INDEX วันนี้มีโอกาสปรับลงต่อในกรอบ 1630 – 1640 สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ประกาศออกมาแข็งแกร่ง ได้แก่ (1) ยอดค้าปลีกขยายตัว 0.3%MoM สวนทางกับตลาดคาดว่าจะหดตัว 0.1%MoM (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ที่เพียง 2.13 แสนราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จะอยู่ที่ 2.25 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้ล่าสุด CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนักที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน ด้วยความน่าจะเป็น 80% ส่วนความน่าจะเป็นในการขึ้นดอกเบี้ย 1% อยู่ที่ 20% โดยที่ CME FED Watch ประเมินว่าจุดสูงสุดของดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.5% หากเป็นไปตามข้อมูลข้างต้นก็นับว่าดอกเบี้ยสหรัฐฯ จะสูงสุดในรอบ 15 ปี อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในอดีตชี้ว่าดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงมักตามมาด้วยเศรษฐกิจถดถอย ส่วนระยะสั้นจับตาใกล้ชิดกับกระแส Fund Flow ต่างชาติที่เริ่มเห็นแรงขายสุทธิออกมาต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯยังคงเดินหน้าอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดอ่อนค่าทดสอบ 36.95 บาท / ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการอ่อนค่าที่สูงสุดในรอบ 7 ปี โดยเราเชื่อว่าเงินบาทจะอ่อนค่าต่อเนื่อง ผลพวงจากการที่ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ดอกเบี้ยไทยปรับขึ้นตามไม่ทัน ดังนั้นกระแสเงินทุนต่างชาติที่โอกาสไหลออกต่อเนื่องนับเป็นปัจจัยกดดัน SET ส่วนคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ มองตลาดจะไปจับตารอดูประชุม FED สัปดาห์หน้า
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำทยอยลดพอร์ตการลงทุน จากหลายๆ ความเสี่ยงที่กล่าวไปข้างต้น ส่วนหุ้นแนะนำระยะสั้นเน้นไปที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับลง อาทิ (SCC SCGP) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) กลุ่ม Defensive อย่างโรงพยาบาล (BCH CHG) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่ม Domestic ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO)
Pi Stock Picks
BGRIM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท)
คาดผลประกอบการใน 2H22 จะได้ประโยชน์จากค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น คาดว่า กกพ. จะปรับเพิ่มค่า Ft ขึ้นอีก 0.6866 บาท/kWh เป็น 0.9343 บาท/kWh สำหรับช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2022 เพื่อชดเชยราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 41.00 บาท)
ราคาหุ้นที่ลดลง 17% QTD เปิดโอกาสให้เข้าสะสม เพราะสะท้อนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากค่าสาธารณูปโภคที่ สูงขึ้นแล้ว สืบเนื่องมาจากสภาวะอุปทานก๊าซที่ตึงตัวในยุโรปที่มีส่วนแบ่งรายได้ธุรกิจโรงแรม 73% ในครึ่งแรกปี 2022 คาดว่าอัตราราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ที่เพิ่มสู่ระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 อยู่ 20%-30% ของกลุ่ม โรงแรม NHH จะสามารถชดเชยผลกระทบจากค่าพลังงานที่สูงขึ้นได้
