Daily Focus: Domestic and Selective Play

2022SET Target: 1670

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ได้ในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีแรงขายออกมากดดันในช่วงบ่าย ส่งผลให้ดัชนีปิดลบ 14.25 จุด ณ สิ้นวัน จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่บางตัวอย่าง DELTA MINT SHR เป็นต้น รวมถึง FTSE Rebalance ที่มีผลเย็นวันนี้ซึ่งไทยถูกลดน้ำหนัก สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 334 ลบ.  ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเกือบ 4.5 พันลบ. (และยังคง Short Index Futures อีก 3.1 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways Down พักตัวต่อเนื่อง โดยมีแนวรับ 1,630+- จุด กลุ่มพลังงานคาดถ่วงตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรงจากความกังวล ด้าน Demand ยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือน ส.ค. +0.3% M-M ดีกว่าตลาดคาด แต่หักไม่รวมยานยนต์จะ -0.3% M-M ต่ำกว่าตลาดคาด ภาพรวมตลาดกังวลทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอ ในขณะที่เงินเฟ้อยังลงช้า ส่งผลให้ Dollar Index ยังทรงไปในทิศทางแข็งค่า และ FED มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด โดยสัปดาห์หน้าต้องติดตามว่าจะขึ้น 0.75% ตามคาดหรือไม่  ระยะสั้นเม็ดเงินต่างชาติพลิกไหลออกจากตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น คาดยังช่วยหนุนให้ SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นโลก และกระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลเข้าในระยะกลาง หุ้นกลุ่ม Domestic และ Reopening Play โดยเฉพาะที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวคาดว่ายัง Outperform ส่วนจุดเข้าสะสมระยะกลาง-ยาวยังรอจังหวะพักฐานของดัชนีบริเวณ 1,600-1,610+- จุด

กลยุทธ์ : ลงทุนใน Domestic และ Selective Play // รอสะสมหุ้นช่วงปรับฐาน 1,600-1,610+- จุด

หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : CPN, KTB, M, PRM, TU

หุ้นเด่นวันนี้ : PRM

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 7.90 บาท
  • แนวโน้ม 2H22 ดีกว่าครึ่งปีแรก ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งมี Margin สูงจะโตแรงจาก การรับรู้เรือใหม่เต็มที่ และมีเรือเพิ่มอีก 1 ลำใน 4Q22 เป็นเรือที่มีสัญญา 10 ปี รายได้คงที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องต้นทุนน้ำมัน
  • ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศดีขึ้นต่อเนื่องตามการเปิดเมือง ส่วนเรือ Offshore จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของ Crew boat ที่เข้ามาตั้งแต่ พ.ค. และมีลูกค้าเต็มแล้ว เรือ FSU มีการปรับราคาขึ้นหลังหมดสัญญาเก่า และจะเข้ามาเพิ่มอีก 1 ลำในสิ้นปี เรายังคงคาดกำไรปกติปี 2022 2023 +20% Y-Y ต่อปี
  • แนวรับ 6.40//6.20 บาท แนวต้าน 6.80//7 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคเร่งขึ้นเป็น US$979 ล้าน นำโดย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย ประเทศละ US$262-316 ล้าน ส่วนไทยไหลออกหนาแน่น เช่นกัน US$121 ล้าน จาก Dollar Index ที่ยังคงยืนแข็งค่า และเม็ดเงินยังไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง กังวล FED ขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าคาด แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลออกต่อเนื่องรอดูผลการประชุม FED สัปดาห์หน้า

ประเด็นสําคัญวันนี้

(-) วิกฤตพลังงานยุโรป บริษัทที่มีโรงงานผลิตใน EU ได้แก่ TU มี 5 โรงงาน สัดส่วนรายได้ 28% ของรายได้รวม ปัจจุบันมีการสำรองพลังงานอย่างเพียงพอ ส่วนที่เยอรมนีที่พึ่งพิงก๊าซจากรัสเซียมากสุด TU มีการใช้เครื่องจักรใหม่ๆเพื่อลดการใช้ก๊าซอยู่ และมีการปรับขึ้นราคาสินค้าให้ครอบคลุมค่าพลังงานที่ขึ้นทั้งหมด คาดว่าผลกระทบจำกัด

บริษัทที่มีการส่งออกไปยุโรปนำโดย XO 82% ของรายได้รวม รองมาคือ CFRESH 61%, KCE 45%, DELTA 26%, NRF 19%, TFG 15%, SAPPE 12%, HANA 10%, STA 8%, GFPT 7%, GLOCON 7% เรามองเป็น Sentiment เชิงลบ ส่วนผลกระทบปัจจุบันยังดูจำกัดในหลายบริษัท อาทิ GFPT TFG SAPPE คำสั่งซื้อยังดี / บริษัทที่เริ่มเห็นการชะลอตัวคือ XO และ KCE

(+) กลุ่มท่องเที่ยว เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อจำนวนนักท่องเที่ยว โดยคาดฟื้นตัวแตะ 34 ล้านคนในปี 2023 ตามการ Reopening ทั่วโลก หนุนทั้งธุรกิจสนามบิน สายการบิน และโรงแรม ส่วนปัญหาต้นทุนพลังงานในยุโรปที่สูงกดดัน MINT และ SHR แต่เราประเมินจะสามารถชดเชยได้จากราคาห้องพักที่ปรับตัวขึ้นสูงกว่าก่อน COVID-19 ระยะสั้นคาดกำไร 3Q22-4Q22 จะเติบโต Q-Q ได้ต่อเนื่อง คงน้ำหนักการลงทุน Overweight โดยเลือก Top Pick เป็น AOT BA และ DUSIT (Source: FSSIA) ส่วนเชิงกลยุทธ์ชอบ CENTEL แนะนำรอซื้ออ่อนตัว

(+) SC การเยี่ยมชม 3 โครงการใหม่ที่ผลตอบรับดี ได้พิสูจน์ภาพอุปสงค์แนวราบที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวของคอนโด โดยเฉพาะระดับกลางถึงบน รวมถึงผลลัพธ์ของกลยุทธ์มุ่งพัฒนาสินค้าต่อเนื่อง โดยยอด Presales YTD คิดเป็น 73% ของเป้าทั้งปีที่ 2.2 หมื่นลบ. ซึ่งบรรลุได้ไม่ยากจากการรุกเปิดตัวใหม่ในช่วงที่เหลือของปี ขณะที่ทิศทางกำไร 2H22 เร่งขึ้น Q-Q, Y-Y ในทุกไตรมาส และมี Story เพิ่มพอร์ต Recurring Income ล่าสุดรุกเข้าสู่ธุรกิจคลังสินค้าผ่านการจับมือกับ Flash Group แม้ระยะสั้นคาดว่ายังไม่มีนัย แต่มองเป็นบวกระยะยาว เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 5 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(0) FTSE Rebalance ไทยถูกลดน้ำหนักลงราว US$73 ล้าน ไม่มีหุ้นเข้าออก Large Cap และ Mid Cap ส่วน Small Cap หุ้นเข้า BYD FORTH RAM VIBHA หุ้นออก IMPAC

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 30,961.82 จุด ลดลง 173.27 จุด หรือ -0.56% ถูกกดดันจากธนาคารกลางโลก และ IMF ออกรายงานเดือนเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมาก จากความกังวลด้านวิกฤตพลังงาน และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ ECB

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยยังถูกกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ที่จะประชุมในสัปดาห์หน้า

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 36.97 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 3.38 ดอลลาร์ หรือ -3.8% ปิดที่ 85.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 31.8 ดอลลาร์ หรือ -1.86% ปิดที่ 1,677.3 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 962.01 / +1.45

 

- Advertisement -