KS Daily View 19.09.2022 > คาดหุ้นแกว่งตัวรอผลประชุม Fed จีนผ่อนคลาย Lockdown เฉิงตู หนุนตลาดหุ้นเอเซีย SET วันนี้คาด 1616-1640 จุด หุ้นแนะนำ PLANB

ประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้

ต่างประเทศ :  Key สำคัญที่กำหนดทิศทางตลาดให้น้ำหนัก คือ การประชุม Fed สัปดาห์นี้ คือ วันที่  20-21 ก.ย. จะขึ้นดอกเบี้ย 75bps?  KS ให้น้ำหนัก Dotplot ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในปีนี้และปีหน้าจะเป็นอย่างไร ประเมินทำให้ครึ่งสัปดาห์แรกตลาดหุ้นจะยังผันผวน

ในประเทศ :

1.) หุ้น ANAN ติดตามศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาคดี โครงการแอชตัน อโศก 20 ก.ย.นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2564 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศก ที่ออกให้แก่ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ผู้ดำเนินการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียม แอชตัน อโศก ตามคำร้องของชาวบ้านในพื้นที่ถนนสุขุมวิท ซอย 19 แยก 2 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ยื่นฟ้อง ผอ.สำนักงานเขตวัฒนา ผอ.สำนักการโยธา กทม. ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ คณะกรรมการผู้ชาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ภายใต้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5

2.) หุ้น SCGP ติดตามแนวโน้มการฟื้นตัวของอัตรากำไร หลังดัชนีค่าระวางคอนเทนเนอร์ (SCFI) ปรับตัวลงต่ออีก -9.7% WoW เป็น 2,312.65 จุด หรือลดลงกว่า -46.6% YTD แต่ยังสูงกว่าระดับก่อนโควิด ที่ประมาณ 1,000 จุด โดย SCGP นำเข้าเศษกระดาษปีละ 2 ล้านตัน และหากค่าระวางเรือกลับไปเท่ากับระดับก่อนโควิดคาดว่าจะประหยัดต้นทุนค่าระวางได้กว่า 20 เหรียญต่อตัน นอกจากนี้การที่จีนคลายล๊อกดาวน์เมืองเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมลฑลเสฉวนจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อราคากระดาษ

3.) Media sector: ติดตามแนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ โดยล่าสุดนิลเซ็นเปิดเผยเม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 23% YoY สื่อหลักที่โตเด่น คือ สื่อในโรงภาพยนตร์   +4,947% YoY ตามด้วยสื่อในศูนย์การค้า +78% YoY สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ +67% YoY สื่อทีวี +9% YoY และสื่ออินเตอร์เน็ต +4% YoY มองเป็น sentiment เชิงบวกต่อ MAJOR และ PLANB

4.) Auto sector: ติดตามการเข้ามาลงทุนในธุรกิจ EV ของค่ายรถต่างๆในประเทศไทย โดยรายล่าสุดคือ Ford ได้ประกาศว่าไทยจะเป็น 1 ในฐานการผลิตรถกระบะ EV ของ Ford ต่อยอดจากโมเดล Ranger ute และ Everest SUV มองเป็นบวกกับกลุ่มนิคมฯ รวมถึงชิ้นส่วนยานยนต์คือ SAT และ AH (Ford คิดเป็นสัดส่วน 4% ของยอดขาย)

5.) Tourism sector: ติดตามโซนี่ พิคเจอร์ส กับโปรเจกต์มูฟวี่ ธีม ปาร์ค ในไทย มูลค่าเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนสนุกมูฟวี่ธีม ปาร์คแห่งแรกและแห่งเดียวของโลก ตั้งอยู่ที่พัทยา บนพื้นที่รวมกว่า 200 ไร่ เผยโฉมเฟสแรก “โคลัมเบีย พิคเจอร์ส อควาเวิร์ส” เปิดให้บริการ 12 ต.ค. นี้ ส่วนเฟส 2 พร้อมเดินหน้าต่อทันที ในรูปแบบอินดอร์ เวอร์ชวล มั่นใจดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ หรือ ภายในปี2566 มีผู้เข้าในบริการไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน

6.) Bank and auction sectors: ติดตามสัญญาณรถยึดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้มีโอกาสทะลักเข้าลานประมูลถึง 3 แสนคัน หนุนธุรกิจประมูลรถมือสองคึกคัก หลังมาตรการพักหนี้ของ ธปท. ช่วยให้ลูกหนี้ที่ค้างจ่าย ถูกคงสถานะไว้ไม่ถือว่าผิดนัดชำระหมดลง ณ สิ้นปี 2564 โดยหากลูกหนี้ผิดนัดชำระ 3 เดือน กลายเป็นเอ็นพีแอลแล้ว ตามข้อกำหนดต้องให้เวลาอีก 30 วัน หากยังไม่ชำระ แบงก์ก็สามารถเริ่มยึดรถได้ทำให้คาดว่าจะเห็นการยึดรถขายทอดตลาดเพิ่มในช่วง 2H22 มองลานประมูล (AUCT) ได้ประโยชน์

กลยุทธ์การลงทุน :

KS ประเมินวันนี้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวออกข้าง  ประเมินแนวรับสำคัญ 1600 และ 1616 จุด คาดวันนี้ตลาดหุ้นไทย Rebound สั้นๆเนื่องจาก วันศุกร์

1.) ราคาน้ำมันดิบโลก Rebound

2.) เงินบาท/ดอลลาร์ กลับมาแข็งค่าต่ำกว่า 37 บาท ล่าสุดอยู่ 36.8 บาท คาดทำให้  Flow ชะลอการไหลออกช่วงสั้น

โดยกลุ่มหุ้นแนะนำสัปดาห์นี้ เน้นไปที่กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่ปรับลง

1.) กลุ่ม Anti commodity อาทิ  SCGP, TOA, EPG

2.) กลุ่ม Reopenning หุ้นโรงแรม AWC, หุ้นสื่อ : PLANB

3.) กลุ่ม Hedge หาก Fed ส่งสัญญาณ Hawkish หลังประชุม Fed อาทิ BLA

4.) กลุ่ม Hedge หาก Fed  ส่งสัญญาณ Dovish  คือ กลุ่มการเงิน SAWAD, Growth  stocks

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1616 -1640 จุด หุ้นแนะนำ PLANB, SCGP 

Top pick :

PLANB (ราคาทางพื้นฐาน 8.4 บาท)  ปริมาณสื่อ OOH ของ PLANB มีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วง 8 ปี (ปี 2558-2565) ที่14.8% ซึ่งส่งผลให้เราคาดว่าส่วนแบ่งรายได้ของสื่อ OOH จะเพิ่มขึ้นจาก 25% ในปี 2558 มาอยู่ที่ 46% ในปี 2565 โดยเรามีมุมมองบวกต่อการซื้อกิจการ MACO Aqua Ad และ Broadway Media โดยปัจจัยหนุนราคาหุ้นจะมาจาก

1.) รายได้โฆษณาบนสื่อ OOH ที่ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด

2.) อัตรากำไรปกติที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด

3.) ความกังวลเรื่องกฎระเบียบจากกรุงเทพมหานครที่บรรเทาลง

4.) ความสำเร็จในการสร้างกำไรจากธุรกิจนอกกลุ่ม OOH โดย ล่าสุด มวยไทย The Voice ฯลฯ   ระยะสั้นปัจจัยหนุนราคาหุ้นคือ นิลเซ็นเผยเม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 23% YoY สื่อนอกบ้านและสื่อเคลื่อนที่ +67% YoY บวกต่อ PLANB

SCGP (ราคาทางพื้นฐาน 57.0 บาท)  แนะนำเหมาะสำหรับนักลงทุน 1 ปี

1.) มองกำไร 2H65 ดีกว่า1H65   หลังจากที่ราคาถ่านหิน ค่าระวางเรือปรับลดลงราว 40%นับจากจุดสูงสุด ทำให้ต้นทุน RCP ที่นำเข้าลดลงปรับตัวลง และทำให้ spread ดีขึ้น โดยคาดว่าจะเห็น Improvement หลักๆ ใน Q4

2.) Sentiment บวกจากจีนประกาศยกเลิกมาตรการ Lockdown เมืองเฉิงตู บวกต่อ SCGP

3.) ราคาหุ้นปัจจุบันปรับฐานลงมาราว % จากจุดสูงสุดของปี สะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว โดย 12M FWDPER อยู่ราว 26 เท่า หรือราว 0.5SD และ 12M FWD PBV (x)อยู่ราว 2.2 เท่า หรือราว -0.5SD

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม NAHB housing market index ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย. คาด 47 จุด (-4.1% MoM)

วันอังคาร ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ส.ค. คาด +2.6% YoY อัตราดอกเบี้ยนโยบาย Loan Prime Rate ของจีน 1 ปี และ 5 ปี คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ ดัชนีราคาผู้ผลิตของเยอรมันเดือน ส.ค. คาด +1.5% MoM และ +37.5% YoY ตัวเลข Housing starts ของสหรัฐฯเดือน ส.ค. คาด 1.42 ล้านยูนิต (-3% MoM) ตัวเลข Building Permits ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 1.63 ล้านยูนิต (-1.8% MoM) และถ้อยแถลงของ ECB Lagarde

วันพุธ ติดตามตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ส.ค. คาด 4.7 ล้านยูนิต (-2.3% MoM) ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ ผลการประชุม FOMC คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 75bps. เป็น 3.00%-3.25% ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจของเฟด รวมถึง Dot plot ของเฟด

วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขการส่งออกและนำเข้าของไทยเดือน ส.ค. คาด +9.0% YoY และ 21.4% YoY ตามลำดับ และคาดไทยขาดดุลการค้า 2,870 ล้านเหรียญ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นคาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps. เป็น 2.25% และตัวเลข Initial Jobless  Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ คาด +218K

วันศุกร์ ติดตามตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของเยอรมันเดือน ก.ย. คาด 48.3 จุด (-1.6% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 48.8 จุด (-1.6% MoM) S&P Global Services PMI Flash ของยุโรปเดือน ก.ย. คาด 49.1 จุด (-1.4% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI Flash ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 51.2 จุด (ทรงตัว MoM) และ S&P Global Services PMI ของสหรัฐฯเดือน ก.ย. คาด 45 จุด (+3.0% MoM)

- Advertisement -