รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีหุ้นไทย เปิดลงก่อนแล้วรีบาวด์

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนี Sideways down กดดันโดยกลุ่ม Commerce CPALL CRC COM7 DOGOME HMPRO โรงไฟฟ้า EA GULF BGRIM อื่นๆ SCC EA BYD ส่วนหุ้นบวกสวนตลาดกลุ่มไอซีที ADVANC DTAC TRUE น้ำมัน-โรงกลั่น PTTEP TOP และหุ้นบวกแรง เช่น WAVE W MONO NBC CHIC SE
  • วันนี้คาดดัชนีหุ้นไทย เปิดลงก่อนแล้วรีบาวด์ ซึ่งหากการปรับลงเป็นไปตามกรอบระยะสัปดาห์ที่เราประเมินตั้งแต่แรก คือ 1620 จุด คาดพอลงทดสอบแล้วดัชนีฯจะเริ่มรีบาวด์ เพราะ ตลาดหุ้นโลกที่ปรับลงจากผลประชุมเฟดเมื่อคืนที่ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% (ตามคาด) พร้อมด้วย Dotplot ที่ระบุการประชุมอีก 2 นัดที่เหลือของปี สะท้อน เฟด อาจขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.5% และ 0.75% (เป็น 4.4% จาก 3-3.25% ณ.ปัจจุบัน)
  • ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจเหลือแค่ครั้งละ 0.5% ซึ่งนับว่าดีกว่าที่ตลาดเคยคาด เพราะ นลท.บางส่วน 30% (จากผลสำรวจ CME) เคยเชื่อว่าจะขึ้นรอบนี้ 1% ทำให้ระยะสั้น น่าจะมีแรงซื้อคืน จากในส่วนของ นลท.ที่กลับลำจากมุมมองที่เคย “เป็นลบ” ตามผลสำรวจดอกเบี้ยเฟดในช่วงก่อนหน้านี้…

What to watch

  • ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียสั่งระดมทหารเพื่อการสู้รบในยูเครน และระบุว่า เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์
  • รอติดตามบอร์ด EV เคาะมาตรการอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น เงินอุดหนุนโรงงานแบตไฟฟ้า…
  • เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุม 3 ครั้งติดต่อกัน
  • ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 4.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และแตะ 4.6% ในสิ้นปี 2566 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ซึ่งระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และแตะระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 นอกจากนี้ Dot Plot ยังระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567
  • ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า สกนช. เตรียมแผนส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ อี 20 หรือเบนซินผสมเอทานอล 20% รองรับแผนเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลและสนับสนุนแก๊สโซฮอล์ อี 20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน จากปัจจุบันใช้ทั้งอี 10 และอี 20 โดยจะทำส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ อี 20 ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ประมาณ 3 บาทต่อลิตร ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการ ควบคู่ความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันในการปรับค่าการตลาดสนับสนุนจะเริ่มประชาสัมพันธ์ ต.ค.นี้ ดำเนินการได้ช่วง ธ.ค.65 หรือ ม.ค.66 (+BBGI KSL BRR UBE ฯลฯ)

หุ้นแนะนำวันนี้

BRR อุปสงค์ส่วนเพิ่มเอทานอล หลังรัฐหนุนเบนซินพื้นฐาน E20 คาดเริ่มปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

AH ผู้ผลิต Jig และแม่พิมพ์ชิ้นส่วน ซึ่งยังมีการใช้งานทั้งเครื่องยนต์ ICE และ EV โดยการเพิ่มอุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้า จากมาตรการอุดหนุนภาครัฐ คาดบวกต่อ AH

Technical Daily (T)

SET ลุ้นเด้งโซนรับ!
แนะนำ ซื้อ
BBL  แนวรับ 134 แนวต้าน 140 และ 145 ( Stop loss < 132)
KKP  แนวรับ 69-70 แนวต้าน 75 และ 77 ( Stop loss < 68)
WORK   แนวรับ 19-19.2 แนวต้าน 22 และ 23 ( Stop loss < 18.8)

Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ พลิกปิดลบ หลัง Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ต่อในเดือน พ.ย. // Walmart เตรียมลดการจ้างงานช่วงสิ้นปี รับผลกระทบเงินเฟ้อ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • เมื่อคืนนี้ในช่วงแรกหลังการประชุม Fed 3 ดัชนีหลักปรับขึ้นราว 0.8%-1.5% หลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นไปตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้เป็นการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ครั้งที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี 3 ดัชนีหลักพลิกกลับมาปิดลบ โดยดัชนี DJIA -1.7%, S&P 500 -1.7%, Nasdaq -1.8% หลังตลาดรับรู้มุมมอง Fed ที่เข้มงวดมากขึ้น เนื่องจากคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เผยว่าจะแตะระดับ 4.4% ในปีนี้ และแตะ 4.6% ในสิ้นปี 66 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือน มิ.ย. ที่ 3.4% และ 3.8% ตามลำดับ โดยคาดการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และ 0.5% ในการประชุม 2 ครั้งถัดไปในปีนี้ (เดือน พ.ย. และ ธ.ค.) สูงกว่าก่อนหน้าที่คาดว่าจะขึ้น 0.5% และ 0.25% ตามลำดับ
  • Walmart (WMT) เผยว่าบริษัทมีแผนจ้างพนักงาน 40,000 คนตามฤดูกาลในช่วงเทศกาลคริสมาสต์นี้ ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่มีการจ้างกว่า 150,000 ตำแหน่ง หลังได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ โดย Deloitte คาดการณ์ว่ายอดขายช่วงดังกล่าวจะโต 4-6%YoY ซึ่งต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่โต 15%YoY เราคาดว่าอาจเป็นปัจจัยกดดันกำไร Q4 ของบริษัท โดย Bloomberg Cons. เผยว่ากำไรใน Q4 จะหดตัว 4%YoY และให้ TP ที่ $152.69

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 1.8% กดดันจาก Sunny Optical (2382) -10.5%, Alibaba (9988) -3.7% และ NetEase (9999) -3.6% ด้านธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเป้า GDP จีนปี 65 ลงเหลือ 3.3% จาก 4% และปี 66 เหลือ 4.5% จาก 4.8% หลังได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ตามนโยบาย Zero-Covid และปัญหาในภาคอสังหาฯ โดยอัตราดังกล่าวถือว่าต่ำกว่าเป้าของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียไม่รวมจีนที่คาดว่าจะโต 5.3% ในปี 65-66 ทั้งนี้ เราคาดว่าจีนอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมสมัชชาครั้งที่ 20 วันที่ 16 ต.ค. นี้
  • Sunny Optical (2382) -10.5% หลังผู้บริหารเผยว่ายังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจเลนส์มือถือในปีนี้ เนื่องจากความต้องการสมาร์ทโฟนทั่วโลกยังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ดี เรายังมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตระยะยาวของบริษัท หลังมีแผนขยายพัฒนาธุรกิจเลนส์สำหรับรถยนต์และเลนส์ที่ใช้ในธุรกิจ AR/VR ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD136.20

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN ปิดลบ 0.7% กดดันจาก VCB -0.4%, MWG -2.4% ด้านตัวเลขส่งออก-นำเข้าครึ่งเดือนแรก ก.ย. โต 10%YoY และ 4%YoY ตามลำดับ โดยหากนับ YTD ตัวเลขการส่งออกโต 18%YoY สู่ $265bn และนำเข้าโต 13%YoY สู่ $261bn ส่งผลให้เกินดุลการค้าที่ $4bn ขณะเดียวกัน GAS เผยงบเบื้องต้น 8M65 รายได้โต 33%YoY แตะ VND69tn และกำไรโต 75%YoY แตะ VND10tn หนุนจากยอดขายก๊าซที่เพิ่มขึ้นแตะ 5.4 พันล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 68% ของคาดการณ์จากโบรกเวียดนาม เราคาดปริมาณใช้ก๊าซยังมีโมเมนตัมบวกต่อหนุนจากการเปิดเศรษฐกิจ
  • VNM เผยว่าบริษัทเสียส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจนมผงเด็กในช่วง 1H65 โดยลดลงเหลือ 19.6% จาก 22.3% ในปี 64 หลังถูกกดดันจาก Vita Dairy ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญธุรกิจนมผงเด็ก อย่างไรก็ดี เราคาดว่าประเด็นดังกล่าวสามารถถูกชดเชยด้วยการที่ราคานมผง (ต้นทุน) ในปัจจุบัน ปรับลงมาจากจุดสูงสุดในเดือน มี.ค. ราว 22% ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ VND82,473

Highlight

Bloomberg เผยว่า VinFast ของ Vingroup (VIC) เตรียมออก IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายในปี 66 ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการระดมทุนที่ $36bn นับเป็นบริษัทในเอเชียที่ออก IPO มูลค่าสูงที่สุดรองจากแอปฯ บริการเรียกรถโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในจีน DiDi สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการสร้างโรงงานผลิตรถ EV มูลค่า $4bn ที่นอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐฯ เพื่อเตรียมขยายตลาดสู่ระดับโลก

- Advertisement -