บล.บัวหลวง:
Utilities – บทต่อไปของผู้ผลิตไฟฟ้า (OVERWEIGHT)
ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) เราได้จัดงานประชุมออนไลน์สำหรับนักลงทุนในประเทศ (BLS Power-Up Day) โดยมีผู้บริหารจากบริษัทโรงงานไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมาร่วมพูดคุยกับเราในงานนี้ ซึ่งประเด็นสำคัญจากงานนี้ช่วยยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มของกลุ่ม โรงไฟฟ้า
ราคาก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยที่อยู่ในระดับสูง และภาระทางการเงินจํานวนมากของ กฟผ. แทบจะรับประกันได้ว่าราคาไฟฟ้าจะสูงขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 (และอาจยาวไปถึงปี 2567) เราคาดว่ากำไรปี 2023 ของทุกบริษัทที่เข้าร่วมงานของเรา จะเติบโตได้ดี โดยโรงไฟฟ้า SPP กำลังเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวและโรงไฟฟ้ากลุ่ม VSPP (ที่ไม่ใช่สัญญาแบบ FiT) จะรายงานกําไรที่ขยายตัว และแม้หลังจากที่ กฟผ. เคลียร์ภาระหนี้สินได้แล้ว ค่าไฟฟ้าก็จะไม่ลดลงกลับมาที่ระดับต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วยอีกแล้ว เนื่องจากสัดส่วนการนําเข้า LNG ที่มากขึ้น นอกเหนือจากราคาไฟฟ้าที่สูงแล้ว ตลาดคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นใหม่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาดพลังงานของประเทศไทย ซึ่งเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับกลุ่มพลังงานหมุนเวียน
ประเด็นสำคัญจากการประชุมมีดังต่อไปนี้:
- BCPG (NA): ขยายกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว และพร้อมสําหรับโอกาสในการซื้อขายพลังงาน
- GPSC (“ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 88 บาท): ผ่านไตรมาสที่แย่สุดไปแล้ว กำลังอยุ่ในช่วงการฟื้นตัว
- ERC: วิกฤตพลังงานโลกและอุปทานก๊าซที่ดึงตัวจะหนุนราคาค่าไฟ
- WHAUP (NA): ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลาร์บนหลังคาโรงงานอุตสาหกรรม อุปสงค์ต่อน้ำและไฟฟ้ากำลังขยายตัวสอดคล้องไปกับยอดขายที่ดินของ WHA
- SSP (NA): ตลาดคาร์บอนเครดิตจะเปิดโอกาสที่สำคัญในปีต่อๆ ไป
- SPCG (NA): แผนการขยายกำลังการผลิตจำนวนมากจะกลบผลกระทบของแอดเดอร์ที่ค่อยๆ หมดไป