ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ไซด์เวย์หลังลงมาหลายวัน แต่ปัจจัยระยะสั้นยังเป็นลบอยู่

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index เทรดไซด์เวย์… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลง (ตามคาด) รับแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอแรง + ทิศทางดอกเบี้ยปรับขึ้นแรงทั่วโลก + ปัญหาการเงินการคลังในอังกฤษ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนแรงและกดดันฟันด์โฟลว์… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นยังคงเป็นลบ (แต่เป็นปัจจัยเดียวกับเมื่อวานนี้) กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงปรับลงต่อ หลังจากบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับขึ้นแรงต่อเนื่อง ตอบรับการให้ความเห็นของผู้ว่าการเฟด 2 ท่านเมื่อคืนนี้ ซึ่งส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยเฟดจะยังปรับขึ้นต่อในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ ii) ราคาน้ำมันดิบ WTi ลดลงอีก 3.77% สู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่รอบเกือบเดือน 9 และน่าจะยังส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแอกว่า SET Index ต่อไป…. ด้านปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทเมื่อวานบ่ายอ่อนค่าเกือบถึงระดับ 38.0 ตามแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ผนวกกับตัวเลขดุลการค้าเดือน ส.ค. ที่ ก.พาณิชย์รายงานเมื่อวานนี้ ขาดดุล 4.22 พันล้านดอลล่าร์ฯ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ มองแนวโน้มระยะสั้นของเงินบาทยังอ่อนค่า และยังคงถ่วงฟันด์โฟลว์อยู่… วันพรุ่งนี้ ให้ติดตามผลประชุม กนง. ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของเราคาดว่า กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 1.00%

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร ADVANC*, GFPT, BBL*

  • ADVANC* (เป้าพื้นฐาน 241.35 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 197 บาท / แนวต้าน 200-205 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 215 บาท (Stop loss 194 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น JAS อนุมัติให้ ADVANC* เข้าซื้อ TTTB และ JASIF โดยกระบวนการถัดไปคือ รอที่ประชุมผู้ถือหุ้น JASIF วันที่ 18 ต.ค. เพื่ออนุมัติให้ปรับเงื่อนไขการเช่าโครงการฯจาก JASIF ซึ่งกรณีที่ประชุมผู้ถือหุ้น JASIF อนุมัติฯ เราประเมินจะเป็นบวกต่อประมาณการฯ ADVANC 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวใน 2H65 จากการเปิดประเทศ และ Consensus คาดกำไรปีหน้ากลับมาโต +11% YoY ขณะที่ประมาณการฯมี Upside จากการรวมธุรกิจบรอดแบรนด์ครั้งนี้ 4) Dividend yield ปี 2565 – 66 เฉลี่ยปีละ 3.9% และ 4.3% ตามลำดับ
  • GFPT (เป้าพื้นฐาน 21.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.9 บาท / แนวต้าน 15.5 – 16.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 16.5 บาท (Stop loss 14.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการทยอยเปิดประเทศของประเทศหลักๆ ในเอเชีย จะหนุนความต้องการบริโภคเนื้อไก่ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เป็น 1 ในเป้าหมายหลักของการส่งออกเนื้อไก่ไทย คาดผลการดำเนินงาน 3Q65 โตเด่น และดีต่อเนื่องใน 4Q65 3) เราประเมินราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง ตามแนวโน้มราคาน้ำมัน ขณะที่ราคาเนื้อไก่ยังยืนสูงต่อเนื่อง ทั้งจาก Demand ต่อเนื้อไก่โดยตรง และ Demand จากการที่สินค้าทดแทนอย่างเนื้อหมูที่ปรับขึ้นมาก 4) Valuation ไม่แพง Forward PE 10.6 เท่า / PBV 1.23 เท่า (คิดเป็นราว -0.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 159 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 138 บาท / แนวต้าน 141 – 145 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 150 บาท (Stop loss 135 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจาก i) แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ii) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยโดยหลังการเปิดประเทศ 3) ประเมินฐานลูกค้าหลักของ BBL* ที่เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กรจะฟื้นตัวก่อนและทนทานต่อการขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้มากกว่ากลุ่มลูกค้า SMEs 4) Valuation ไม่แพง PBV 0.54 เท่า คิดเป็นราว -1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต

หุ้นมีข่าว

(+) GPSC* ปิดดีลซื้อลมไต้หวัน 595 MW จ่ายไฟ Q1/67 (ข่าวหุ้น) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งเรื่องการลงทุนโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน เป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (เป็นบริษัทย่อย) ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions precedent) ของสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2565 และได้เข้าถือหุ้น 25% ในบริษัท CI Changfang Limited และ Cl Xidao Limited เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

(+) EGCO* ทุ่ม 200 ล. ซื้อวินด์ฟาร์ม หนุนถือหุ้นเต็มร้อย 87.5 MW (ข่าวหุ้น) EGCO* ทุ่มอีก 200 ล้าน บาท ซื้อหุ้น 10% ในโรงไฟฟ้า “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” และ “เทพพนา วินด์ฟาร์ม” กำลังผลิตรวม 87.5 เมกะวัตต์ ส่งผลถือหุ้นเต็ม 100% พร้อมรับรู้รายได้ทันที ขยายพอร์ตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตามเป้า 30% ภายในปี 73

(+) PCC ผนึก SAMTEL ลุยมิเตอร์อัจฉริยะมูลค่ากว่า 2.3 พันล. (ทันหุ้น) PCC ร่วมลงนามในสัญญากับ SAMTEL สำหรับการจัดซื้อ Smart Meter โครงการติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะ (AMI) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ซึ่ง SAMTEL เป็นคู่สัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 2,359.96 ล้านบาท

(0) STARK* ฉลุย ยักษ์สายไฟอีวี ลั่นไตรมาส 4 รวมงบ LEONI (ทันหุ้น) ผู้ถือหุ้น STARK* อนุมัติทุ่มงบ 20,572.89 ล้านบาท ซื้อหุ้น LEONI Kabel GmbH และ LEONIsche Holding Inc ยักษ์สายไฟฟ้า สำหรับรถยนต์ และ EV Charging Solutions อันดับ 1 ของโลกสัญชาติเยอรมนี 100% ชูยอดขาย 5 หมื่นล้าน บิ๊กบอส “ชนินทร์” คาดธุรกรรมเสร็จไตรมาส 4/2565 รับรู้รายได้และกำไรส่วนเพิ่มทันที

(0) SABUY ลุยแปลง AIT-W2 พร้อมรวมงบไตรมาส 4 (ข่าวหุ้น) SABUY พร้อมใช้สิทธิแปลงสภาพ AIT-W2 หนุนถือหุ้น AIT รวมเป็นกว่า 200 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนกว่า 20% จ่อขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ AIT คาดจะรวมงบทั้งรายได้และกำไรเข้ามาตั้งแต่พ.ย.นี้ พร้อมเล็งออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25%

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดขายทำกำไร PLANB* (Trailing stop 7.15 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 31 บาท / แนวต้าน 32.5 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 30 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 19.5 บาท) แนวรับ 15.8 บาท / แนวต้าน 16.4-17.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 15.7 บาท)
  • SNNP (เป้า Consensus 19.9 บาท) แนวรับ 17 บาท / แนวต้าน 17.8-18.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 16.8 บาท)
  • EPG* (เป้า Consensus 12.25 บาท) แนวรับ 10.2 บาท / แนวต้าน 10.6-11.0 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 10 บาท)
  • ERW* (เป้าพื้นฐาน 5 บาท) แนวรับ 4.14 บาท / แนวต้าน 4.34-4.4 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 4.1 บาท)
  • BLA* (เป้า Consensus 51.8 บาท) แนวรับ 37 บาท / แนวต้าน 38.0-39.5 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Stop loss 36 บาท)
  • KSL (เป้า Consensus 5.07 บาท) แนวรับ 3.86 บาท / แนวต้าน 3.96-4.1 บาท (Stop loss 3.8 บาท)
  • LH* (เป้าพื้นฐาน 11.2 บาท) แนวรับ 8.75 บาท / แนวต้าน 8.95-9.05 บาท (Stop loss 8.65 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 26 บาท / แนวต้าน 27-28 บาท (Stop loss 26 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

AEONTS* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 216 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 2Q65/66 (มิ.ย.-ส.ค.) = 1 พันล้านบาท (-8% QoQ, +51% YoY) โดยกำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นเพราะไม่มีกำไรพิเศษจากการขาย NPLs ในไตรมาสนี้ และคาดว่า LLP จะเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะเป็นเพราะสินเชื่อขยายตัว และ credit cost ลดลงเพราะมีฐานที่สูงของการตั้งสำรองใน 2Q64/65 อย่างไรก็ดีป ระเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของจะฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”

- Advertisement -