บล.บัวหลวง:

Land and Houses (LH TB/LH.BK)

LH – 5 เหตุผลที่ LH คือผู้เล่นที่ดีที่สุดของกลุ่มอสังหาฯ

ในอดีตหุ้น LH มีมูลค่าการซื้อขายบนพรีเมี่ยมที่มีนัย เมื่อเทียบกับกลุ่ม โดยในรายงานนี้จะกล่าวถึงเหตุผลที่เราเชื่อว่าบริษัทควรจะได้พรีเมี่ยมอีกครั้ง ทั้งนี้เราได้เดินทางไปพัทยาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อเยี่ยมชมโรงแรมใหม่ของ LH หรือ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปช พัทยา ซึ่งมีอัตราการเข้าพักสูงถึงราว 90% ต่อเดือน หลังจากการเปิดตัว และมีก่าไรตั้งแต่เดือนแรกของการเปิดทำการ

ยอดจอง – โครงการที่มาได้ถูกที่ถูกเวลา

ในเดือน ส.ค. LH เปิดตัวสองโครงการบ้านระดับบน ได้แก่ นันทวัน พระราม 9 กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (NRNKK – มูลค่าโครงการ 5.2 พันล้านบาท ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท/ยูนิต) และ นันทวัน ปิ่นเกล้า-กาญจนา (NPK – มูลค่า 6.1 พันล้านบาท ราคาเริ่มต้น 34 ล้านบาท/ยูนิต) ซึ่งภายในเวลาเพียงแค่ 1 เดือนที่เปิดตัวโครงการ NRNKK ได้เห็นผู้สนใจซื้อเป็นจํานวนมาก โดยเราคาดน่าจะมีการจองชื่อไปแล้ว 30% เราเชื่อว่าใกล้เคียงกับ NPK ที่มีการจองซื้อกว่า 20% ภายใน 1 เดือน ซึ่งโครงการที่มาได้ถูกที่ถูกเวลานี้จะหนุนยอดจองซื้อในไตรมาส 3/65 ของ LH โดยเราคาดยอดจองซื้อในไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท เติบโต 20% YoY และ 7% QoQ ซึ่งจะหนุนให้ยอดจองซื้อใน 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 74% ของเป้าหมายของ LH ในปี 2565 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท

พรีเมี่ยม -เปิดตัวโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปช พัทยา

โรงแรมธีมอวกาศแห่งแรกของประเทศไทย (มูลค่า 3.2 พันล้านบาท มี 32 ชั้น และ 490 ห้องพัก ซึ่งเป็นวิวทะเลทุกห้อง) ได้เปิดตัวอย่างงดงาม โดยภายในเดือนที่เปิดตัวโครงการ อัตราการเข้าพักของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยาสูงถึง 90% และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 6,500 บาท/ วัน (สูงกว่าเป้าหมายอัตราการเข้าพักของ LH ที่ 50-60% และราคาเฉลี่ยที่ 4,500 บาท) ซึ่งการดาเนินงานสร้างก่าไรให้ตั้งแต่เดือนแรก ซึ่งแทบไม่เคยมีมาก่อนสำหรับโรงแรมเปิดตัวใหม่

เติบโตก้าวกระโดด – รายได้ค่าเช่าจะสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด

LHMH บริษัทย่อยของ LH จะเปิดตัวห้างสรรพสินค้าใหม่ในวันที่ 20 ต.ค. ได้แก่ เทอร์มินอล 21 พระราม 3 ซึ่งมีอัตราการเช่าที่เต็ม 100% เรียบร้อยแล้ว หากรวมกับอัตราการเข้าพักของโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยาที่ 90% และเราเชื่อว่าจะเห็นรายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นอีกในไตรมาส 3/65-4/65 ซึ่งจะมีโมเมนตัมไปถึงปี 2566 นอกจากนี้ LH จะเปิดตัวอีก 3 โรงแรมภายใต้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ได้แก่ สุรวงศ์ ในปี 2566 (399 ห้อง) ลุมพินีในปี 2567 (512 ห้อง) และราชดำริ 2 ในปี 2569 (509 ห้อง) ซึ่งจะหนุนให้ 10 อสังหาฯ ที่ให้ผลตอบแทนค่าเช่าที่ LH สามารถขายให้กับ REIT ได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า (โดยปกติ LH จะขายหนึ่งโครงการ/ปี)

น่าสนใจ – คาดจะเห็นเงินปันผลที่สูงสําหรับผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2565

โดยปกติ LH จะขายการลงทุนทุกปี โดยในปีนี้เราคาดบริษัทจะขายตึกอพาร์ทเม้นในสหรัฐในไตรมาส 4/65 โดยบนสมมุติฐานที่ขายในไตรมาส 4/65 เราคาด LH จะประกาศอัตราเงินปันผลต่อหุ้นที่น่าสนใจสําหรับผลการดำเนินงานในครึ่งหลังของปี 2565 คู่ควรกับพรีเมี่ยม ดั่งที่เคยได้ในปี 2561-62 ในปี 2561-62 LH เคยขึ้นไปซื้อขายบน PER ที่ 16 เท่า ซึ่งเป็นพรีเมี่ยมอย่างมีนัย โดยหนึ่งในเหตุผล คือ รายได้ค่าเช่าที่แข็งแกร่ง (ทั้งโรงแรมและห้างสรรพสินค้า) โดยราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER ปี 2565 เพียง 13.2 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 14.2 เท่าและต่ำกว่า PER ปี 2561-62 ถึง 18% ซึ่งเรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อก่อนที่อุตสาหกรรมอสังหาฯ ไทยจะกลับมาเป็นปกติ และตัวเลขของ LH ที่น่าตื่นเต้น

- Advertisement -