บล.ฟิลลิป:

ที.เค.เอส. เทคโนโลยี – TKS มุ่งสู่ธุรกิจเทคโนโลยีมากขึ้น

Key Point

2H65 แนวโน้มดีกว่า 1H65 ทั้งจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว, รับรู้รายได้ที่เลื่อนมาจาก 2Q65 และ 4Q65 มีงานโปรเจกต์พิเศษ อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรยังมีแนวโน้มดีจาก SYNEX ที่เข้าสู่ high season ในปี 2566 คาดพื้นตัวต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตามคาดการณ์ของ ธปท. หนุนรายได้เติบโตขึ้น อีกทั้งจะมีอีเว้นท์พิเศษ คือ เลือกตั้งที่ กกต. กำหนดวันมาแล้ว ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคา พื้นฐานปี 2566 ที่ 16 บาท อิง P/E 14 เท่า

2H65 รายได้จะดีกว่า 1H65 และกำไรยังโตได้ 2 หลัก

ผู้บริหารมีมุมมองรายได้ใน 2H65 ดีกว่า 1H65 แม้รายได้ (ไม่รวมบัตรพลาสติก) ใน 1H65 ลดลง 8.7% เป็น 754 ล้านบาท เพราะ 2Q64 มีงานโปรเจกต์ 67 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ไม่มี อีกทั้ง 2Q65 มีรายได้บางส่วนเลื่อนไปรับรู้ใน 3Q65 และการผ่อนคลายมาตรการโควิด ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น เริ่มเห็น Backlog กลับมาดีขึ้น อีกทั้งใน 4Q65 จะมีโปรเจกต์พิเศษที่ได้รับการยืนยันจากลูกค้าแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นการพิมพ์ไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลโลกที่มีการแข่งขัน 21 พ.ย. – 18 ธ.ค. 2565 ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไร SYNEX แนวโน้มดี หลังโควิดคลี่คลาย เริ่มเห็นภาครัฐและเอกชนกลับมาใช้งบด้าน IT Infrastructure มากขึ้น และเป็น high season ของสินค้ากลุ่ม Consumer ที่มีออกโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นใหม่ๆ ช่วงปลายปีอย่าง Apple ที่เพิ่งออก iPhone14 มา ก็ได้รับการตอบที่ดี อีกทั้งจะนำสมาร์ทโฟน “HONOR” ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในจีนมาทำตลาดในไทยในช่วง 4Q65 แต่ส่วนแบ่งกำไร PTECH อาจลดลง เพราะ 1H65 มีกำไรจากการขายทรัพย์สิน 183 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักออกการดำเนิน งานปกติยังขาดทุน

มุ่งสู่ธุรกิจเทคโนโลยีมากขึ้น ตามวิสัยทัศน์ “Tech Ecosystem Builder”

มุ่งสู่ธุรกิจเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Tech Ecosystem Builder” โดยที่ผ่านมา TKS ได้เข้าถือหุ้นใน SABUY ที่ 110 ล้านหุ้น จากการขายหุ้น PTECH ให้ SABUY และได้มีการขายหุ้น SABUY 25 ล้านหุ้น เพื่อไปซื้อหุ้น MSC ที่ 32.4 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9% ของหุ้นทั้งหมด ซึ่ง MSC ถือเป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ รับปันผลได้ในปี 2566 และ MSC เป็นลูกค้าของ SYNEX มีโอกาสที่จะทำงานร่วมกันในอนาคต และจัดตั้งบริษัทย่อย “เน็กซ์ เวนเจอร์ส” เพื่อลงทุนในสตาร์ทอัพ ได้เข้าลงทุนใน Dezpax ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ด้านโซลูชั่นบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแบบครบวงจร ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 5,000 ราย ตั้งแต่ธุรกิจร้านอาหารขนาดเล็กจนถึงแบรนด์ชั้นนำ อาทิ Café Amazon, CRG, CPF, Swensen’s, Sizzler, สีฟ้า และยังมองหาการลงทุนเพิ่ม โดยอยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 รายในกลุ่ม Tech Startup ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โฟกัสในกลุ่มธุรกิจ e-Commerce, Warehouse & Fulfillment, Digital Transformation เป็นต้น เพื่อต่อจิกซอร์วิสัยทัศน์ และหนุนธุรกิจเดิมของ TKS

อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น, SG&A ต่อยอดขายลดลง และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปี 2565 กำไรปกติยังโตได้ดี

จาก 2H65 ที่แนวโน้มรายได้ดีกว่า 1H65 อีกทั้งการควบคุมต้นทุน และ SG&A ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นและ SG&A ต่อยอดขายลดลง คาดรายได้ในปี 2565 ที่ 1,535 ล้านบาท -10.6% ส่วนหนึ่งมาจากการขายธุรกิจบัตรพลาสติกไปกับ PTECH (เดิมคือ TBSP) ในขณะที่เงินบาทอ่อนค่า ส่งผลดีเพราะส่งออกมากกว่าการนำเข้าวัตถุดิบ  ซึ่งหากไม่รวมธุรกิจบัตรเครดิตรายได้จากธุรกิจเดิมจะลดลงเพียง 1% และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น คาดกำไรสุทธิที่ 537 ล้านบาท -54.9% เพราะปีก่อนมีกำไรจากการปรับโครงสร้างธุรกิจจากการขาย PTECH หากไม่รวมกำไรปกติจะโตที่ 29.6%

ปี 2566 มีเลือกตั้งและเศรษฐกิจไทยยังโตได้ ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 16 บาท

ปี 2566 แม้เศรษฐกิจโลกอาจมีแนวโน้มถดถอย แต่เศรษฐกิจไทยยังโตได้หลังมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด จากคาดการณ์ของ ธปท. ปี 2566 จีดีพีโต 4.2% จากปี 2565 ที่ 3.3% จากการท่องเที่ยวและบริโภคที่ฟื้นตัว ซึ่งตลาดในประเทศคิดเป็นราว 90% ของรายได้ อีกทั้งจะมีอีเว้นท์พิเศษ หลัง กกต. กำหนดวันเลือกตั้งใหญ่ 7 พ.ค. 66 ถ้า ครม. อยู่ครบวาระ โดย TKS เป็นหนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมการประมูลพิมพ์บัตรเลือกตั้งมาโดยตลอด คาดรายได้ปี 2566 โต 5% เป็น 1,612 ล้านบาท โดยยังไม่รวมงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ส่วนแบ่งกำไรจาก SYNEX คาดโตต่อเนื่อง และรับรู้ปันผลจากการถือหุ้นใน SABUY และ MSC คาดจะมีกำไรที่ 582 ล้านบาท +8.4% y-y อิง P/E ที่ 14 เท่า ราคาพื้นฐานปี 2566 อยู่ที่ 16 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
  2. ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทอื่น
  3. ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่อง จากการลงทุนระยะยาวในบริษัทอื่น
- Advertisement -